รีวิว Kidnapping Mr. Heineken: เรียกค่าไถ่ ไฮเนเก้น

หนังเรื่อง Kidnapping Freddy Heineken (หรือ Kidnapping Mr. Heineken) สร้างจากเรื่องจริง เหตุการณ์จริง เมื่อปี 1983 ที่อดีตผู้ถือหุ้นรายใหญ่แห่งบริษัทเบียร์แบรนด์ดัง “Heineken“ ถูกแก๊งชายฉกรรจ์ลักพาตัวไปเพื่อเรียกค่าไถ่ด้วยจำนวนเงินที่สูงที่สุดในประวัติการณ์ ณ ขณะนั้น

เรื่องย่อ Kidnapping Freddy Heineken

ปี 1983 ณ อัมสเตอร์ดัม เจ้าพ่อเบียร์แบรนด์ดังยักษ์ใหญ่ “Heineken” Mr. Alfred “Freddy” Heineken (Anthony Hopkins จาก Thor, Hannibal, The Silence of the Lambs ฯลฯ) พร้อมคนขับรถของเขา ถูกแก๊งชายฉกรรจ์ 5 นาย นำโดย Cor Van Hout (Jim Sturgess จาก One Day, Upside Down, Cloud Atlas) และ Willem Holleeder (Sam Worthington จาก Avatar, Wrath of the Titans) ลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่ 35 ล้าน!

รีวิว วิเคราะห์ วิจารณ์ Kidnapping Freddy Heineken

จริงๆ ก็พอจะเข้าใจล่วงหน้าอยู่แล้วว่า Kidnapping Freddy Heineken สร้างจากเรื่องจริง หนังจึงไม่น่าจะมีอะไรหวือหวามาก แต่ก็มีความคาดหวังเล็กๆ ว่า หนังอาจจะเล่าหรือนำเสนอมุมแปลกๆ ที่น่าสนใจจากอาชญากรรมครั้งนั้น เพราะเป็นเรื่องราวของอภิมหาเศรษฐีชื่อดังระดับโลก และเห็นเขาว่ากันว่าโจรแก๊งนี้วางแผนกันตั้ง 2 ปี แต่ผลก็ออกมาว่า Kidnapping Freddy Heineken ไม่มีอะไรมา surprise หรือ impress เราเลยแม้แต่น้อย

หนัง Kidnapping Freddy Heineken เหมือนมาเล่าเรื่องไปเรื่อยๆ ตั้งแต่แรงจูงใจก่อนก่ออาชญากรรม การเตรียมตัว วิธีการลักพาตัว วิธีการเรียกค่าไถ่ วิธีการไปเอาเงินค่าไถ่ จนถึงขั้นตอนการหลบหนีและซ่อนตัว โดยไม่มีอะไรเลย แม้แต่การนำเสนอความสวยงามของเมืองอัมสเตอร์ดัมที่พอจะดึงดูดตาคนดูได้บ้าง…ก็ไม่มี…

ฉากที่ตื่นเต้นทั้งเรื่องมีอยู่แค่ 2 ฉาก คือฉากการไล่ล่าบนคลองกลางเมืองอัมสเตอร์ดัมช่วงแรก กับฉากขับรถหลบหนีตำรวจในช่วงหลัง ในส่วนของแผนการหรือการจับตัวก็ดูไม่ได้ยากเย็นหรือ amazing ทั้งหมดมันดูง่ายไปซะหมด ทั้งๆ ที่แก๊งโจรก็โนเนม และคนที่ถูกจับก็เป็นถึงเจ้าของไฮเนเก้น

เราพยายามมองในแง่ดีว่า นี่ไม่ใช่หนัง Action ที่เน้นนำเสนอฉากไล่ล่า หรือขายความสามารถกับอัจฉริยภาพของแก๊งโจร แล้วเราก็ลองพยายามหาจุดดราม่าของเรื่อง เช่น ปมชีวิตของมหาเศรษฐี Heineken หรือปมปูมหลังครอบครัวของแก๊งโจรสุดหล่อ แต่สุดท้ายแล้ว เราก็ไม่รู้สึกว่าปมทั้งหลายดังกล่าวนั้นถูกนำเสนอออกมาได้สุด คือมันไม่พีค และไม่น่าติดตามอย่างที่ควรจะเป็น เพราะหนังมันเล่าไปเรื่อยๆ

ตอนจบของหนังที่ขึ้น Text อธิบายบทสรุปชีวิตของ Heineken กับชีวิตของแก๊งโจร (ตามสูตรหนังที่ based on true stories) เราอ่านแล้วก็ไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะหนังไม่ได้ทำให้เราอินกับชีวิตของตัวละครตัวไหนเลยมาแต่แรก

สิ่งที่เราเข้าใจได้ในช่วง Ending ตรงนี้ก็คือ อย่างน้อยเราได้เข้าใจว่าคนสร้างหนังเองก็ยังไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์การเรียกค่าไถ่ดังกล่าวมากนัก และไม่ได้ตีความหรือสร้างสรรค์อะไรเพิ่มจากหลักฐานเท่าที่มีเลยสักนิด (แต่ยังกล้าเอาเรื่องเขาจะสร้างเป็นหนัง) ตรงไหนสื่อไม่รู้ หนังก็ไม่รู้ ตรงไหนตำรวจไม่เข้าใจ หนังก็ไม่เข้าใจ เขานำเสนอแค่เท่าที่ตำรวจบอกหรือที่สื่อออกข่าว เรื่องมันจึงไม่มีอะไรน่าสนใจนั่นยังไง…

สิ่งเดียวที่ทำให้เรายังไม่หลุดโฟกัสจาก Kidnapping Freddy Heineken ได้ ก็เห็นจะมีแต่ความหล่อเหลาของนักแสดงแก๊งโจร โดยเฉพาะ Jim Sturgess ที่เล่นเป็นหัวหน้าแก๊ง (เออ เรื่องนี้มีโจรเป็นพระเอกนะ รู้ยัง) กับการแสดงของอดีตเจ้าของรางวัลออสการ์อย่างป๋า Anthony Hopkins ที่เล่นเป็น Heineken (ซึ่งก็มีอยู่ไม่กี่ซีน เพราะหนังเขาเน้นถ่ายแก๊งโจรจุฑาเทพ)

นอกจากนี้ ก็พอจะจับต้องไอเดียที่หนังต้องการจะนำเสนอได้ (เพราะในหนังย้ำสองรอบ และในเทรลเลอร์นางก็พูด) ในเรื่องของการมีเงินกับการมีเพื่อน ว่า “เงิน” กับ “เพื่อน” มันยากที่จะอยู่ถ้ำเดียวกันได้

คะแนนตามความชอบส่วนตัว 6.5/10

Kidnapping Freddy Heineken 16 ก.ค. 2015 ในโรงภาพยนตร์

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์จริงของการลักพาตัวได้ที่ http://www.kidnappingheineken.com/planning.php