เราอาจไม่ใช่คอหนังแอ็คชั่นที่จะเขียนรีวิวหนังแอ็คชั่นได้ละเอียดถึงใจ และ ณ ขณะที่อยู่ในโรงดูหนัง John Wick: Chapter 2 (รวมถึง ณ ขณะที่เขียนบล็อกเรื่องนี้อยู่ ณ ตอนนี้) เรายังไม่หายป่วยดีนัก แต่เราสามารถบอกทุกคนได้ว่า ต่อให้ป่วยและเพลียแค่ไหนอย่างไร John Wick: Chapter 2 ก็มิอาจทำให้เราผล็อยหลับคาโรงได้เลย
จากที่ John Wick ภาคแรกนั้น สตอรี่มีแค่…อดีตนักฆ่าที่หวนกลับสู่วงการเพื่อไปตามฆ่าล้างบางลูกชายแก๊งมาเฟียใหญ่ที่บุกมาขโมยรถและฆ่าหมาสุดที่รักของเขาตาย John Wick: Chapter 2 มีสตอรี่หรือพล็อตที่จริงจังขึ้นกว่าภาคแรกหน่อยนึง
กล่าวคือ ในภาคนี้ John Wick (Keanu Reeves จาก The Matrix) ต้องชดใช้ตราเลือดที่เคยทำสัญญาไว้กับ Santino D’Antonio (Riccardo Scamarcio จาก Burnt) โดยการไปฆ่า Gianna (Claudia Gerini) พี่สาวของ Santino แต่พอทำภารกิจเสร็จแล้ว John Wick ก็ยังถูกตามฆ่าโดย Cassian (แร็ปเปอร์ Common) บอดี้การ์ดของ Gianna และ Ares (Ruby Rose จาก xXx: Return of Xander Cage) มือขวาของ Santino ที่ตามมาเก็บงานพร้อมลูกน้องอีกเป็นโขยง
ช่วงแรกและบางช่วงของหนังที่ไม่มีฉากบู๊ ยอมรับว่าแอบง่วง (แต่คิดว่าเป็นเพราะเราป่วยอยู่มั้ง หนังไม่ผิด) แล้วมาตื่นเต็มตาตอนเขาสู้กันป้าง ๆ ๆ เช่นเดิมกับภาคที่แล้ว John Wick: Chapter 2 ยังคงมาสไตล์พูดน้อยต่อยหนัก เป็น killing machine หรือเครื่องจักรสังหารที่ฆ่าไม่ยั้งยิงไม่เลี้ยงชนิดไม่งกกระสุน ไม่นับเพลงซาวนด์ประกอบที่ปลุกเร้าอะดรีนาลีนนั่นอีก ใครเป็นคอหนังบู๊ รับรองเรื่องนี้โหด มัน ระห่ำ สะใจ (และฮา) ไม่ผิดหวัง
และแน่นอนว่าพระเอกก็ย่อมเป็นพระเอก เป็นคนเหล็ก เป็นคนอึดตายยาก รถชน/กระสุนสะกิดยังไงก็ไม่สะท้าน ต่อให้ศัตรูกรูมาพร้อมกันเป็นล้าน เขาก็ผ่านด่านไปได้ทุกครั้ง ส่วนลูกกระจ๊อกก็ย่อมเป็นลูกกระจ๊อก มีเพื่อถูกส่งมาตายก่อนบอสไปวัน ๆ ลูกน้องหัวแถว (เช่น Common & Ruby Rose สาวเท่ผู้บู๊แหลกบนรองเท้าบู๊ทเสริมส้น) ก็ตายช้าหน่อย คิวบู๊เด่นหน่อย แล้วบอสต้องถูก killed ตอน Final Act เท่านั้น
แต่ขออวยเพิ่มเติมอีกนิดเป็นการส่วนตัวที่ Ruby Rose ใน John Wick: Chapter 2 มีบทบาทเด่นและเกิดกว่าใน xXx: Return of Xander Cage และ Resident Evil: The Fianl Chater ทั้งที่เรื่องนี้เธอไม่ได้อ้าปากพูดอะไรเลยสักแอะ แต่ความเท่กลับไม่ปรานีใคร หวังว่าเธอน่าจะมีอนาคตได้อีกในเส้นทางสายบู๊นี้
เสน่ห์ที่เคยชอบในภาคแรกคือ ความตลกร้ายของโลกสังคมนักฆ่าและโรงแรมสำหรับนักฆ่า (The Continental) ซึ่งภาคนี้ก็ยังมีบทบาทอยู่ แค่ไม่ introduce เยอะเท่าภาคก่อน แต่ในช่วงก่อนลุย หนังพาไปดูพระเอกช้อปปิ้งสูทเกราะกับอาวุธแทน (คล้าย ๆ ใน Kingsman) เสน่ห์ที่ชอบในภาคนี้คืองานโปรดักชั่นที่ดูแพงขึ้นและมีกลิ่นอายความตะวันตกคลาสสิคที่ชัดเจนขึ้น รวมถึงฉากใน Art Museum ในช่วงท้าย
อีกอย่างที่ชอบคือการกำกับภาพที่ไม่เชยและมักถ่ายทอดอารมณ์ผ่านมุมมองที่แปลกใหม่สำหรับคนดู คือชอบตั้งแต่ฉากเปิดเรื่องที่ถ่ายภาพมหานครนิวยอร์กในยามค่ำคืนจากมุมสูงเลย แต่ภาพที่จดจำหน่อยคือเขาถ่ายภาพ John Wick สู้กับ Cassian จนตกบันไดหลายสิบขั้นในมุมที่ห่างออกไป เหมือนคนนอกสังเกตการณ์จากอีกฝั่งตรงข้ามของบันได ซึ่งแบบนี้เราดูแล้วเรารู้สึก “เจ็บแทน” กว่าดูซีนคนฟัดกันโดยที่ตัวกล้องไปแพนโคลสอัพใกล้ชิดกับหน้าหรือลูกตาของสองตัวละครที่กำลังไฟท์กันที่ขั้นบันไดนั้นโดยตรง
“ดินสอ” ที่เป็นซีนเด็ดจากภาคแรก ภาคนี้ก็ยังมีอยู่ แต่เราเขียนบรรยายไม่ได้ เพราะปิดตาในซีนนั้น ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมมันถึงออกมาดูโหดร้ายกว่าภาพ John Wick เอาปืนยิงหัวคู่ต่อสู้
แต่ถ้าถามว่าชอบภาคไหนมากกว่า ตอบยากมากสำหรับเรา เพราะเราดูภาคนี้ ณ ขณะที่ป่วย คือภาคนี้ก็ดูโปรดักชั่นยิ่งใหญ่ขึ้นนะ แต่เหมือนเราจะชอบภาคแรกมากกว่ายังไงก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ ๆ ภาคนี้โดยรวมก็สนุกมาก ๆ แล้วนะ ขนาดแฟนเราไม่เคยดูภาคแรกมาก่อนก็ดูรู้เรื่องและบอกว่า John Wick: Chapter 2 “โคตรสนุก”
คะแนนตามความชอบส่วนตัวของเรา 8/10 และรอดู Chapter 3 แน่นอนค่ะ!!!
John Wick: Chapter 2 เข้าฉายจริง 16 ก.พ. 2017 แต่มีรอบพิเศษให้ดูก่อนใคร ตั้งแต่ 15 ก.พ. 2017 เวลา 20:00 น. เป็นต้นไป จัดเลย
37 comments
Comments are closed.