หนังฮิพฮอพ Straight Outta Compton ซึ่งสร้างจากเรื่องจริงของ N.W.A ฮิพฮอพวงดังจากเมือง Compton, California อาจดูเป็นหนังฟอร์มเล็กที่น้อยคนจะรู้จักในบ้านเรา
แต่ขอบอกไว้เลย หนัง Straight Outta Compton เรื่องนี้ไม่ธรรมดา เพราะครองแชมป์ภาพยนตร์อันดับ 1 ในสหรัฐอเมริกา เป็นเวลา 3 สัปดาห์ซ้อน กวาดรายได้ทั่วโลกมากกว่า 144 ล้านเหรียญ และได้คะแนนนักวิจารณ์จากเว็บมะเขือเน่ากับ IMDB สูงลิบลิ่วเลยทีเดียว
เรื่องย่อ Straight Outta Compton
วัยรุ่นผิวสีห้าหนุ่มแห่งเมือง Compton, California ได้แก่ Eazy-E (Jason Mitchell), Dr. Dre (Corey Hawkins), MC Ren (Aldis Hodge), DJ Yella (Neil Brown Jr.) และ Ice Cube (O’Shea Jackson Jr. ลูกชายแท้ๆ ในชีวิตจริงของ Ice Cube) ฟอร์มวงฮิพฮอพกันภายใต้ชื่อ N.W.A (Niggaz With Attitude)
วงนี้มีมันสมองหลักคือ Dr. Dre เป็นโปรดิวเซอร์ และ Ice Cube เป็นคนแต่งเนื้อเพลง ส่วน Eazy-E เป็นผู้ลงทุนลงเงินตั้งต้น โดยต่อมาพวกเขาได้ Jerry Heller (Paul Giamatti จาก Love & Mercy) มาเป็นผู้จัดการวง และเริ่มต้นออกเทปกับค่าย Priority Records กับ Bryan Turner (Tate Ellington)
พอพวกเขาค่อยๆ มีชื่อเสียง ปัญหาต่างๆ ก็ตามมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องครอบครัว เซ็กส์ ยาเสพติด การขัดแย้งกันทางผลประโยชน์ การแยกวง จนไปถึงการมีปัญหากับตำรวจ เพราะเนื้อหาของพวกเขามีเนื้อหาที่รุนแรง
รีวิว วิเคราะห์ วิจารณ์ Straight Outta Compton
เราไม่ใช่คอเพลง hip-hop หรือเพลง rap อะไรทำนองนี้ และไม่ใช่แฟนเพลงของวง N.W.A ด้วย แต่ได้จับพลัดจับผลูไปดูรอบสื่อหนังเรื่องนี้อย่างงงๆ หลังจากที่ตอนนั้นรอบสื่อหนัง “อาบัติ” โดนถอดชั่วคราวโดยกระทรวงไดโนเสาร์ แต่ถึงแม้จะเข้าโรงไปด้วยความว่างเปล่า ทุกนาทีที่นั่งดู Straight Outta Comptonในโรงกลับเต็มเปี่ยมไปด้วยความสนุก บันเทิง และมีอารมณ์ร่วมไปกับหนังอัตชีวประวัติเรื่องนี้สุดๆ
เรากล้าพูดได้เต็มปากเต็มคำเลยว่า Straight Outta Compton เป็นหนัง based on a true story ที่สนุกและดีที่สุดเรื่องหนึ่งเท่าที่เคยดูมา บทดีมาก ภาพและการตัดต่อก็คูลมากๆ แถมดนตรียังสนุกจนอยากจะลุกขึ้นไปเต้นตามอีกต่างหาก เราเชื่อว่าต่อให้คนที่ไม่ใช่แฟนเพลงแนวนี้หรือวงนี้ได้ดูหนังเรื่องนี้ก็ยังดูสนุก ชนิดที่อาจจะอินสุดๆ จนลืมความยาวของหนังกันไปเลย (หนังยาว 147 นาที)
หนังเล่าตั้งแต่แบ็คกราวนด์ชีวิตของสมาชิกแต่ละคน จนถึงทำอย่างไรถึงมารวมตัวทำวงกันได้ ทำอย่างไรถึงก้าวมาโด่งดังและประสบความสำเร็จ ทำอีท่าไหนถึงวงแตกหรือกลับมาจุดต่ำสุดอีกครั้ง แล้วทำอย่างไรเพื่อนถึงจะได้กลับมาเป็นเพื่อนกันอีกครั้งจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ดังนั้น หนังเรื่องนี้จึงเป็นหนังเล่าเรื่องชีวิตศิลปินกลุ่มนี้มีสาระข้อคิดแน่นเฟร่อกว่าเรื่องไหนๆ ที่เคยดูมาอย่างแน่นอน
และแค่เห็นหน้าหนัง ก็รู้แล้วว่านี่คือหนัง Black Movie หรือหนังเกี่ยวกับคนผิวสี (ซึ่งคาดว่ากำลังจะเป็นเทรนด์ต่อจากเทรนด์หนังเฟมินิสต์ของปีนี้) ดังนั้น แน่นอนว่าในหนังจะต้องมีการเล่นประเด็นการเหยียดผิวหรือเหยียดเชื้อชาติ (racism) ค่อนข้างเยอะ และคนผิวขาวจะเสมือนเป็นตัวร้ายของเรื่อง
เรื่องราวเริ่มต้นช่วงประมาณปี 1986 ณ เมือง Compton, California ตอนนั้นคนผิวสีถูกตีตราว่าเป็นกุ๊ยของสังคม มักถูกเหมารวมว่าเป็นคนไม่ดี ค้ายา เสพยา และนิยมความรุนแรง เพลงแนวฮิพฮอพก็ไม่ค่อยได้รับการยอมรับว่าเป็น “ศิลปะ” เท่าเทียมกับเพลงแนวอื่นๆ ขนาดพวกเขาดังแล้ว สื่อก็ยังไม่มองว่าพวกเขาสมควรจะถูกเรียกว่า “ศิลปิน” / “ไอดอล” / “Role Models” ของแฟนๆ
เหล่าสมาชิกวงดังกล่าวคับแค้นใจที่ถูกคนผิวขาวในเครื่องแบบจ้องแต่รังแกและจับผิดพวกเขามาทั้งชีวิต จึงแต่งเพลง “F–k tha Police” เพื่อประจานความชั่ว ความ bullying ของตำรวจ ซึ่งก่อให้เกิดจราจลกันไปทั้งเมือง ณ ขณะนั้น
N.W.A สถาปนาตนเองเป็น “street reporters” ไม่ได้เป็นแค่ศิลปินทั่วไป โดยอ้างว่าเพลงของพวกเขาคือ “reality rap” ที่สะท้อนสังคม บอกเล่าความจริง ตามหลัก free speech (แต่บางที เราว่ามันก็เข้าข่าย hate speech อยู่บ้างนะ ไม่รู้สิ)
อย่างไรก็ดี ศิลปะกับธุรกิจมักไปด้วยกันได้ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ ชื่อเสียงเงินทองกับมิตรภาพก็เช่นกัน… ดังนั้น อะไรๆ ที่มันเคยเป็นแค่ “ความฝัน” บางครั้งในวันที่มัน “เป็นจริง” แล้ว มันอาจจะมีปัญหาที่ไม่คาดฝันตามมามากมาย
จะเห็นได้ว่า ปัญหาของคนอาจจะไม่ใช่แค่การไม่มีเงินเสมอไป บางครั้งสำหรับบางคน การมีเงินทองหรือชื่อเสียงมากๆ เขาก็ไม่รู้จักเอาสิ่งเหล่านี้ไปใช้ในทางที่ถูกที่ควร อย่างที่จะเห็นได้ว่าศิลปินใหญ่ๆ หลายคนมักเอาชื่อเสียงเงินทองของตนไปซื้อความสุขชั่วครั้งชั่วคราวอย่างเช่น เซ็กส์ ปาร์ตี้ หรือยาเสพติด จนหลงลืมหรือละเลยสิ่งที่สำคัญกว่าบางอย่างไป เช่น ครอบครัว หรือเพื่อนแท้
คำถามที่นักข่าวคนหนึ่งถามในเรื่องว่า “What do you do when you get rich?” จึงไม่ใช่แค่คำถามที่นางถามพวก N.W.A เท่านั้น หากแต่ยังถามพวกเราเหล่าคนดูด้วย… ซึ่งคำถามนี้… เราว่า มันไม่ใช่คำถามที่ต้องการให้เราตอบ… แต่เป็นคำถาม… ที่ต้องการให้เรา “คิด” …
คะแนนตามความชอบส่วนตัว (ทั้งๆ ที่ไม่เคยฟัง และไม่เคยรู้จักวงนี้เลย) ให้ 8.5/10 เข้าโรง 22 ต.ค. นี้
By the way, หนังดีมักมีฉายน้อย Straight Outta Compton จะมีฉายในประเทศไทยแค่ที่ Paragon Cineplex & SF World เท่านั้น เช็ครอบเช็คโรงกันดีๆ เนาะ อยากให้ลองเปิดใจดู :)
ป.ล. ช่วงนี้เราไม่ค่อยมีเวลาเขียนบล็อกเท่าไหร่ และเรื่องนี้ก็ดองการอัพรีวิวไว้เป็นสัปดาห์แล้ว บล็อกนี้เลยอาจจะสั้นและไม่ได้เก็บรายละเอียดมากเท่ากับเรื่องอื่นๆ ที่เราเคยเขียน จึงขออภัยผู้อ่านผู้ติดตามมา ณ ที่นี้นะคะ T^T
READ MORE: 14 Things We Learned About ‘Straight Outta Compton’
91 comments