ในปี 2014 ที่ผ่านมา มีหนังหลายเรื่องที่ขับเคลื่อนโดยตัวละครเอกที่เป็นเพศหญิง (female protagonists) เช่น The Hunger Games: Mockingjay Part 1, Divergent, Lucy, The Babadook, Gone Girl, Maleficent ฯลฯ
จนเป็นที่น่าสนใจว่า หนังฮอลลีวูดสมัยนี้อาจมีแนวโน้มประสบความสำเร็จ โด่งดัง หรือทำเงินได้มากกว่า ถ้ามีตัวละครนำเป็นผู้หญิง
ผู้นำเทรนด์นักแสดงนำหญิงที่มีอิทธิพลที่สุดแห่งยุค เป็นใครไม่ได้นอกจากสาวรั่ว Jennifer Lawrence ที่เริ่มมีชื่อเสียงจาก The Hunger Games และได้ออสการ์จาก Silver Linings Playbook เธอก็ได้รับบทบาทใน X-Men: Days of Future Past ที่เด่นกว่าตอนเล่น X-Men: First Class อย่างเห็นได้ชัด (นี่ยังไม่รวมหนังเรื่องอื่นๆ ที่ถือโอกาสดึงเธอไปเป็นนางเอกอีกนะ)
ล่าสุด Jennifer Lawrence ติดอันดับหมายเลข 1 จากการจัดตำแหน่ง The One Celebrity We Couldn’t Stop Googling in 2014 แถมตัวละคร Katniss Everdeen ที่เธอสวมบทบาทใน The Hunger Games ก็ติดโผ The 15 Most Influential Fictional Characters of 2014 ของ TIME Magazine อีกด้วย
นอกจากนี้ แม้กระทั่งหนังภาคต่อหลายเรื่อง ที่ภาคแรกๆ ไม่ได้ผลักดันบทตัวละครหญิงให้เด่นหรือทัดเทียมตัวละครชายเท่าไหร่ ก็ค่อยๆ เพิ่มบทบาทให้ผู้หญิงมากขึ้น เช่น…
หนัง Marvel อย่าง Iron Man ที่ภาคหลังๆ Pepper Potts (Gwyneth Paltrow) ก็เริ่มมีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ Thor: The Dark World ก็ส่งให้ Jane Foster (Natalie Portman) เป็นตัวละครที่มีมิติมากกว่าภาคแรก หรือ Captain America: The Winter Soldier ที่มี Natasha Romanoff หรือ Black Widow (Scarlett Johansson) เข้ามามีบทบาทเด่นเทียบเท่ากัปตันกล้ามบึ้ก
อย่างไรก็ตาม จริงๆ แล้ว ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ก็มีหนังหลายเรื่องที่ประสบความสำเร็จทั้งที่ตัวละครเอกเป็นผู้หญิง ยกตัวอย่างหนังในช่วงหลังๆ นี้หน่อย ก็เช่น The Help, Black Swan, Pitch Perfect, Gravity, The Devil Wears Prada, Mean Girls,
และ The Bling Ring ที่แสดงนำโดย Emma Watson ซึ่งล่าสุด Cosmopolitan.com จัดให้เป็น Feminist Celebrity of the Year อันดับ 1 ประจำปี 2014 (อ่านเพิ่มเติม Emma Watson Is the Top Celebrity Feminist of 2014)
โดยส่วนตัว เราสังเกตว่าดิสนีย์เป็นค่ายหนังที่นำเทรนด์เรื่องนี้มานานที่สุดแล้ว ทั้งในแบบเวอร์ชั่นการ์ตูน ก็จะเป็นเหล่าเจ้าหญิงในเครือทั้งสาแหรก เช่น Snow White, Cinderella, Mulan ฯลฯ (คลิกดูรายชื่อ Disney Princess)
ส่วนในแบบคน ที่เราจำได้แม่นเลยคือบทเจ้าหญิงมีอาใน Princess Diaries ที่ส่งให้ Anne Hathaway แจ้งเกิดอย่างเต็มตัวจนได้เป็นนางเอกตุ๊กตาทองในเวลาต่อมา (จาก Les Misérables)
แล้วในยุคหลังๆ ดิสนีย์ก็มาโดดเด่นมากขึ้น กับการสร้างสรรค์คาแรกเตอร์ใหม่ขึ้นมา (ทั้งสร้างใหม่ล้วนๆ เอง และทั้งจับของเดิมมาปัดฝุ่นใหม่) เช่น Frozen, Maleficent หรือแม้แต่ Big Hero 6 หนังแอนิเมชั่นเรื่องล่าสุดของดิสนีย์ ที่ถึงแม้ตัวละครหลักจะไม่ใช่เพศหญิง แต่หนังก็คงคอนเซ็ปต์ความเท่าเทียมทางเพศเอาไว้ไม่ตกหล่น
และในต้นปีหน้า เรายังจะได้ดู Into the Woods ซึ่งเป็นหนังรวมเจ้าหญิงมากมายไว้ในแผ่นฟิล์มเดียวกัน นอกจากนี้คนที่รับบทแม่มดร้ายในเรื่อง ไม่ใช่ใครอื่น แต่คืออดีตนางมารรองเท้าพราด้า Meryl Streep ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเซเลบริตี้ที่ Cosmopolitan.com จัดให้เป็น Feminist Celebrity of the Year เช่นเดียวกับแม่มดน้อย Hermione Granger อีกด้วย น่าจับตามองมากๆ
แต่ใช่ว่าหนังทุกเรื่องที่พยายามผลักดันตัวละครหญิงให้เด่นจะประสบความสำเร็จไปเสียทุกเรื่อง บางเรื่องก็ “เฟล” เหมือนกัน เช่น ล่าสุด The Hobbit: The Battle of the Five Armies ที่เกาะกระแส feminism คือจู่ๆ เพิ่มบทบาทของเอลฟ์สาว Tauriel (Evangeline Lilly) ให้เด่นเกินหน้าเกินตาฮอบบิท Bilbo Baggins (Martin Freeman) ทั้งบทบู๊และบทดราม่า
แต่ผลออกมาคือผู้กำกับฯ Peter Jackson ถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง แม้แต่ Evangeline Lilly ตัวนักแสดงเองยังให้สัมภาษณ์เลยว่า เธอไม่เห็นด้วยกับไอเดียนี้ และไอเดียนี้เพิ่งมาถูกสั่งให้ถ่ายเพิ่มทีหลังจริงๆ (อ่านเพิ่มเติม Evangeline Lily on Tauriel’s story in The Desolation of Smaug)
อ่านบทความเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้อง: 10 ตัวละครหญิงผู้ทรงอิทธิพลในโลกดิสโธเปีย
42 comments