เราไม่เคยดู Kung Fu Panda เลยสักภาค เพราะตอนหลายปีก่อนยังมีความคิดอยู่ว่าการ์ตูนมีไว้ให้เด็กดู แต่ตอนนี้เราโตแล้ว (เอ๊ะ!?!) และรู้ว่าการ์ตูนไม่ได้เหมาะสำหรับเด็กเท่านั้น หากแต่ยังมีสาระกว่าหนังจริงๆ บางเรื่องเสียอีก ดังนั้นเราจึงถือโอกาสที่ไหนๆ ปัจจุบันก็เป็น movie blogger แล้ว ใช้สิทธิตั๋วฟรี (รอบสื่อ) ให้คุ้ม และไปจัด Kung Fu Panda 3 ซะเลย
“Be the best you you can be.”
เรื่องย่อ Kung Fu Panda 3
Master Shifu (Dustin Hoffman) เกษียณและแต่งตั้งให้ Dragon Warrior หรือแพนด้า Po (Jack Black) เป็นอาจารย์ใหญ่ประจำสำนักแทนตามความประสงค์ของ Master Oogway (Randall Duk Kim) แต่กระนั้น Po ก็ไม่สามารถเป็นครูที่ดีได้
แพนด้า Li (Bryan Cranston) พ่อบังเกิดเกล้าของ Po มาตามหา Po และพา Po กลับไปยังหมู่บ้านแพนด้า ทำให้ Po ได้รู้ว่าเขาไม่ใช่แพนด้าตัวเดียวที่เหลืออยู่บนโลก Mr. Ping (James Hong) ห่านซึ่งเป็นพ่อที่เลี้ยง Po มาแต่อ้อนแต่ออกเสียใจมากที่ต้องคืน Po ให้กับพ่อที่แท้จริง
ในขณะเดียวกันนั้น กระทิงตัวร้าย Kai (J.K. Simmons) ดูดพลัง chi จากสหายเต่าเก่าแก่ Master Oogway จนสามารถกลับลงมายังโลกมนุษย์ได้ โดย Kai มีแพลนที่จะดูดพลัง chi จากจอมยุทธ์ทุกคนในยุทธจักร โดยเฉพาะจากพวกลูกศิษย์ของ Master Oogway
Master Shifu และสหายของ Po อันได้แก่ Monkey (Jackie Chan), Mantis (Seth Rogen), Viper (Lucy Liu) และ Crane (David Cross) ถูก Kai ดูดพลังไปสิ้น เหลือแต่ Tigress (Angelina Jolie) ที่หนีรอดไปได้และรีบไปตามหา Po ที่หมู่บ้านแพนด้า
รีวิว วิเคราะห์ วิจารณ์ Kung Fu Panda 3
สำหรับเราที่ไม่เคยดู Kung Fu Panda มาก่อนเลย ขอบอกเลยว่าประทับใจ Kung Fu Panda ภาค 3 ภาคนี้มาก เป็นการ์ตูนแอนิเมชั่นที่ภาพสวยสีสด ภาพ 3D พุ่งมากๆ ที่สำคัญยังน่ารักเต็มไปด้วยสิงสาราสัตว์นานาพันธุ์ โดยเฉพาะครอบครัวแพนด้านั้นน่ารักมากกกกก อีกทั้งหนังยังมีเนื้อหาสาระควบคู่ไปกับมุกตลกท่ีชวนขันตลอดเรื่อง ไม่แป้ก คือมันสนุกจริงๆ ไม่ได้อวยเล่นๆ
เราไม่รู้เรื่องเลยนะว่า เนื้อหาสาระของสองภาคแรกมันเกี่ยวกับอะไร และเคยเล่นมุกอะไรมาก่อนแล้วบ้าง แต่สำหรับประเด็นเรื่องการรู้จักตัวตนและการเป็นตัวเองใน Kung Fu Panda 3 นี้ เราชอบมาก ประเด็นที่เขาเล่นมันสตรองดี เราดูแล้วรู้สึก inspired สุดๆ ดูจบแล้วอยากจะออกมาสำรวจตัวตนทันทีว่า เราเป็นใคร ชอบอะไร ถนัดอะไร และจะเอามา adapt กับสิ่งที่เราทำอยู่หรือสิ่งที่เราจะทำได้อย่างไรบ้าง
ทั้งนี้ทั้งนั้น หนังยังสอนให้เราเข้าใจด้วยว่า ไม่ว่าเราจะรู้หรือไม่ว่าเราเป็นใคร อย่าไปยึดติดกับมันมากเกินไป สิ่งที่เราเป็นนั้นไม่จำเป็นว่าต้องเป็นทางด้าน biological ด้านเดียวเท่านั้น เช่น รูปลักษณ์ภายนอกเราเป็นแพนด้า โอเค เราเป็นแพนด้า แต่เราไม่จำเป็นต้องเป็นแต่แพนด้าอย่างเดียว คนหนึ่งคนเป็นและทำอะไรได้มากกว่านั้น
นอกจากนั้น สิ่งที่เราทำย่อมสำคัญกว่าสิ่งที่เราเป็น เช่น ห่าน Mr.Ping อาจจะไม่ใช่พ่อแท้ๆ ทางสายเลือดของแพนด้า Po แต่สิ่งที่เขาทำเพื่อ Po มาตลอดทั้งชีวิต มันคือสิ่งที่คนเป็นพ่อพึงกระทำ เพราะฉะนั้น สิ่งที่เขาทำมันมากพอที่จะการันตีได้ว่า เขาก็คือพ่อของ Po คนหนึ่ง และพ่อก็คือพ่อ
เหนือสิ่งอื่นใดคือ คนเราเกิดมาไม่เหมือนกัน แต่ท่ามกลางความแตกต่างนั้น คนเราย่อมต่างมีความเหมือนกันมากกว่าแตกต่างกันอยู่แล้ว ดังนั้นเราไม่ควรเอาข้อแตกต่างนั้นมาเป็นจุดด้อยข่มกันและกัน หากแต่ต้องดึงเอาความแตกต่างนั้นมาทำให้เป็นจุดเด่น ใช้มันให้คุ้มค่า ไม่ว่าเราจะเป็นอะไรหรือทำอะไรอยู่ เราจะต้องใส่ความเป็นตัวเองลงไป แล้วผลลัพธ์มันจะดีกว่าการพยายามเป็นแบบคนอื่น
ดูอย่างกระทิง Kai ตัวร้ายสิ พยายามปล้นพลัง chi ของคนอื่นมาเป็นของตัวเอง แต่สุดท้ายก็ใช่ว่าจะเป็นผลดีต่อตนเอง เพราะมันไม่ใช่ของของ Kai เองแต่แรกแล้ว ในขณะที่ทีม Po เน้นความเป็นตัวเองและใช้จุดเด่นของตัวเองเป็นอาวุธ ก็สามารถเอาชนะอุปสรรคทั้งหลายได้ด้วยดี เห็นมั้ยว่า การเป็นตัวเองมันง่ายกว่าและให้ผลลัพธ์ที่ทรงพลังกว่าการเป็นคนอื่นตั้งเยอะ
โดยสรุป เราแนะนำ Kung Fu Panda 3 นะ ใครที่ไม่เคยดูภาคก่อนๆ มาก่อนก็ดูได้รู้เรื่อง (แถมดูแล้วอาจจะอยากกลับไปหาภาคเก่าๆ มาย้อนดูแบบเราก็เป็นได้) หนังสนุกคุ้มค่า หรรษาน่ารัก (ย้ำว่า น่ารักมากกกกกกกก) เหมาะกับทุกเพศทุกวัย เป็นแอนิเมชั่นที่ครบเครื่องทั้งสาระความบันเทิง ภาพสวยสดใส เลอค่ากับระบบ IMAX 3D คะแนนตามความชอบส่วนตัว 8/10
ป.ล. บางทีดูไปก็รู้สึกนึกถึงอาจารย์ Yoda และอัศวิน Jedi ใน Star Wars เหมือนกันนะ
Kung Fu Panda 3 ฉายรอบ Sneak preview แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และฉายจริง 10 มีนาคม 2016 ทุกโรงภาพยนตร์
113 comments