ถ้าคนไทยหลายคนเติบโตมากับรายการ เจ้าขุนทอง (พ.ศ. 2534 – 2560) คนอเมริกันหลายคนก็เติบโตมากับรายการ Mister Rogers’ Neighborhood (ค.ศ. 1968 – 2001) และมีผู้ดำเนินรายการ Fred Rogers เป็นไอดอล / ฮีโร่ / พ่อพระ ฯลฯ
หนังเรื่อง A Beautiful Day in the Neighborhood ที่เรากำลังกล่าวถึงนี้ ก็ได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องราวของ Fred Rogers กับบทความ “Can You Say … Hero?,” ของ Tom Junod ที่ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสาร Esquire เมื่อปลายปี 1998
เรื่องย่อ A Beautiful Day in the Neighborhood
อนุมานได้ว่า Tom Junod คือตัวละคร Lloyd Vogel (Matthew Rhys จาก The Americans) ในหนังเรื่องนี้ เขาเป็นนักเขียนที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน มีภรรยาที่แสนดี Andrea (Susan Kelechi Watson จาก This Is Us) และลูกชายแบเบาะ แต่ลึก ๆ แล้ว ข้างในของเขาแตกสลายและแหลกเหลว เขามีปัญหากับพ่อของเขา Jerry (Chris Cooper จาก Adaptation.) ซึ่งสะสมกันมานานหลายปี และเขามิอาจให้อภัยพ่อได้
วันหนึ่ง บ.ก.มอบหมายให้ Lloyd Vogel ไปสัมภาษณ์เซเลบริตี้คนดัง Fred Rogers (Tom Hanks จาก Forrest Gump) พิธีกรรายการทีวีขวัญใจเด็ก ๆ และคนแทบทั้งประเทศ และนั่นเองคือจุดเริ่มต้นของจุดเปลี่ยนของชีวิตของเขา
รีวิว วิเคราะห์ วิจารณ์หนัง A BEAUTIFUL DAY IN THE NEIGHBORHOOD
A Beautiful Day in the Neighborhood เป็นหนังที่มีเจตนาที่ดีและเป็นมิตรต่อคนดู อาจไม่ถึงกับใช้คำว่า “สร้างแรงบันดาลใจ” แต่ก็เหมาะกับคำว่า “ให้กำลังใจ” กล่าวคือ นี่เป็นหนังที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนดูที่ต้องการกำลังใจ ต้องการปรับทัศนคติ หรือต้องการพลังบวก เช่นเดียวกับตัวละคร Lloyd ที่มาแบบ broken แต่สุดท้ายเขาค่อย ๆ กลายเป็นคนที่ดีขึ้น… เป็นลูกชายที่ให้อภัยพ่อ อีกทั้งเป็นสามีและพ่อที่ใส่ใจภรรยาและลูกมากขึ้น
พอยต์ของหนังคือ การให้อภัยและการควบคุมจัดการอารมณ์ โดยเฉพาะอารมณ์โกรธหรืออารมณ์เศร้า ซึ่งจริง ๆ อล้วก็เป็นพอยต์ที่ดี เราเห็นด้วยที่เราควรให้อภัยต่อกัน และต้องควบคุมจัดการพลังลบของตนเองให้ได้ แม้แต่วิธีการที่ Fred Rogers ทำ นั่นคือ การเล่นเปียโน การว่ายน้ำ รวมถึงการสงบนิ่งหรือสวดมนต์ ทั้งหมดนี้เราก็ล้วนเห็นด้วยว่ามันคือการกำหนดสติที่ดี มันเหมือนเวลาเราโกรธ อยากระบาย เราก็ไปเล่นกีฬาหรือแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งมันโอเคกว่าการใช้ความรุนแรงหรือทำร้ายจิตใจกันอย่างไม่จบไม่สิ้น
แต่ ๆ ๆ สำหรับเรา มันค่อนข้างโลกสวยไปเสียหน่อย และไม่ใช่แนวที่เราอิน (แต่ไม่ได้แปลว่ามันไม่ดีนะ แค่บอกว่าโดยส่วนตัวเราไม่อิน) อย่าง Fred Rogers (ซึ่งก็มีตัวตนจริง ๆ นั่นแหละ) เป็นคนที่ too good to be true และอาจเรียกได้ว่าเป็น “พ่อพระ” สำหรับทุกคน โดยเฉพาะเด็ก ๆ แล้วเขาไม่ใช่แค่โคตรดีในจอ แต่ดันดีนอกจอด้วย โดยส่วนตัว ถ้าเราอยู่กับคน type นี้นาน ๆ เราจะหงุดหงิดหรือกรอกตาบนบ่อย ๆ ได้ (เรารู้ เรามันเลว ฮ่า ๆ)
สิ่งที่เด็ดขาดและชอบที่สุดในหนังคือการแสดงของ Tom Hanks ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องน่าเซอร์ไพร์สอะไร เราต่างรู้กันมานานแล้วว่าเขาคือนักแสดงคุณภาพเจ้าบทบาท ซีนที่เราตราตรึงเท่าที่จำได้ถึงตอนนี้คือ ฉากที่ Mister Rogers ชวนคุณนักเขียนสงบนิ่งในร้าน มันเหมือน Tom Hanks กำลังจ้องตาเราอยู่จริง ๆ และมันเหมือนถูกสะกดจิตอย่างบอกไม่ถูก และอีกฉากคือตอนที่เขาถูกนักเขียนถามว่า ลูกของเขาคงลำบากน่าดูที่มีเขาเป็นพ่อ มันคือแว้บนึงที่เราได้เห็นพ่อพระคนนี้มี emotion บางอย่างในแววตาออกมา ที่ทำให้เราระลึกได้ว่า เขาก็ยังเป็นมนุษย์
ป.ล. ปีนี้ Tom Hanks ได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากเรื่องนี้
คะแนนตามความชอบส่วนตัว 7/10
43 comments
Comments are closed.