พบกับการพลิกบทบาทครั้งสำคัญ…ของ “Arnold Schwarzenegger” กับการแสดงที่เข้มข้นที่สุดในชีวิต!! ในภาพยนตร์แนวซอมบี้ดราม่า “Maggie: ซอมบี้ลูกคนเหล็ก” ผลงานการกำกับของ Henry Hobson ผู้มีผลงานโดดเด่นในด้
โปสเตอร์และชื่อไทยของ “Maggie: ซอมบี้ลูกคนเหล็ก” อาจจะทำให้ประชาชนบางกลุ่มเข้าใจในตัวหนังผิดนิดหน่อย แต่เราขอเตือนสั้นๆ ก่อนเลยว่า Maggie ไม่ใช่หนังบู๊ระห่ำล่ำบึ้กแนว THE TERMINATOR VS. ZOMBIES หรือ ARNOLD VS. ZOMBIES แต่อย่างใด
เรื่องย่อ Maggie
หลังจากถูกซอมบี้กัด Maggie Vogel (Abigail Breslin จาก Little Miss Sunshine, Zombieland, Ender’s Game) ก็กลายเป็นผู้ป่วยติดเชื้อและรอวันกลายร่างเป็นผีดิบอย่างรักษาไม่ได้
พ่อของเธอ Wade Vogel (Arnold Schwarzenegger จาก The Terminator, Predator) ใช้เส้นสายช่วยให้ Maggie ไม่ต้องอยู่ในสถานกักกัน Maggie จึงได้กลับมาใช้เวลาช่วงสุดท้ายของชีวิตที่บ้าน โดยมี Wade ผู้เป็นพ่อและ Caroline แม่เลี้ยง (Joely Richardson) คอยดูแลอย่างใกล้ชิด
อาการของ Maggie แย่ลงขึ้นทุกวันๆ แฟนหนุ่มของเธอ Trent (Bryce Romero จาก The Maze Runner) ก็อาการหนักยิ่งกว่าเธอ ไม่มีใครอยากไปอยู่สถานกักกัน ในขณะที่คนรอบข้าง รวมทั้งแม่เลี้ยง ต่างก็กดดันให้ส่งเธอไปอยู่ที่นั่นเพื่อความปลอดภัย
Wade จะทำหน้าที่พ่อครั้งสุดท้ายอย่างไร เขาจะปกป้องและหาทางรักษา Maggie ลูกสาวสุดที่รักของเขาได้หรือไม่ ความเป็นความตายของเธอขึ้นอยู่กับเขาคนเดียว!
รีวิว วิเคราะห์ วิจารณ์ Maggie
Maggie ไม่ใช่หนังซอมบี้ดูสนุกเหมือนเรื่องอื่นๆ ที่เคยดู Maggie เน้นหนักไปทางดราม่า เล่าเรื่องปัญหาชีวิตและความสัมพันธ์ของสองพ่อลูกหลังจากที่ลูกสาวถูกซอมบี้กัด ซึ่งทั้งเรื่องจะมีฉากบู๊หรือยิงปืนน้อยมาก ปะทะซอมบี้ไม่ถึง 10 ตัว ดังนั้นอย่าไปคาดหวังว่า Maggie จะเป็นหนังซอมบี้เลือดสาดแบบ The Walking Dead, Resident Evil, Zombieland, Dawn of the Dead, Land of the Dead, Warm Bodies, หรือ World War Z ฯลฯ
ซอมบี้ในหนังเรื่องนี้จะเป็นซอมบี้สโลว์ไลฟ์ (Slow Life) ตอนกลายร่างเต็มตัวแล้วก็จะเดินช้าๆ เหมือน Walkers ใน The Walking Dead แต่แตกต่างตรงที่ ใน Maggie นั้น การกลายร่างเป็นซอมบี้หลังจากถูกกัดก็สโลว์ไลฟ์ด้วยเช่นกัน กล่าวคือ คนที่ถูกซอมบี้กัดจะไม่เทิร์นร่างภายในหลักนาทีหรือหลักชั่วโมง หากแต่ใช้เวลาหลักสัปดาห์หรือหลักเดือนกว่าผู้ติดเชื้อจะวิวัฒนาการกลายเป็นซอมบี้โดยสมบูรณ์ เราจึงจะได้เห็นความทรมานกายทรมานใจทั้งของตัวผู้ติดเชื้อเองและคนรักรอบข้างของเธอในช่วงระยะโปรเซสดังกล่าว
ในส่วนดราม่าทั้งหลาย ทั้งๆ ที่หนังก็สร้างบรรยากาศให้อึมครึม หม่นหมอง และแห้งแล้ง แต่เราก็ยังไม่รู้สึกอิน ไม่ลุ้น ไม่กดดัน ไม่ร้องไห้ ไม่บีบเค้นหัวใจ พูดง่ายๆ คือแทบไม่รู้สึกอะไรเลย เพราะทุกอย่างดูราบเรียบเป็นเส้นตรง คาดเดาได้ง่าย และดำเนินเรื่องค่อนข้างน่าเบื่อ ถึงแม้จะพยายามจินตนาการ Maggie เป็นผู้ป่วยโรคติดต่อทั่วไปที่เรามีโอกาสพบเจอในชีวิตประจำวันก็แล้ว… ก็ยังไม่รู้สึกว่าได้อะไรจากมัน อย่างพาร์ทการตัดสินใจของแต่ละตัวละคร ซึ่งปกติมักเป็นจุดที่พีคที่สุดในหนังซอมบี้ ใน Maggie ก็ยังทำได้ไม่สุดเท่าที่ควรจะเป็น
สิ่งที่น่าสนใจของ Maggie ก็อาจจะมีแค่การพลิกบทบาทจากคนเหล็กมาเป็นคุณพ่อดราม่าของ Arnold Schwarzenegger กับการแสดงของสาวน้อย Abigail Breslin ที่มีดีกรีเคยได้เข้าชิงออสการ์จากหนังเรื่อง Little Miss Sunshine เมื่อเกือบสิบปีก่อน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสองพ่อลูก Vogel ก็ยังไม่ได้สร้างความโดดเด่นประทับใจอะไรมากนัก
“Arnold Schwarzenegger” นักแสดงนำของเรื่องได้เผยว่า “เรื่องราวของ Maggie แตกต่างจากหนังซอมบี้เรื่องอื่
สิ่งเดียวที่เราได้จากหนังเรื่องนี้คือ… คิดถึงพ่อ… ในบางซีน ก็เท่านั้น
“Maggie: ซอมบี้ลูกคนเหล็ก” ฉายแล้ว 25 มิ.ย. 2015 ในโรงภาพยนตร์
75 comments