รีวิว T2 Trainspotting: หนังที่ควรดูตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น

T2 Trainspotting เป็นหนังภาคต่อของเรื่อง Trainspotting (1996) ซึ่งเป็นหนังวัยรุ่นที่ประสบความสำเร็จเกินคาดในยุคนั้น และเข้าชิง Best Screenplay Writing จากเวทีออสการ์ในปีนั้น กลายเป็นหนังที่คอหนังตัวจริง จนถึงหนุ่มสาวชาวอินดี้-ฮิปสเตอร์ทั้งโลกต้องดู!!! หนังทั้งสองภาคเป็นผลงานของ Danny Boyle ผู้กำกับออสการ์จาก Slumdog Millionaire และ Steve Jobs

เรื่องย่อ T2 Trainspotting

T2 Trainspotting เป็นเรื่องราวหลังจากที่ Mark Renton หรือ Rent Boy (Ewan McGregor จาก Star Wars) หักหลังเพื่อนร่วมแก๊งทั้งสามและเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ Amsterdam

เมื่อเข้าสู่วัยกลางคน ทั้งสี่เกลอกลับมารวมตัวกันอีกครั้งเมื่อ Renton กลับมาที่ Edinburgh, Scotland พบว่า Simon Williamson หรือ Sick Boy (Jonny Lee Miller จาก Frankenstein) กำลังรับช่วงต่อบาร์ใกล้เจ๊งของพ่อ และตอนนี้กำลังคบหากับสาวบัลแกเรียแสนสวย Veronica (Anjela Nedyalkova) ส่วน Spud (Ewen Bremner จาก Pearl Harbor) กำลังเมายาหนักถึงขั้นจะฆ่าตัวตาย พวกเขาพากันไปสู่วงการด้านมืดกันอีกครั้ง อีกทั้งยังต้องรับมือกับ Begbie (Robert Carlyle จาก 28 Weeks Later) ที่เพิ่งออกจากคุกและต้องการตามล้างแค้นที่สะสมมาถึง 20 ปี!

“First there was an opportunity, then there was a betrayal.”

รีวิว วิเคราะห์ วิจารณ์ T2 Trainspotting

ถ้า Trainspotting เป็นช่วงวัยรุ่นที่เหลวแหลกของตัวละครหลักทั้งสี่ T2 Trainspotting ก็เป็นช่วงวัยกลางคนของพวกเขาที่พวกเราจะได้เห็นผลลัพธ์ของการใช้ชีวิตแบบผิด ๆ ของพวกเราในอดีต โดย T2 Trainspotting เล่าเรื่องต่าง ๆ ด้วยภาพที่เจ็บจี๊ดและเพลงที่สุดคูล ตัวละครต่าง ๆ นิสัยโดยรวมก็ยังไม่ต่างจากสมัยเด็ก เราจะยังรู้สึกเหมือนว่าเรายังดูหนังวัยรุ่นอยู่ ไม่ใช่หนังคนแก่ปลงโลก

เราไม่เคยดู Trainspotting ภาคแรก แต่พอคาดเดาได้ว่า พวกเขาทั้งสี่ในสมัยวัยรุ่นทำตัวไว้ยังไงบ้าง วันนี้พวกเขาไม่มีความสุขและแทบไม่มีอะไรเลยในชีวิต ครอบครัวก็พัง ธุรกิจก็เจ๊ง หนี้สินก็ตุงนัง เหล้ายาปลาปิ้งก็เสพติด ฯลฯ ชีวิตวันนี้จมอยู่กับความแค้น ความเสียใจ ความต้องการแก้ไข และความต้องการแก้แค้น

เมื่อปัจจุบันมันไม่มีอะไรดี และอนาคตก็เหมือนจะไม่มีหนทาง พวกเขาเฝ้านึกถึงอดีตตลอดเวลา ทั้งอดีตที่สนุกสนานแฮปปี้กับผองเพื่อน อดีตที่เจ็บปวด อดีตที่อยากลืม อดีตที่อยากจะกลับไปแก้ไข ฯลฯ หรือที่ตัวละครตัวหนึ่งเรียกว่า “We are a tourist in our own youth,”

ประเด็นในเรื่องนี้อีกอย่างนึงคือ “CHOOSE LIFE” ซึ่งคำว่า “LIFE” หรือ “ชีวิต” ที่พวกเราเลือก ๆ กันเนี่ย จริง ๆ แล้วมันไม่ได้สวยหรูหรือสวยงามอะไรเลย ชีวิตของเราคืออะไร? ชีวิตที่เราเลือกคืออะไร? ชีวิตคือการเลือกที่จะไม่เรียนรู้จากข้อผิดพลาด? ชีวิตคือการเลือกความผิดหวัง?

เราเชื่อว่า ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ Renton ก็คงไม่ขอหักหลังเพื่อนโดยการเชิดเงิน £16,000 ในตอนนั้น วันนั้นเขาอาจแค่คิดว่า เงินเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เขามีชีวิตใหม่และชีวิตที่ดีขึ้นได้ แต่ 20 ปีผ่านไป เขาได้เรียนรู้แล้วว่า เงินมากมายมันหามีค่าอะไรเลยหากไม่มีคนรักหรือเพื่อนรักอยู่เคียงข้าง

ในวัยกลางคนของพวกเขา ถึงแม้แต่ละคนต่างจะมีหรือเคยมีครอบครัวกันไป บ้างก็มีลูก แต่ตัวละครผู้หญิงแต่ละตัวกลับออกมาน้อยมาก หรือมีบทบาทไม่เยอะเท่าสมัยก่อน (เว้นแต่ Veronica กิ๊กคนใหม่ของ Simon ที่เพิ่งโผล่มาภาคนี้)

Kelly Macdonald กลับมารับบท Diane กิ๊กเก่าของ Renton ที่ออกมาแค่ซีนเดียว ไม่กี่นาที แต่เป็นตัวแทนของคนที่เลือกทางเดินที่ดี ปัจจุบันเป็นทนายความ มีฐานะและการงานที่มั่นคง ต่างจากหนุ่ม ๆ ทั้งสี่ราวฟ้ากับเหว

การแสดงออกของสาว ๆ คนเก่าที่มีต่อชายคนรัก(หรือเคยรัก)ก็ไม่เหมือนเดิม ส่วนหนึ่งก็อาจเพราะหมดรัก ส่วนหนึ่งก็อาจเพราะผิดหวังที่ชีวิตคู่ไม่สวยหรูดั่งเทพนิยาย หรืออีกส่วนคือ… อยากให้ลูก ๆ ไม่ต้องเจอกับตัวอย่างที่ไม่ดี อยากให้ลูก ๆ ไม่ซ้ำรอยที่พ่อเคยเดิน

Begbie เข้าไปอยู่ในคุกถึง 20 ปี คุกไม่สามารถเปลี่ยนเขาได้ กาลเวลาไม่อาจทำให้เขาเปลี่ยนไป แต่โลกมันเปลี่ยนไปทุกวัน ต่อให้เราเหมือนเดิม แต่โลกมันก็ไม่เหมือนเดิม… 20 ปีที่ผ่านไป เราจะคาดหวังให้มีอะไรบ้างที่แน่นอน…

T2 Trainspotting หน้าหนังเหมือนจะมีความเกรียน แต่จริง ๆ กลับมีข้อคิดมากมาย ที่วัยรุ่นควรรู้ตั้งแต่อายุ 20 สำหรับเรื่องนี้จัดเป็นหนังชีวิตที่ดูง่าย ดูคูล ดูเพลิน และดูสนุกมาก  ผู้กำกับเล่าเรื่องเก่งมากจริง ๆ ภาพก็สวย เพลงก็มันส์ ต้องขอบคุณค่าย SONY PICTURES และโรงหนัง HOUSE RCA ที่ทำโปรเจ็กต์ SONY@HOUSE 2017 นี้ขึ้นมา ทำให้คนรักหนังได้ดูหนังที่หลากหลายมากขึ้น

T2 Trainspotting เข้าฉาย 1 มิ.ย. 2017 นี้เป็นต้นไป ฉายเอ็กซ์คลูทีฟที่ HOUSE RCA โรงเดียวในประเทศไทยเท่านั้น นอกจากเรื่องนี้แล้ว โปรเจ็กต์ SONY@HOUSE 2017 ยังมีหนังคุณภาพจ่อคิวเข้าฉายอีกมากมาย อาทิเช่น Call Me Your Name, Brigsby Bear, และ 20TH Century Women

คะแนนตามความชอบส่วนตัว 8/10