หลังจากประสบความผิดหวังอย่างมากกับหนังผีสองเรื่องล่าสุดที่ดู คือตุ๊กตาผี Annabelle กับกระดานผี Ouija ประกอบกับความเบื่อหน่ายกับพล็อตซ้ำๆ ของหนังผีฝรั่งที่เดาง่าย (แนวบ้านผีสิง คนถูกผีสิง บูชาลัทธิซาตาน หรือพิธีกรรมทางศาสนา) เราจึงเข้าโรงดู Jessabelle อย่างไม่คาดหวังอะไรมาก แต่ผลปรากฏว่า Jessabelle เหนือความคาดหมายจากที่เราคาดคิด
เรื่องย่อ Jessabelle
Jessabelle เป็นเรื่องของ Jessabelle หรือ Jessie (Sarah Snook) หญิงสาวที่เพิ่งประสบอุบัติเหตุรถชนจนขาหักทั้งสองข้าง ต้องใช้เวลาหลายเดือนในการกายภาพบำบัดพักฟื้น แต่ที่โชคร้ายยิ่งกว่าก็คือ เธอสูญเสียสามี (Brian Hallisay) และลูกในท้องของเธอไปพร้อมกับอุบัติเหตุครั้งนั้น เธอไม่มีทางเลือกนอกจากกลับไปอยู่กับพ่อ (David Andrews) ที่ไม่ได้เจอกันมาหลายปีแล้ว
พ่อให้เธอพักอยู่ในห้องนอนเก่าของแม่ (Joelle Carter) เพราะเป็นห้องนอนห้องเดียวที่อยู่ชั้นล่าง แม่ของเธอต้องพักในห้องนี้เพราะช่วงสุดท้ายของชีวิตเธอป่วยเป็นมะเร็งสมองและต้องนั่งรถเข็น เช่นเดียวกับที่ Jessie ต้องนั่งรถเข็นอยู่ตอนนี้
และวันหนึ่งเธอได้พบวิดีโอเทปเก่า (VHS tapes) ใต้เตียงของแม่ ซึ่งเป็นเทปที่แม่อัดไว้ขณะตั้งครรภ์เธอในช่วงปี 1987-1988 ในเทปนั้น แม่ของเธอดูดวงไพ่ยิปซี (หรือไพ่ทาโรต์ สักอย่าง) ให้เธอล่วงหน้า 18 ปี นอกจากนี้ Jessie ยังได้เห็นและรู้สึกว่ามีผีผู้หญิงผมยาวๆ เปียกๆ (เหมือนผี The Ring) (Amber Stevens) คอยตามหลอกหลอนและอยู่กับเธอตลอดเวลาในบ้านหลังนี้
แต่ท่ามกลางความโชคร้ายสารพัดของ Jessie เธอยังโชคดีที่ Preston (Mark Webber) แฟนเก่าสมัยมัธยมของเธอ กลับเข้ามาในชีวิตและคอยอยู่เคียงข้างเธอในวันที่เธอกำลังอ่อนแอที่สุด
รีวิว/วิจารณ์หนัง Jessabelle
ถ้าพูดในแง่โปรดักชั่น Jessabelle ค่อนข้างเป็นหนังทุนต่ำ สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในหนังไม่ใช่ผี (เอาจริง เราว่าผีตลกมาก) แต่เป็นบ้านของพ่อนางเอกเองที่น่ากลัวในตัวของมัน
มันเป็นเหมือนบ้านที่เคยสวยหรูเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน และหยุดเวลาและความเรเนสซองต์ทุกอย่างไว้แค่นั้น ซึ่งก็ไม่เข้าใจว่าพ่อของนางเอกอยู่คนเดียวในบ้านหลังนี้มาได้ยังไงตั้งหลายปีโดยไม่เจอหรือไม่รู้สึกหลอนอะไรบ้างเลย เพราะขนาด Jessie เพิ่งกลับมาอยู่ได้ไม่กี่ชั่วโมง ก็เจอของดีเข้าแล้ว
บ้านหลังนี้มีองค์ประกอบของหนังบ้านผีสิงครบทุกอย่าง เว้นก็แต่ไม่มีห้องใต้ดิน และคนดูจะไม่ได้เห็นภาพชั้นบนของบ้านเพราะนางเอกขึ้นไปไม่ได้ เราก็จะได้เห็นตัวบ้านแค่เท่าที่เธอเห็นบนรถเข็นนั่นแหละ
ถึงแม้เราจะชินชากับหนังผีที่เกี่ยวข้องกับลัทธิโบราณๆ และพล็อตอาจจะดูแปลกๆ รั่วๆ หรือเบาโหวงไปบ้าง แต่สำหรับเรา Jessabelle ยังมีเสน่ห์ตรงวิดีโอที่แม่พยายามสื่อสารกับลูก เพราะรู้ว่าโรคร้ายของตัวเองจะพรากเธอไปและจะไม่มีวันได้อยู่ดูวันที่ลูกเติบโต
ซึ่งซีนที่ Jessie นั่งดูวิดีโอของแม่ เราคิดว่าเป็นส่วนที่ดีที่สุดของหนัง เราได้เห็นความรักของแม่ที่พยายามจะสื่อสารกับลูกและพยายามเตือนลูกถึงภัยอันตราย อีกทั้งได้เห็นความรักของลูกที่อยากจะรู้จักและใกล้ชิดกับแม่ที่เธอไม่เคยได้เจอตั้งแต่จำความได้
ในเรื่องนี้ ตัวร้ายของเรื่องยังคงเป็นผีผู้หญิงเช่นเดียวกับหนังผีหลายๆ เรื่อง ซึ่งเราก็ยังไม่เข้าใจจนถึงบัดนี้ว่าทำไมหนังผีส่วนใหญ่เลือกให้วิญญาณที่อาฆาตแค้นพยาบาทเป็นวิญญาณเพศหญิงแทบทุกทีไป
อย่างไรก็ตาม หนังเรื่องนี้ยังมีประเด็น Racism หรือการเหยียดผิวด้วย กล่าวคือ ในเมือง Louisiana ที่เกิดเหตุนี้ จะมีกลุ่มคนผิวสีกลุ่มหนึ่งที่เป็นพวกคลั่งลัทธิเฮติหรือพวกวูดู ที่ดีแต่จะทำตัวแปลกประหลาดและบูชาสิ่งที่คนขาวมองว่าไร้สาระ
พล็อตย่อยหรือซับพล็อตเป็นเรื่องราวความสัมพันธ์อันซับซ้อนระหว่างนางเอกกับแฟนเก่า หนังพยายามใส่ความดราม่าลงไปในความสัมพันธ์ของทั้งสอง แต่เรายังรู้สึกขัดใจและลดความขลังของหนังลงไปพอสมควร ถึงแม้ว่าเราจะชอบพระเอกเวลาอยู่กับนางเอก และชอบตอนจบมากแค่ไหนก็เถอะ
พูดถึงตอนจบของเรื่อง หนังหักมุมในมุมที่เราคาดเดาไม่ถูก (แต่บางคนอาจจะคาดเดาได้ ขึ้นอยู่กับความสามารถของบุคคล) และจบได้ใจเราอย่างบรรยายไม่ถูก บางคนอาจจะไม่ชอบตอนจบแบบนี้ แต่เราชอบให้จบแบบนี้ รู้สึกว่าเป็นตอนจบที่ดีที่สุดแล้วสำหรับปมทั้งหมดที่เรื่องเขาผูกไว้
โดยสรุป Jessabelle อาจจะไม่ใช่หนังผีที่แปลกใหม่มาก และอาจจะไม่ได้ดีเทียบชั้น The Conjuring แต่หนังก็มีความพยายามในการสร้างเสน่ห์ของตัวเองในระดับที่น่าพอใจ หนังไม่ได้น่ากลัวมากเพราะผีไม่ได้มาหลอกแบบตุ้งแช่ แต่มีความจิตและมีความหลอนที่ทำให้เราอยากติดตามหาความจริงไปกับนางเอก อย่างน้อยโดยรวม ในความรู้สึกของเรา Jessabelle ก็สนุกกว่าหนังผีที่ฟอร์มดังกว่าอย่าง Annabelle อยู่หลายเท่าเลยทีเดียว
ป.ล. นางเอกโชว์ตู้มเยอะไปหน่อยนะ อิจฉา
74 comments