We’re writing a book and we’re having fun.
เชื่อว่า คนในยุคเราคงไม่มีใครไม่รู้จัก Winnie the Pooh และผองเพื่อน หนังสือและภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชั่นที่มอบความสุขให้กับผู้คนมาหลายทศวรรษ แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่า เบื้องหลังของความสำเร็จของ Winnie the Pooh ไม่ได้เต็มไปด้วยรอยยิ้มและความสุขของครอบครัวคนเขียนในทุก ๆ หน้ากระดาษของชีวิต
Goodbye Christopher Robin เล่าเรื่องครอบครัว Milne นำโดยหัวหน้าครอบครัว Alan Milne หรือ Blue (Domhnall Gleeson จาก About Time) ซึ่งเป็นนักเขียนชื่อดัง แต่เป็นโรค PTSD หลังจากกลับจากการเป็นทหารแนวหน้าในสงครามโลกครั้งที่ 1 มา ทำให้เขาเขียนหนังสือไม่ออก และอยากจะเขียนหนังสือที่มีเนื้อหาต่อต้านสงคราม (antiwar) เขาต้องการหาความสงบ จึงย้ายครอบครัวจากกรุงลอนดอนไปอยู่ในป่าชนบทย่าน Sussex ทำให้ Daphne ภรรยาของเขา (Margot Robbie จาก Suicide Squad) ซึ่งเป็นสาวสังคมหัวสูง ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก
ทั้งสองมีลูกชายชื่อ Christopher Robin Milne หรือ Billy Moon (Will Tilston และ Alex Lawther จาก The Imitation Game) แต่ส่วนใหญ่คนที่ดูแล Billy จะเป็นพี่เลี้ยงชื่อ Olive หรือ NouDaphne ภรรยาของเขา (Kelly Macdonald จาก No Country for Old Men) และจินตนาการของ Billy Moon นี้เองที่เป็นแรงบันดาลใจและเป็นต้นกำเนิดของตัวละครต่าง ๆ ในหนังสือ Winnie the Pooh ของ Alan Milne
สำหรับคนที่ไม่เคยรู้เรื่องราวของพวกเขาเลยอย่างเรา ต้องบอกว่าเรื่องราวของเขามีความน่าสนใจ ให้บทเรียน และเป็นแรงบันดาลใจให้เราในหลาย ๆ ด้าน รวมถึงเรื่องการทำงาน ชื่อเสียง และความสัมพันธ์ เรื่องราวของพวกเขาก็มีทั้งทุกข์และสุขคละเคล้ากันไป
โดยส่วนใหญ่ช่วงวัยเด็กของ Billy Moon ก่อนที่งานเขียน Winnie the Pooh ของพ่อเขาจะวางแผงนั้น เขาแฮปปี้ สดใส และมีชีวิตวัยเยาว์แบบเด็กน้อยทั่วไปพึงมี แต่พอหลังจากที่ Winnie the Pooh เป็นที่รู้จักทั่วทั้งโลก ชีวิตของ Billy ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปเพราะชื่อเสียงที่เขาไม่ได้ตั้งใจอยากจะได้อยากจะมีนั่นเอง ซึ่งในช่วงท้าย ๆ ก็มีช่วงที่ทำให้เราต้องซับน้ำตาอยู่เหมือนกัน เรื่องราวของพวกเขานั้นอินได้ไม่ยากเลย
เป็นที่น่าเสียดายที่หนังยังเล่าเรื่องได้ไม่ราบรื่นเท่าที่ควร รู้สึกไม่ต่อเนื่องในบางฉาก แต่เราชอบสคริปต์และไดอะล็อกอันเป็นคารมคมคายของตัวละคร ตัวละครหลักเองก็มีความน่าเสียดายอยู่เช่นกัน เพราะพวกเขาต้องมีคาแรกเตอร์เหมือนตัวในเทพนิยายมากกว่าจะดูเรียล เช่น Daphne (Margot Robbie) ที่คาแรกเตอร์ราวกับแม่เลี้ยงใจร้ายมากกว่าจะดูเป็นแม่คนที่ร้องไห้ให้กับลูกในไส้ของตัวเองได้ ตัวละครที่มีความเป็นมนุษย์ที่สุดและดูมีอยู่จริงจริง ๆ เห็นจะมีแต่ Nanny Nou (Kelly Macdonald) แต่การแสดงของพวกเขาโดยรวมก็ทำได้ดีเท่าที่บทและการกำกับหนังเขาจะอำนวยให้เล่นได้
จุดที่ติดใจที่สุดคือ casting ตัวละคร Billy Moon ซึ่งถือเป็นหัวใจหรือศูนย์กลางของเรื่อง กล่าวคือ Billy ในวัยเด็ก แสดงโดย Will Tilston ซึ่งผมบลอนด์และ chubby ประหนึ่งหมีวินนี่ แต่พอโตมา กลายเป็น Alex Lawther ซึ่งผมดำและผอมกะหร่อง ตอนตัดหน้าทั้งสองไปมา ไม่อาจทำให้เชื่อได้เลยว่า เด็กสองคนนี้คือ Billy Moon คนเดียวกัน แม้แต่จะคิดว่าเป็นพี่น้องกันก็ยังติดใจ (สารภาพว่า ตอนฉากเปิด ที่หนังตัดให้เห็นภาพเด็กสองคนนี้พร้อม ๆ กัน ก็นึกว่าพระเอกกับนางเอกมีลูกสองคนด้วยซ้ำ)
นอกจากรูปลักษณ์ภายนอกของ Billy Moon ทั้งสองวัยแล้ว การคาบเกี่ยวตอนที่พวกเขาเติบโตและเปลี่ยนแปลงบุคลิกยังไม่ต่อเนื่องกันเท่าไหร่ หนังเล่าเรื่องมาไม่น้อยว่า Billy Moon ต้องเจอกับอะไรต่อมิอะไรบ้างจากชื่อเสียงของ Winnie the Pooh แต่สุดท้ายมันก็เหมือนหนังเขาบอกเราไม่หมด ไม่ครบ และไม่ถึงรากถึงโคนพอ ที่จะทำให้เราเข้าใจในความเจ็บปวดและสิ่งที่พวกเขาเผชิญอย่างแท้จริง พูดง่าย ๆ คือ มันน่าจะออกมาดีกว่านี้ได้อีก
แต่โดยรวม ก็เป็นหนังที่เราชอบเรื่องหนึ่ง เพราะเรื่องราวของพวกเขาก็มีความ amazing ในตัวเขาเองอยู่แล้ว ภาพก็สวยงามตามท้องเรื่อง ถือเป็นการดูหนังเรื่องแรกของปีที่ไม่ย่ำแย่อะไรเลย
คะแนนตามความชอบส่วนตัว 7.5/10
เข้าฉาย 4 ม.ค. 2017 ในโรงภาพยนตร์
40 comments
Comments are closed.