ปีที่แล้วหลายคนที่ได้ดูเรื่องราวของผู้หญิงข้ามเพศ (transgender) ใน Danish Girl คงชื่นชมน้ำตาไหลให้กับการแสดงขั้นเทพของสองพระนาง Eddie Redmayne กับ Alicia Vikander กันไม่มากก็น้อย
ปีนี้เราจะได้ดูเรื่องราวของฝั่งผู้ชายข้ามเพศกันบ้าง ในเรื่อง About Ray นำแสดงโดย Elle Fanning (จาก Maleficent และ The Neon Demon), Naomi Watts (นักแสดงเข้าชิงออสการ์จาก The Impossible), และ Susan Sarandon (เจ้าของรางวัลออสการ์จาก Dead Man Walking)
เรื่องย่อ About Ray
Ray หรือ Ramona (Elle Fanning) อาศัยอยู่กับ Maggie ผู้เป็นแม่ (Naomi Watts) และยาย (Susan Sarandon) กับแฟนสาวของยาย (Linda Emond) ที่อพาร์ตเมนต์เล็ก ๆ ในนิวยอร์ก
Ray ต้องการจะเป็นเด็กผู้ชายโดยสมบูรณ์ แต่ก่อนจะเข้ารับการรักษาและแปลงเพศ เขาต้องได้รับการเซ็นยินยอมจากผู้ปกครอง Maggie ยินดีซัพพอร์ตตัวตนของลูกเต็มที่ ถึงแม้เธออาจจะมีลังเลใจอยู่บ้าง แต่นั่นก็ไม่น่าลำบากใจเท่ากับการที่จะต้องเดินทางไปล่าลายเซ็นอนุมัติจากแฟนเก่า Craig (Tate Donovan) ซึ่งตอนนี้มีครอบครัวใหม่ที่แสนอบอุ่นอยู่ต่างเมือง รวมถึง Matthew (Sam Trammell) น้องชายของ Craig
รีวิว วิเคราะห์ วิจารณ์ About Ray
เราคิดไว้แล้วตั้งแต่ก่อนดูว่าเราจะต้องชอบหนังเรื่องนี้ และเราก็ชอบมันจริง ๆ โดยเฉพาะในพาร์ทของครอบครัว ซึ่งถึงแม้ครอบครัวในเรื่องจะซับซ้อนไปหน่อยแต่มันก็เป็นความสัมพันธ์ที่งดงามจนเรากลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาไม่ได้
เราอินกับการเป็น Single Mum ของ Maggie ทั้งที่เรายังไม่เคยมีลูก เราอินกับสภาวะของ Ray ทั้งที่เราเป็น heterosexual หรือแม้แต่ในส่วนที่ตลก หนังก็ทำให้เราหัวเราะได้ และตอนจบอันอบอุ่นก็ทำให้เรายิ้มได้กับความสัมพันธ์ของครอบครัวนี้
แต่เล็กจนโตเรามักถูกปลูกฝังและมีภาพจำมาว่าครอบครัวต้องเป็น พ่อแม่ลูก พี่น้อง และ/หรือ เพิ่มเติมปู่ยาตายาย ลุงป้าน้าอา กรณีเป็นครอบครัวขยาย แล้วที่สำคัญ ครอบครัวที่อบอุ่นต้องเป็นครอบครัวที่พ่อแม่ลูกยังอยู่ด้วยกันพร้อมหน้า และพ่อกับแม่ต้องเป็นเพศชายกับเพศหญิงตามลำดับเท่านั้น แต่ About Ray ทำให้เราเข้าใจนิยาม “ครอบครัว” เปลี่ยนไป และเปิดใจกับครอบครัวในรูปแบบอื่นกว้างขึ้น
ซึ่งเราอยากให้หลายคนได้ดูหนังเรื่องนี้เหมือนเรา เราอยากให้คนอื่น ๆ ที่พ่อกับแม่แยกทางกันแบบเรา รวมถึงคนที่เป็น LGBT หรือมีคนในครอบครัวเป็น LGBT เข้าใจนิยาม “ครอบครัว” ที่หนัง About Ray ตั้งใจจะสื่ออย่างที่เราก็ได้ซึมซับมา
ถึงแม้ชื่อหนังและหน้าหนังโปรโมตว่า “เป็นเรื่องของเรย์ เป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้ชายข้ามเพศ” แต่จริง ๆ แล้วในหนังนั้น เรื่องของเรย์และประเด็น LGBT แทบเป็นประเด็นรอง สิ่งที่หนังให้ความสำคัญมากกว่าดูเห็นจะเป็นเรื่องของแม่ของเรย์และประเด็นครอบครัว จนสมควรจะตั้งชื่อหนังว่า “About Maggie”
Maggie เป็น single mum ที่แบกรับปัญหาทั้งของตัวเองและของลูกไว้เป็นเวลากว่า 16 ปี กว่า 50% ของหนัง เราจะได้เห็นเธอหนักอกหนักใจที่จะต้องไปเผชิญกับอดีตอย่างแฟนเก่าที่ตอนนี้กำลังมีความสุขดีกับครอบครัวใหม่ แต่เธอก็จำต้องพยายามทำทุกอย่างที่จะเป็น The Best Mom ของลูกและทำให้ลูกมีความสุขที่สุด ในขณะเดียวกัน เธอก็เป็นลูกสาวที่ต้องไปขอพักอาศัยอยู่ใต้หลังคาบ้านของคุณแม่เลสเบี้ยน ซึ่ง Naomi Watts แสดงเป็น Maggie ได้ดีระดับสิบดาว
เราอินกับบทบาทของ Maggie มาก น้ำตาซึมเพราะการแสดงของเธอไปหลายรอบเลย อย่างตอนที่เธอกำลังอยู่ในบทบาทของลูกสาว เธอก็กลัวว่าถ้าเธอกับ Ray ย้ายออกไปอยู่ที่อื่น ใครจะดูแลแม่ ๆ ตอนแก่ แต่เอาเข้าจริง แม่ ๆ ของเธอกลับไม่มองว่านั่นเป็นปัญหาเลย ลูกน่ะเอาไปคิดว่าเป็นปัญหาเอง
แต่ที่ชอบมากกว่าคือบทบาทของ Maggie ตอนเป็นแม่ของ Ray โดยเฉพาะซีนที่เธอกำลังบอกเรื่องย้ายบ้านไปอยู่ที่อื่นให้กับ Ray เธอบอกด้วยความทุกข์และความกลัว แต่พอ Ray รู้ว่าจะได้ย้ายบ้าน Ray ดีใจใหญ่มาก เพราะสำหรับเด็กวัยรุ่นแบบเธอ การย้ายบ้านเท่ากับการได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ ได้เป็น Ray คนใหม่อย่างเต็มตัว Naomi Watts เล่นได้ชัดมาก เราเข้าใจเลยว่า ตอนนั้น Maggie รู้สึกอย่างไรเมื่อได้รู้ว่าสิ่งที่เธอกลัวกลับไม่ใช่ปัญหาอะไรเลยสำหรับคนที่เธอรักที่สุด
การย้ายบ้านมันก็อาจจะเทียบเคียงได้กับการแปลงเพศ ทั้งเรื่องเราจะได้เห็นตัวละครต่าง ๆ ตัดสินและคิดแทน Ray ว่า การแปลงเพศมันเสี่ยง มันเป็นปัญหา อาจเปลี่ยนใจกลับมาอยากตั้งท้องไม่ได้อีกแล้วนะ เป็นแค่เลสเบี้ยนก็ได้นะ บลาๆๆ แต่เอาเข้าจริงเราคิดแทนใครไม่ได้ เราเอาตัวเองไปใส่ตัวเขา หรือเอาตัวเขามาใส่ตัวเราไม่ได้เสมอไป
เพราะแต่ละคนมันก็มีความคิดและมุมมองแตกต่างกัน ปัญหาและความสุขของแต่ละคนมันก็ไม่เหมือนกัน ถ้าเราไม่เป็น Ray เราคงไม่เข้าใจหรอกว่า การได้เป็นตัวเขาเองจริง ๆ มันสำคัญขนาดไหน เขาเจออะไรมาบ้าง แถมแค่จะเป็นตัวเอง ยังเป็นไม่ได้ ต้องให้คนอื่นมาเซ็นอนุญาตยินยอมเลย แล้ว Elle Fanning ก็พลิกโฉมเป็น Ray ได้ดีเช่นกัน ลืมไปเลยว่าเธอสวยและเคยเป็นเจ้าหญิงดิสนีย์ ถือเป็นอีกหนึ่งนักแสดงวัยรุ่นที่น่าจับตามอง
ประเด็น LGBT ของ Ray อาจจะไม่ชัดเท่าที่หน้าหนังโปรโมตโครมครามหรืออย่างที่บางคนคาดหวัง แต่สำหรับเรา เท่าที่เขานำเสนอมา มันก็ไม่ได้แย่เลย เพราะเขาเลือกที่จะนำเสนอว่าคนรอบข้างคิดยังไง ปฏิบัติยังไงต่อคนกลุ่มนี้ เช่น แม่อาจจะเต็มใจซัพพอร์ตลูกนะ ยังไงลูกก็เป็นลูก แต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ว่า อนาคตลูกจะเป็นยังไง คนอื่นจะยอมรับและรักลูกได้มั้ย
เราเข้าใจแหละว่าจากการตั้งชื่อเรื่องและทำหน้าหนังให้หลายคนคาดหวังว่าฉันต้องมาดูเรื่องราวของคนที่เป็น LGBT จริง ๆ ไม่ใช่มาดูแค่หนังครอบครัวที่มีคนคนนึง (หรือหลายคน) เป็น LGBT ซึ่งสำหรับเรา นั่นก็เป็นข้อผิดพลาดอย่างเดียวของหนังเขาจริง ๆ นั่นแหละ
แต่ถ้าจะให้ About Ray เป็นเรื่องราวของคนที่เป็น LGBT จริง ๆ ไปเลย ก็เกรงจะไปซ้ำและเกิดข้อเปรียบเทียบกับ Danish Girl เกินไป ซึ่งหลายคนก็เพิ่งดูกันไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ที่เมืองนอกหลายประเทศ หนังเขาก็ไม่ได้ใช้ชื่อ About Ray นะ เขาใช้ชื่อ Three Generations ซึ่งเราว่าอันนี้ชื่อเรื่องเข้ากับเนื้อเรื่องของหนังมากกว่า เพราะในครอบครัวมีรุ่นของ Ray ซึ่งเป็นวัยรุ่น, รุ่นของพ่อแม่, และรุ่นของตายาย ที่มักมีอะไรหลายอย่างที่คิดเห็นไม่ตรงกัน แต่ก็ต้องมาอยู่ร่วมกัน ด้วยความรักและความเข้าใจ
เช่น ยายอาจจะมองว่า ไอติมจริง ๆ มันไม่ดีต่อสุขภาพ กินแค่ไอติมปลอมก็พอ อร่อยเหมือนกัน แต่ลูกรู้ว่ายังไงไอติมปลอมก็ไม่รสชาติเหมือนไอติมจริง หรือการแปลงเพศมันเสี่ยง เป็นแค่เลสเบี้ยนก็พอ นอนกับผู้หญิงได้เหมือนกัน แต่หลานไม่ได้อยากเป็นเลสเบี้ยนไง หลานอยากเป็นผู้ชาย ยายเก๊ตปะ?!
แต่คิดว่า ไม่ช้าก็เร็ว… อย่างเร็วที่สุดก็รุ่นน้อง ๆ (siblings) ของ Ray หรือลูก ๆ ของ Ray ก็คงจะเริ่มเห็นว่า transgender เป็นเรื่องที่แปลกน้อยลง และในที่สุดก็จะไม่มีไดโนเสาร์มองว่าคนกลุ่มนี้เป็นโรคหรือป่วยอีกต่อไปก็ได้
นอกจากประเด็นครอบครัวและ LGBT เราชอบภาพและสีที่หนังเลือกใช้ อาจจะไม่สวยเท่า Danish Girl แต่โดยรวมก็ยังสวยและดูตั้งใจถ่ายอยู่ดี อีกอย่างที่ชอบคือการเลือกใช้คำในบทสนทนา เขาตั้งใจเลือกสรรคำมาใช้อย่างระวังและสร้างสรรค์ดี จนบางครั้งเราก็รู้สึกนะว่า… เออ บางอย่างเราจะมีคำจำกัดหรือชื่อเรียกแบ่งแยกให้ยุ่งยากกันไปทำไม
ถ้าใครฟังภาษาอังกฤษได้ แนะนำให้ฟังเลย จะดูเรื่องนี้สนุกกว่าอ่าน subtitle เยอะ ยกตัวอย่างง่าย ๆ แค่การเรียก Ray ว่า he หรือ she ในภาษาอังกฤษ มันก็ได้เห็นฟีลชัดกว่า การเรียก Ray ว่า เขา หรือ เธอ ในภาษาไทยแล้ว
โดยสรุปถึงแม้ประเด็น LGBT จะไม่ได้ชัดแบบที่ตั้งชื่อหนังว่า About Ray แต่ถ้ามองข้ามชื่อหนังหรือลืมเทรลเลอร์มันไปซะ (เพราะบางครั้งจะชื่ออะไรมันไม่สำคัญเลย) เราจะเห็นว่านี่เป็นหนังครอบครัวที่น่ารักอบอุ่นเรื่องหนึ่งทั้งเรื่องราวและการแสดงอันยอดเยี่ยมจากผู้หญิงสามเจนเนอเรชั่นในเรื่องนี้ จะทำให้เรายิ้ม หัวเราะ และร้องไห้ได้หลายต่อหลายครั้งในเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงครึ่ง และที่สำคัญ ทำให้เราเข้าใจคำว่าครอบครัวในมุมมองที่มีมิติมากขึ้น
คะแนนตามความชอบส่วนตัว 8/10
About Ray เข้าฉาย 29 กันยายน 2016 นี้ เฉพาะที่โรง SFW, LIDO, HOUSE RCA, PARAGON, และ ESPLANADE
80 comments