Pride and Prejudice and Zombies (2016) สร้างจากหนังสือนิยายชื่อเดียวกัน Pride and Prejudice and Zombies (2009) ของ Seth Grahame-Smith (ผู้เขียน Abraham Lincoln: Vampire Hunter) โดย Pride and Prejudice and Zombies เป็นนิยาย parody หรือ mash-up (ทวินิยาย) ที่ล้อมาจากวรรณกรรมอมตะ Pride and Prejudice (1813) ของ Jane Austen นักเขียนชื่อดังแห่งยุค
เรื่องย่อ Pride and Prejudice and Zombies
อังกฤษในช่วงศตวรรษที่ 19 เกิดกาฬโรคระบาด ผู้คนมากมายกลายเป็นซอมบี้ Mr. Bennet (Charles Dance) ส่งลูกสาวทั้งห้า: Jane (Bella Heathcoate จาก Dark Shadows), Elizabeth (Lily James จาก Cinderella), Kitty (Suki Waterhouse จาก Love, Rosie), Lydia (Ellie Bamber) และ Mary (Millie Brady) ไปเรียนศิลปะการต่อสู้ที่สำนักเส้าหลิน ประเทศจีน เพื่อนำมาใช้ป้องกันตัว แทนที่จะเน้นงานบ้านงานเรือนเหมือนหญิงสาวบ้านอื่นๆ
วันหนึ่งครอบครัวของมหาเศรษฐีหนุ่มรูปงาม Mr. Bingley (Douglas Booth จาก The Riot Club) ย้ายมาอยู่ที่คฤหาสน์ข้างๆ ครอบครัว Bennet และจัดงานเต้นรำขึ้น Mrs. Bennet (Sally Phillips) สั่งให้ลูกสาวทั้งห้าไปงานเลี้ยง เพราะหวังจะให้ลูกสาวได้แต่งงานกับผู้ชายรวยๆ
ในงานเลี้ยง Mr. Bingley กับ Jane Bennet ซึ่งเป็นพี่สาวคนโต ตกหลุมรักกันตั้งแต่แรกเห็น ส่วนพี่สาวคนรองที่ซ่าที่สุดอย่าง Elizabeth เหมือนจะปิ๊งๆ กับ Mr. Darcy (Sam Riley จาก Maleficent) เพื่อนรักของ Mr. Bingley แต่ทั้งคู่ก็ยังทำเป็นไม่สนใจกัน ด้วยการตั้งแง่ตั้งงอน ด้วยทิฐิ อคติ และความหยิ่งยโสของตน
นอกจากนี้ ด้วยความที่กลัวลูกสาวจะลำบากหลังพ่อแม่ตายไป เนื่องจาก (ในสมัยนั้น) ผู้ที่จะได้สืบทอดมรดกต้องเป็นบุตรชายหรือหลานชายที่ใกล้ชิดที่สุดเท่านั้น Mrs. Bennet ยังพยายามจัดแจงให้ลูกสาวคนใดคนหนึ่งได้ตบแต่งกับ Mr. Collins (Matt Smith จาก Doctor Who) ด้วย
Mr. Collins ต้องตาต้องใจ Elizabeth แต่ Elizabeth ไม่เล่นด้วย และเธอก็ยังมี Mr. Wickham (Jack Huston จาก American Hustle) ซึ่งเป็นคู่อริของ Mr. Darcy มาเกี้ยวด้วยอีกต่างหาก
ความรักหลายเส้าจะลงเอยอย่างไร และสงครามระหว่างมนุษย์กับซอมบี้จะยุติลงด้วยดีได้หรือไม่ ติดตามได้ใน Pride and Prejudice and Zombies ในโรงภาพยนตร์
รีวิว วิเคราะห์ วิจารณ์ Pride and Prejudice and Zombies
ประมาณ 70% ของ Pride and Prejudice and Zombies (หรือ PPZ) ยังคงพล็อตเรื่องหลักๆ และตัวละครจาก Pride and Prejudice ซึ่งเป็นนิยายต้นฉบับที่ Jane Austen เขียนไว้เมื่อปี ค.ศ. 1813 พูดง่ายๆ ก็คือ ส่วนใหญ่เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือซอมบี้ และแตกต่างนิดนึงตรงที่ Pride and Prejudice and Zombies เซตเรื่องราวอยู่ในช่วงปี 1900s
แต่พูดตรงๆ ก่อนว่า อย่าไปคาดหวังกับฉาก action/triller หรือตัวซอมบี้มากนัก เอาเข้าจริงซอมบี้ไม่ค่อยมีบทบาทหรือความสำคัญเยอะอย่างที่หนังดึงเอาไปเป็นจุดขายสักเท่าไหร่ แต่ยังดีที่ฉากต่อสู้กับซอมบี้เท่าที่มี (ที่ปริมาณไม่ได้เยอะไปกว่าที่เราเห็นในเทรลเลอร์มากนัก) เขาทำออกมาค่อนข้างสนุก อาจจะไม่ได้โหดเลือดสาด แต่ดูแล้วพลังหญิงมาเต็ม ห้าสาวตระกูล Bennet สวยเท่และสตรองจริง
จุดขายจริงๆ ของหนังน่าจะเป็นรูปร่างหน้าตาของนักแสดงนำมากกว่า โดยเฉพาะนางเอกนี่นมแน่นมาก ทะลักคอร์เซ็ตต์ยิ่งกว่าตอนเป็นนางซินฯ อีกนะเออ แต่โดยส่วนตัว เราชอบ Douglas Booth ที่สุด ชอบมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว หล่อออร่าทะลุจอ รู้สึกว่าเขาเหมาะกับบทผู้ดีชั้นสูงหรือขุนนางอังกฤษดี
ช่วงองก์แรกเป็นช่วงที่สนุกที่สุดของหนัง บันเทิงมาก มุกตลกเขาก็ฮาจริง มีเสน่ห์ โดยเฉพาะชอบการเสียดสีจริตสาวๆ ที่จ้องแต่จะจับผู้ชายรวยๆ มาเป็นสามี แต่ช่วงกลางเรื่องอาจดร็อปลง น่าเบื่อบ้าง จนแอบสงสัยว่าหนังเขาเปลี่ยนคนเขียนบทกลางคันหรืออย่างไร การตัดต่อก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ถึงแม้จะไม่ใช่หนังดีเด่อะไร โดยรวมเรายังถือว่าเป็นหนังที่ดูสนุกอยู่ ไม่ผิดหวังนะ
สาเหตุส่วนหนึ่งที่เราชอบหนังเรื่องนี้อาจเป็นเพราะเราชอบกลิ่นอายความเป็นอังกฤษย้อนยุคและความวรรณกรรมอังกฤษของมัน ภาษาเขาสวยมาก เพราะหลายประโยคยังคงมาจากต้นฉบับดั้งเดิมของ Jane Austen แล้วคนแปล subtitle ก็ยังแปลเป็นภาษาไทยที่สละสลวยอยู่ ในส่วนของงานศิลป์ โปรดักชันดีไซน์ และคอสตูมต่างๆ ก็โอเคเลย ดูดีตามมาตรฐาน อาจไม่ได้ดูแพงหรือปังเท่า The Danish Girl หรือ Carol ที่เราเพิ่งดูไป แต่คือไม่ดู cheap
ในส่วนของเนื้อเรื่อง อย่างที่บอกซอมบี้เป็นแค่ตัวประกอบโง่ๆ ของหนัง ธีมเรื่องของ Pride and Prejudice and Zombies ยังคงเน้นที่ความรัก การแต่งงาน ความไม่เท่าเทียมทางเพศ และชนชั้นทางสังคมเป็นหลักอยู่ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าคุณผู้ชายแมนๆ จะอินมั้ย แต่คิดว่าสาวๆ หลายคนน่าจะชอบ (อย่างน้อยก็ชอบผู้ชายในเรื่องบ้างแหละ อิอิ)
เราดูแล้วเรารู้สึกเห็นอกเห็นใจผู้หญิงในยุคนั้นอย่างมาก ขนาดเกิดมาเป็นคนชั้นสูง แต่แค่ก็สมบัติมรดกของพ่อแม่ตัวเองแท้ๆ ก็ยังไม่มีสิทธิสืบทอด แล้วจะให้ออกไปทำมาหากินเลี้ยงตัวเองเองก็ไม่ได้ ความหวังเดียวของลูกผู้หญิงที่จะมีกินมีใช้ได้คือ แต่งงานและให้สามีเลี้ยง ดังนั้นความรู้ความสามารถอื่นๆ จะไม่จำเป็น ผู้หญิงทั่วไปถูกสอนให้สนใจแค่ความสวยความงาม งานบ้านงานเรือน งานปรนนิบัติสามี และการหาสามีเท่านั้น
ในสมัยนั้น การแต่งงานส่วนใหญ่จะเป็น economic หรือ financial issue มากกว่าจะ based มาจากความรัก งานเลี้ยงเต้นรำก็เหมือนเทศกาลหาคู่ ซึ่งคุณสมบัติแรกที่ผู้หญิงจะตัดสินผู้ชายคือ income และ asset (ตัวละครในหนังจะไม่ใช่พวกชนชั้นกลางที่หาเช้ากินค่ำ ทุกคนเป็นพวก landlord หรือพวกมีศักดินาพันไร่)
ในขณะเดียวกันผู้ชายชั้นสูงที่หล่อรวยก็ย่อมหัวสูง ต้องการภรรยาที่ ครบเครื่อง ทั้งรูปร่างหน้าตา กิริยามารยาท สติปัญญา และความสามารถ (ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นด้านงานบ้าน งานครัว หรือร้องเล่นเต้นระบำ) โดยผู้ชายจะไม่ชอบให้ภรรยาเก่งกล้าเรื่องนอกบ้าน เช่น Mr. Collins ที่ตั้งกฎว่าหญิงที่จะมาเป็นศรีภรรยาของเขาจะต้องเลิกใช้ดาบใช้ปืนโดยเด็ดขาด (แน่นอนว่า Elizabeth ไม่ยอมหรอกจ้า เธอยึดคติอิเหนา “แม้นแผ่นดินสิ้นชายที่พึงเชย อย่ามีคู่เลยจะดีกว่า”)
ด้วยปัจจัยเหล่านี้ คนในสังคมผู้ดีจึงต้องพยายาม keep look และบ้างก็สร้างความปลอมเปลือกขึ้นมา โดยเฉพาะผู้หญิงที่มักจะไม่ได้พูดหรือทำอะไรตามใจคิดเสียทุกอย่าง ปกติต้องพูดและทำตามที่ถูกโปรแกรมมาตามตำรับกุลสตรีร้อยเล่มเกวียน เพื่อให้บรรลุ goal life หนึ่งเดียว นั่นคือทำให้ตัวเองหาสามีได้ ซึ่ง ณ จุดนี้ มันทำให้เราก็เริ่มสังเกตเห็นว่า บางทีมันก็มีเส้นคั่นบางๆ ระหว่างคำว่า มารยาท / หน้าตา / และการโกหกหลอกลวง
Elizabeth เป็นคนท่ีมาดมั่นในอุดมการณ์ที่สุดในบรรดาห้าพี่น้อง Bennet รองลงมาก็ Jane พี่สาวคนโต ในช่วงองก์สุดท้ายของหนัง สองสาวสวยจะพิสูจน์ให้เห็นว่า ไม่ใช่แค่ผู้หญิงที่จะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีผู้ชายดูแล หากแต่ผู้ชายก็อาจจะอยู่ไม่ได้เช่นกันถ้าขาดผู้หญิงดูแล
แต่สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าโลกนี้จะมีซอมบี้หรือไม่มีซอมบี้ ผู้หญิงทุกคนก็ต้องหาสามี แต่ในขณะเดียวกัน ผู้หญิงก็ไม่จำเป็นต้องยอมวางดาบเพียงเพื่อมีผัว เรามองว่าไม่ว่าผู้หญิงจะมีผัวหรือไม่มีผัว เธอก็จะต้องยืนยันที่ไม่วางดาบในมือ เพื่อจะใช้มันไล่ฆ่าซอมบี้… ต่อสู้กับการกดขี่ข่มเหงหรือเพื่อสิทธิความเท่าเทียมทางเพศตลอดไป
ป.ล. Mr. Collins (Matt Smith) แดกซีนพระเอกกับพระรองมากเลยค่ะ ยูจำเป็นต้องตลกขนาดนี้มั้ย 5555
โดยสรุป Pride and Prejudice and Zombies (หรือ PPZ) อาจจะไม่ใช่หนังดี แต่โดยรวมคือสนุกดี เป็นอีกหนึ่งหนังทางเลือกที่ไม่เลวท่ามกลางหนังรางวัลที่จ่อโรงกันแน่นเอี้ยด คะแนนตามความชอบส่วนตัวเราให้ 7.5/10
คว้าดาบออกล่าตามหาสามีพร้อมกันทั่วประเทศ 4 ก.พ. นี้ในโรงภาพยนตร์
126 comments