หนัง Pirates of the Caribbean ภาค 5 ที่มาในชื่อ Pirates of the Caribbean: Dead Men Tell No Tales หรือที่คนไทยรู้จักกันอีกชื่อคือ Pirates of the Caribbean: Salazar’s Revenge (โดยส่วนตัวเราชอบชื่อตามฝั่งอเมริกามากกว่า) กำกับโดย Joachim Rønning, & Espen Sandberg ผู้กำกับ Kon-Tiki หนังเคยเข้าชิงออสการ์สาขาภาพยนต์ต่างประเทศยอดเยี่ยม
หลังจากออกทะเลและออกอ่าวกันไปไกลโพ้นจนสุดขอบโลก ภาคนี้กัปตัน Jack Sparrow (Johnny Depp คนเดิมจะใครล่ะ) และเหล่าลูกเรือก็ยังคงออก ‘ทะเล’ และโลดแล่นอยู่ใน ‘น้ำวน’ กันต่อไป (*อุปมาอุปไมย)
คู่อริตัวเป้งของกัปตัน Jack ในภาคนี้คือ Capitán Armando Salazar (Javier Bardem นักแสดงออสการ์จาก No Country for Old Men) ส่วนไม้เบื่อไม้เมาที่โผล่มาทุกภาคอย่าง Hector Barbossa (Geoffrey Rush) ก็ไม่พลาดที่จะมาร่วมรบกับเขาด้วยเช่นเคย
คู่หนุ่มสาวตัวเอกคู่ใหม่ที่มาแทน Will Turner (Orlando Bloom) กับ Elizabeth Swann (Keira Knightley) ก็หาใช่ใครอื่น นั่นคือ Henry (Brenton Thwaites จาก Gods of Egypt) ลูกชายของ Turners เอง กับสาวนักดาราศาสตร์ Carina Smyth (Kaya Scodelario จาก The Maze Runner) โดย Henry ต้องการตามหาตรีศูลของโพไซดอนเพื่อช่วยล้างคำสาปของพ่อ
เนื้อเรื่องก็ตามสไตล์ Pirates of the Caribbean คือไม่ต้องคาดหวังความเมคเซนส์อะไรจากมันมาก ใช้สมองได้บ้างเป็นครั้งคราว แต่ส่วนใหญ่เน้นใช้แต่หูและตาเบิ่งงาน CG สไตล์ดิสนีย์อย่างเดียวก็พอแล้ว
ฉากแอ็คชั่นยังสนุกและบันเทิงอยู่แหละโดยภาพรวม ทั้งนี้ทั้งนั้นเราชอบฉากบู๊บนบก โดยเฉพาะฉากเปิดตัวฉากแรกของกัปตัน Jack Sparrow มากกว่าฉากในทะเล หรือกระทั่งฉากไคลแมกซ์ ในส่วนของฉากไคลแมกซ์ เราค่อนข้างเฉย ๆ แต่ไม่ถึงกับไม่ชอบ อย่างน้อยช่วงไฟนอลซีน กัปตัน Barbossa ก็ได้ใจเราไม่น้อย
อย่างไรก็ตาม เราว่ามันสนุกเป็นช่วง ๆ อย่างเช่น ช่วงที่บู๊หรือต่อสู้กันอะไรแบบนั้นจะสนุกและยังมีอะไรเล่นอยู่ ไม่ถือว่าหมดมุกหรือมุกซ้ำจากภาคก่อน ๆ ซะทีเดียว อย่างน้อยก็สนุกกว่าภาค 4 (ที่มีนางเงือก) และไม่ยาวเวิ่นเว้อเท่าภาค 3 (ที่ไปสิงคโปร์)
ในส่วนของกัปตัน Jack Sparrow ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของหนังมาทุกภาค ดูดร็อปลงไปมาก ความตลกมันไม่สดใหม่เหมือนแต่ก่อนแล้ว ท่วงท่าการเดินและการพูดจาอันเคยเป็นเอกลักษณ์ก็ดูเนือยผิดฟอร์ม จนเราไม่แน่ใจว่าป๋า Depp จะรับบทเป็นจอมโจรสลัดนี้ไปอีกนานแค่ไหน
Orlando Bloom กับ Keira Knightley ก็ไม่ได้กลับมาเต็มตัว มาเป็นแขกรับเชิญไม่กี่นาที ครั้นจะบอกว่าหนังจะปั้น Brenton Thwaites กับ Kaya Scodelario มาเป็นคู่ขวัญคู่ใหม่ประจำแฟรนไชส์ เรายังไม่เห็นแววเลยว่าเด็กใหม่สองคนนี้จะสู้รุ่นพ่อรุ่นแม่พวกเขาได้
อย่าง Kaya Scodelario นี่เราอาจให้ผ่านได้อยู่บ้าง ผ่านแบบฉิวเฉียดเส้นยาแดงผ่าแปด อย่างน้อยก็มีความเป็นตัวแทนของประเด็น Gender Discrimination (กล่าวคือ ในสมัยนั้นผู้หญิงที่มีการศึกษาและมีความรู้ความสนใจใน science ถูกล่าและถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด) มีซีนให้น่าจดจำ และที่สำคัญคือนางใหญ่มาก ใส่ชุดชะนีสมัยนั้นสวยอยู่
ส่วน Brenton Thwaites นี่หล่อนะแต่ไม่มีเสน่ห์และไม่มีรัศมีเลย เราดูเขาเล่นหนังมาหลายเรื่องแล้ว ให้โอกาสมาหลายครั้งแล้ว แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ผ่านอยู่ดี ทั้งในส่วนของรูปร่างหน้าตาและการแสดง เทียบชั้น Orlando Bloom ไม่ได้ ถ้าให้มาแบกหนังทั้งเรื่องในภาคต่อไป หรือต่อให้ดันมาเป็นดูโอของป๋า Depp จริง ๆ จัง ๆ ในภาคอื่น ๆ เราว่าหนังไม่น่ารอด น่าจะ sink sank sunk ชนิดที่ใครก็คงช่วยคืนชีพให้ไม่ได้
คะแนนตามความชอบส่วนตัว 7/10
ป.ล. (1) Paul McCartney อดีตสมาชิกวง The Beatles ในตำนาน ก็มาร่วมแจมเป็นคุณลุงของกัปตัน Jack Sparrow ด้วย
ป.ล. (2) มี end credit ท้ายเรื่อง ท้ายมาก ๆ ต้องรอสัก 5 นาทีขึ้นไป แต่ก็จัดว่าไม่เสียดายเวลารอ
40 comments
Comments are closed.