Fighting with My Family เป็นหนังสร้างจากเรื่องจริง… จากเรื่องราวครอบครัวของ Paige หรือ Saraya นักมวยปล้ำหญิง WWE (World Wrestling Entertainment) ที่ต่อมาได้เป็นแชมป์นักมวยปล้ำหญิง Divas Champion ที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยหนังครอบครัวมวยปล้ำเรื่องนี้ โปรดิวซ์โดย Dwayne Johnson หรือ The Rock อดีตนักมวยปล้ำ WWE ชื่อดังนั่นเอง
Saraya/Britani/Paige (Florence Pugh จาก Lady Macbeth) เป็นลูกสาวคนเล็กของครอบครัวนักมวยปล้ำท้องถิ่น Ricky (Nick Frost จาก Shaun of the Dead) และ Julia (Lena Headey จาก Game of Thrones) ทั้งเธอและ Zak พี่ชายของเธอ (Jack Lowden จาก Dunkirk) ต่างก็มีความฝันอยากเป็นนักมวยปล้ำในสังกัด WWE เพื่อครอบครัวจะได้มีชีวิตที่ดีขึ้น แต่ในการออดิชั่นรอบแรก โค้ช Hutch (Vince Vaughn) ให้ Saraya คนเดียวเท่านั้นที่ได้ไปฝึกต่อที่ฟลอริด้า
ตามสไตล์ “หนัง The Rock” ไม่ว่าจะหนังแนวไหน เค้าจะเน้นความเป็นหนังครอบครัว และทำออกมาได้สนุกทุกเรื่องเสียด้วยสิ สำหรับ Fighting with My Family ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งของหนัง The Rock ที่เราว่าไม่ผิดหวัง ดูง่าย ย่อยง่าย ฟีลกู้ด สนุกครบรส กลมกล่อมทั้งพาร์ทครอบครัวและคอเมดี้ โดยที่พาร์ทมวยปล้ำก็ทำออกมาพอดี
หนังไม่ได้ปล้ำเยอะหรือปล้ำหนักหน่วงอะไร ฉากปล้ำเท่าที่มีก็ไม่ได้รุนแรงถึงขั้นเด็กดูไม่ได้ ทั้งนี้ เค้าต้องรักษาคอนเซ็ปต์ความเป็นหนังครอบครัว ดังนั้น เนื้อเรื่องส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ในครอบครัว ความฝัน และการเป็นตัวของตัวเองของคนคนหนึ่ง พร้อมสอดแทรกประเด็นต่าง ๆ เช่น ประเด็นคนชายขอบ และการตัดสินคนอื่นจากภายนอก เป็นต้น
อย่างที่เล่าไปแล้วในเรื่องย่อ เมื่อคนพี่ไม่ได้ไปต่อ คนน้องจึงต้องไปฝึกซ้อมไกลบ้านอยู่คนเดียว ด้วยความที่เป็นคนอังกฤษและรูปร่างหน้าตาไม่ใช่แบบพิมพ์นิยม โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับบรรดานักมวยปล้ำหญิงคนอื่น ๆ ที่มักจะสวยเซ็กซี่ดีกรีนางแบบหรือเชียร์ลีดเดอร์ ทำให้เธอรู้สึกแปลกแยก และเข้ากับเพื่อนไม่ได้ เธอจึงพยายามฟิตอิน เพื่อให้เข้ากับเพื่อนได้ และเพื่อให้ได้รับการยอมรับจากคนดูข้างสนาม โดยการเปลี่ยนแปลงลุคให้ดูเป็นผู้หญิงพิมพ์นิยมมากขึ้น
แต่หนังจะสอนให้เราเห็นว่า คนที่จะประสบความสำเร็จในด้านใดด้านหนึ่งหรือไปถึงจุดสูงสุดของความฝันของตนเองได้นั้น (ซึ่งต้องมั่นใจว่าเป็นความฝันของเราเองจริง ๆ ด้วยนะ) สิ่งสำคัญที่ต้องมีคือ ความเป็นตัวของตัวเอง ไม่พยายามเป็นคนอื่น หรือเจริญตามรอยคนอื่นมากเกินไป ยกตัวอย่างเช่น ตอนออดิชั่น ก็มีแค่ Saraya คนเดียวที่ผ่าน ในขณะที่ในบรรดาคนอื่น ๆ อีกสิบคนที่ไม่ได้รับการคัดเลือกนั้น บางคน…รวมถึงพี่ชายของเธอเอง…เก่งมวยปล้ำมากกว่าเธอเสียด้วยซ้ำ ตรงนี้ตอกย้ำว่า คนที่เก่งที่สุดก็ไม่ได้แปลว่าจะสำเร็จที่สุดเสมอไป
ในขณะเดียวกัน หนังก็ไม่ได้ขายฝันจนเกินไป หนังยังเล่าบนพื้นฐานความเป็นจริงว่า ไม่ใช่ทุกคนที่จะเกิดมาเป็นสตาร์ แต่ถึงแม้จะไม่ได้เป็นสตาร์… ไม่ได้เป็นนักมวยปล้ำมืออาชีพระดับโลก…ก็ไม่ได้แปลว่าเราไม่มีค่าหรือไม่มีความสำคัญ ยกตัวอย่างเช่น Zak ก็ยังสามารถซัพพอร์ตหรือเป็นกำลังใจให้น้องสาวประสบความสำเร็จได้ เป็นพ่อและสามีที่ดีของครอบครัวได้ หรือกระทั่งอาจจะเป็นโค้ชที่ดีของลูกศิษย์ได้ ตำแหน่งทั้งหมดที่กล่าวมา ไม่ว่าจะเป็นพี่ชาย เป็นพ่อ เป็นสามี หรือเป็นครู ล้วนแต่มีความสำคัญกับคนอีกคนทั้งสิ้น
โดยรวม Fighting with My Family จึงเป็นหนังที่ดีสำหรับเรา อาจจะไม่ได้ดีระดับหนังรางวัล แต่ดีในแง่ความเป็นหนังครอบครัว หนังฟีลกู้ด หนังที่ให้กำลังใจและแรงบันดาลใจกับคนดู ในขณะเดียวกัน ก็ยังทำออกมาดูสนุกและตอบโจทย์ความบันเทิงทั้งครอบครัวได้อย่างดี
คะแนนตามความชอบส่วนตัว 8/10
47 comments
Comments are closed.