รีวิว The 5th Wave

The 5th Wave เป็นหนังที่สร้างจากนิยาย YA แนวดิสโธเปียชื่อเดียวกัน The 5th Wave  ของ Richard “Rick” Yancey นำแสดงโดยดาราวัยรุ่นหน้าตาดี Chloë Grace Moretz (จาก Kick-Ass) และ Nick Robinson (จาก Jurassic World)

เรื่องย่อ The 5th Wave

เมื่อเอเลี่ยนบุกโลกและล้างโลกทีละระลอกๆ ทั้งตัดไฟฟ้าและสัญญาณโทรศัพท์ น้ำท่วมใหญ่ โลกระบาด ฯลฯ มนุษยชาติค่อยๆ ล้มหายตายจากเป็นจำนวนมาก ผู้รอดชีวิตอพยพไปอยู่ค่ายลี้ภัย

วันหนึ่ง Vosch (Liev Schreiber) นำพลทหารมาต้อนเด็กๆ ในค่าย เพื่อไปเข้ารับการฝึกเป็นทหารรบ ทำให้ Cassie (Chloë Grace Moretz) พลัดพรากจาก Sam (Zackary Arthur) น้องชายคนเดียวของเธอ

Cassie ได้รับการช่วยเหลือจาก Evan Walker (Alex Roe) ระหว่างการเดินทางไปช่วย Sam ในขณะเดียวกัน Sam ก็ยังโชคดีที่ได้อยู่หน่วยเดียวกับ Ben Parish (Nick Robinson) ชายหนุ่มที่โรงเรียนที่ Cassie แอบหลงรัก

รีวิว วิเคราะห์ วิจารณ์ The 5th Wave

ช่วงหลังนี้เราได้ดูหนังตัวเต็งออสการ์หรือหนังรางวัลมาหลายเรื่องติดต่อกัน ทั้ง The Big Short, The Hateful Eight, Spotlight, และ Steve Jobs พอรู้ว่าจะต้องมาดู The 5th Wave ซึ่งเป็นหนังเอเลี่ยนตลาดๆ ก็ต้องปรับโหมดนิดนึงก่อน และเข้าไปดูแบบไม่คาดหวังอะไรเลยนอกจากหน้าสวยๆ ของน้อง Chloë แต่ก็ไม่รู้ทำไมนะ… นี่ขนาดไม่คาดหวังแล้ว สุดท้ายก็ยังผิดหวังออกมาอยู่ดี

The 5th Wave เป็นหนังเอเลี่ยนที่น่าเบื่อมากกกก เนื้อเรื่องแทบไม่มีพอยต์อะไรเลย ปูเรื่องเยอะไป ดำเนินเรื่องเนิบๆ ไม่น่าสนใจ สามารถลุกไปฉี่ได้แทยตลอดเวลาโดยที่เราจะไม่พลาดอะไรสำคัญไป (นี่ยังไม่นับ CGI ที่ดูเป็นหนังเกรด B นั่นอีก) ช่วงที่ “คลื่นระลอกที่ห้า” มา เหมือนจะมีอะไรมาเซอร์ไพรส์คนดูให้ตื่นเต้นนะ แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไร เดาเรื่องง่ายดายตั้งแต่ต้นจนจบ ไร้ซึ่งความน่าค้นหาติดตาม บางจุดก็นอนเซนส์

อ้อ อย่างไรก็ดี หนังก็เหมือนจะมีประเด็นเรื่องความเป็นมนุษย์ การลิขิตชีวิตของเราเอง และการพยายามครอบครองโลกของผู้มีอำนาจ (โดยให้มนุษย์ต่างดาวที่แฝงตัวเป็นมนุษย์เป็นสัญลักษณ์แทนพวกรัฐบาลจำพวกหนึ่ง) แต่ท้ายสุดก็ไม่ได้เรื่อง เพราะมีซีนรักกุ๊กกิ๊กมันมาขัดหูขัดอารมณ์ไปซะหมด ส่วนฉากแอ็คชั่นไม่ต้องพูดถึง อย่าหวัง…

The 5th Wave เป็นหนังไซไฟแฟนตาซีท่ีพล็อตถูกดร็อปด้วยปมน้ำเน่ารักสามเส้าหนึ่งหญิงสองชายนั่นแหละ มันมีความเป็น Twilight สูงมาก ถ้าเปลี่ยนจากมีเอเลี่ยนเป็นแวมไพร์กับหมาป่านะ ใช่เลย

นี่ตอนแรกก็คิดในใจตลอดเลยว่า พล็อตอะไรแบบนี้ หนังสือต้นฉบับต้องเขียนด้วยผู้หญิงแน่ๆ แล้วพอภายหลังมารู้ว่า อ้าว เป็นผู้ชายเขียนหรอ – – (เออ งั้นเอาที่ลุงสบายใจล่ะนะ) แต่นั่นแหละ ไม่ว่าจะใครเขียนก็ตาม หรือใครจะว่าว่าหนังไม่สนุกเหมือนหนังสือก็ตาม เราไม่สนใจละ เราไม่เคยอ่านหนังสือมัน และคงจะไม่คิดจะไปหาอ่าน เพราะหนังมันทำเราเฟลสุดๆ

จริงๆ ปกติเราชอบหนังดิสโธเปีย หนังสัตว์ประหลาดแฟนตาซี หรือหนังวัยรุ่นหน้าตาดีนะ แต่…แต่อันนี้คือไม่ใช่อะ หนังมันไม่ลงตัวเลยระหว่างความไซไฟแฟนตาซีกับรักโรแมนติกวัยรุ่นวัยใส ไม่ว่าเขาจะพยายามไปทาง Twilight กับ The Hunger Games หรือไปทาง Independence Day กับ War of the Worlds มันก็ไปไม่สุดสักทาง

ความดีงามสิ่งเดียวในหนังคือนักแสดงนำ Chloë Grace Moretz, Nick Robinson, และ Alex Roe น่ารักสมวัย การแสดงอาจจะไม่หวือหวามากแต่ก็ไม่ได้แย่ อย่างหนูน้อย Chloë เนี่ย เจ้ชอบหนูมานานละนะ และชื่นชมที่เรื่องนี้หนูต้องแบกคนเดียวทั้งเรื่อง คือทำได้ขนาดนี้ ก็ถือว่าอยู่ในระดับพอรับได้นะ

แต่มันก็ “ไม่ได้” เลอค่าพอที่เจ้จะช่วยป่าวประกาศบอกชาวโลกได้ว่า “ถึงหนังจะไม่สนุก แต่เข้าไปดูโคลอี้ก็คุ้มแล้ว” โดยเฉพาะในวีคที่ยังมี The Big Short, The Hateful Eight, และ Spotlight เป็นตัวเลือกแล้วเนี่ย… บอกเลยว่า งานนี้ไปดูหนังดราม่าอย่างนั้นยังสนุกกว่าดูหนังไซไฟเรื่องนี้… เชื่อเจ้

The 5th Wave เข้าฉายที่ไทย 14 ม.ค. 2016 แต่ไม่ค่อยแนะนำให้ไปดู เพราะเสียเวลา ยกเว้นใครเป็นแฟนคลับของ Chloë Grace Moretz กับ Nick Robinson จะไปให้กำลังใจพวกนางก็ได้ เอาที่สบายใจ

คะแนนตามความชอบส่วนตัว 6/10

ป.ล. หนังตัดจบงงๆ และยังไม่คลี่คลายอะไรหลายๆ อย่าง ประหนึ่งตั้งใจว่าจะสร้างภาคต่อ (ซึ่งหนังสือจริงๆ มันก็มีสามเล่มจบอ่ะนะ) ในส่วนของรักสามเส้าที่ยังค้างคานั้น ใครจะอยู่ทีม Evan Walker ก็อยู่ไป แต่เราขออยู่ทีม Ben Parish เพราะถ้าเราเป็นนางเอก เราขอเลือกคนที่ช่วยชีวิตน้องชายของเธอมากกว่าคนที่ช่วยชีวิตตัวเธอเอง