The Road Within เป็นหนังคอมเมดี้-ดราม่า บอกเล่าเรื่องราวการผจญภัยของผู้ป่วยสามคนสามโรค (โรคชักกระตุก โรคกลัวอ้วน และโรคย้ำคิดย้ำทำ) ที่อาจจะดูเป็นหนังเล็กๆ เมื่อเทียบกับหนังหลายเรื่องที่เข้าโรงในช่วงเวลาเดียวกัน แต่สำหรับเรา เรามองว่า The Road Within เป็นหนังที่ดูได้ดูดี ไม่เสียดายเงินและเวลาเลยสักนิด
เรื่องย่อ The Road Within
หลังจากสูญเสียคุณแม่ไป Vincent (Robert Sheehan จาก The Mortal Instruments) ก็ถูก Robert คุณพ่อนักการเมืองใหญ่ (Robert Patrick จาก Terminator 2) ส่งตัวไปอยู่ศูนย์รักษาผู้ป่วยเฉพาะทาง เพื่อรักษาโรคชักกระตุก หรือ Tourette’s syndrome ภายใต้การดูแลของ Dr. Rose (Kyra Sedgwick จาก Gamer)
รูมเมตของ Vincent ชื่อว่า Alex (Dev Patel จาก Slumdog Millionaire และ Chappie) เป็นผู้ป่วยโรคย้ำคิดย้ำทำ (Obsessive Compulsive Disorder) ที่อนามัยจัดมาก ทั้งสองจึงเข้ากันไม่ค่อยได้สักเท่าไหร่ แต่ยังดีที่ Vincent ยังได้เพื่อนใหม่ที่คุยกันรู้เรื่องอย่าง Marie (Zoë Kravitz จาก X-Men: First Class, Divergent, Mad Max) สาวน้อยผู้ป่วยเป็นโรคกลัวอ้วน หรือ Anorexic
คืนหนึ่ง ทั้งสามขโมยรถของ Dr. Rose หนีออกไปผจญภัยสู่โลกกว้าง ทำให้ Dr. Rose กับ Robert (พ่อของ Vincent) ต้องออกมาตามหาไล่ล่ากันจ้าละหวั่น แต่การผจญภัยครั้งนั้นก็ทำให้ทุกคนได้เรียนรู้อะไรมากขึ้น…
รีวิว วิเคราะห์ วิจารณ์ The Road Within
กระแสตอบรับจากหนังเรื่อง The Road Within โดยรวมก็มีทั้งว่าดีและว่ายังไม่ดี แต่ในมุมมองของเรา เราอยู่ฝ่ายที่มองมันว่าดี และกล้าพูดเต็มปากเต็มคำว่า เราชอบหนังเรื่องนี้…
จริงอยู่ที่ว่า ถ้าเราโฟกัสที่การผจญภัยหรือเส้นเรื่อง เราคงมองว่าหนังเรื่องนี้ยังทำได้ไม่สุด ยังไม่หวือหวา หรือสร้างแรงบันดาลใจได้มากพอถ้าเทียบกับหนังแนวผจญภัยท่องโลกกว้างเรื่องอื่นๆ เช่น The Secret Life of Walter Mitty ที่หลายๆ คนชื่นชอบ แต่เผอิญเราสนใจและโฟกัสที่ตัวละครแต่ละตัว ทั้งที่เป็นผู้ป่วยที่ถูกสังคมจัดว่าเป็น “บุคคลไร้ความสามารถ” และที่เป็นบุคคลที่สังคมให้การยอมรับอย่าง “หมอ” หรือ “นักการเมือง”
Social Acceptance & Self Acceptance เป็นเมสเสจแรกที่เราคิดว่าหนังต้องการจะถ่ายทอดให้กับคนดู ตลอดเรื่องเราจะเห็นว่าตัวละครหลักอย่าง Vincent ผู้ป่วยเป็นโรคชักกระตุก (Tourette) พยายามจะพิสูจน์ให้พ่อยอมรับและไว้วางใจว่า เขาสามารถดูแลตัวเองได้ ไม่ได้เป็น loser อย่างที่พ่อเขาดูถูกดูแคลน
Vincent มีเป้าหมายว่า เขาอยากพาแม่ (หรือเถ้ากระดูกแม่) ไปเที่ยวทะเลที่แม่เคยไป และถ้าวันนึงเขาหายดีหรือดีขึ้น เขาจะได้กลับไปเรียนต่อให้จบ เหมือนเด็กคนอื่นๆ ทั่วไป ซึ่งเราว่า…สิ่งสำคัญที่สุดของ Vincent นั้นไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลย เขาแค่อยากให้คนอื่นเลิกมองและเลิกปฏิบัติกับเขาประหนึ่งว่าเขา “แตกต่าง” จากคนปกติ ก็แค่นั้น…
ส่วน Alex เอง ที่ป่วยเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ (Obsessive Compulsive Disorder) แม้แต่จะเปิดปิดประตูแต่ละบานแต่ละทีก็ต้องเปิดๆ ปิดๆ ซ้ำไปซ้ำมาอยู่นั่น หลายๆ อย่างในตัว Alex ทำให้เราเข้าใจคนอย่างเขามากขึ้น ทั้งคนที่ป่วยเป็นโรคนี้จริงๆ หรือคนที่ชอบย้ำคิดย้ำทำทั่วไปที่ยังไม่รุนแรงถึงขั้นถูกจัดเป็นผู้ป่วย
กล่าวคือ คนกลุ่มนี้น่าจะมีพื้นฐานมาจากการขาดความมั่นใจในตัวเองและกลัวสังคมรอบข้างไม่ยอมรับ เขาจะพยายามทำตัวเองให้ Cool เพื่อให้คนอื่นชื่นชมและมองเขาเป็นพวกเดียวกัน ในขณะเดียวกัน ก็กลัวที่จะสัมผัสหรือแสดงออกความรักกับคนรอบข้าง เขาจิตตก ปิดกั้น หวาดระแวง และมองทุกอย่างในแง่ร้าย…
บอกเลยว่า หนังเรื่อง The Road Within เป็นหนังที่ตลก ตลกแบบฟีลกู้ด โดยซีนที่ตลกหรือมุกที่ฮาๆ ล้วนมาจากอาการชักกระตุกของ Vincent กับปัญหาจิตป่วยของ Alex เสียส่วนใหญ่ (แน่นอนว่าการแสดงของ Dev Patel ก็ยังเจ๋งเหมือนเดิม จะว่าไป เจ๋งกว่าเรื่องก่อนๆ เสียด้วยซ้ำ เราชอบมาก) แต่ละมุกของโรคของพวกเขานั้นทำให้คนดูทั้งหัวเราะและปรบมือพร้อมกันทั้งโรงโดยไม่ได้นัดหมาย
แต่ลองนึกภาพ… ถ้าชีวิตจริง ถ้าคนใกล้ตัวเราเป็นโรคดังกล่าว เราก็คงจะขำไม่ออก ดังนั้น ใน ณ ขณะที่ดู เราไม่ได้ได้แค่ความบันเทิง แต่เรายังได้ปรับทัศนคติ เปลี่ยนมุมมอง และเข้าใจ “คนชายขอบ” กลุ่มนี้ไปด้วยพร้อมๆ กัน
ส่วนตัวละคร Marie ที่เป็นโรคกลัวอ้วน (Anorexic) นั้น เรายังไม่อินกับมันสักเท่าไหร่ ทั้งๆ ที่จริงตัว Gren Wells เอง (ผู้กำกับ และเขียนบท) ก็เคยเป็นโรค Anorexic มาก่อน (และเราเองก็แอบเป็นคนคลั่งผอมเบาๆ) โอเค… หนังทำให้เรารู้ ได้เข้าใจว่าโรคที่ Marie เป็นมันเกิดจากหัวใจไม่ใช่สมอง คนนอกอาจเห็นเขาเป็นซี่โครงไก่เดินได้ แต่ตัวเขากลับเห็นตัวเองเป็นหมูคุโรบุตะอ้วนป๊ะ มันจึงไม่ง่ายสำหรับเขาที่จะแค่อ้าปากงับอาหารแล้วกลืนลงท้องอย่างเราๆ
แต่สิ่งที่เราไม่ค่อยโอเคกับตัวละคร Marie คือตรงที่หนังยัดเยียดบทโรแมนติกกุ๊กกิ๊กให้ Marie จนดูเหมือนตั้งใจใส่ Marie เข้ามา เพียงเพราะอยากให้หนังมี subplot เกี่ยวกับความรักเฉยๆ เอาจริงๆ เรารู้สึกว่า มันไม่จำเป็นต้องเขียนบทให้ Marie กุ๊กกิ๊กกับใครในเรื่องก็ได้ เน้นมิตรภาพอย่างเดียวก็อินแล้ว (คหสต.) เพราะหนังมันมีปมเยอะพออยู่แล้ว แล้วพอทำแบบนี้แล้ว และทำได้ไม่สุด มันก็ทำให้หนังเสียคะแนนอย่างน่าเสียดาย (แต่ก็ไม่ได้หักคะแนนมากมาย เห็นแก่ Zoë Kravitz ที่ต้องลดน้ำหนักตั้ง 9 กิโลฯ เพื่อมารับบทนี้)
ตัวละครที่ไม่ใช่คนป่วยในเรื่อง อย่างหมอ Dr. Rose กับนักการเมืองใหญ่ Robert (พ่อของ Vincent) เป็นหนึ่งในสีสันของเรื่องที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คนที่ดูเหมือนจะปกติธรรมดา แถมยังเป็นคนที่มีหน้ามีตาในสังคม ก็มี “ความป่วย” เป็นของตัวเองเช่นเดียวกันกับ Vincent, Alex, และ Marie เพียงแต่พวกเขาอาจจะควบคุมพฤติกรรมนั้นๆ ได้บ้างต่อหน้าสาธารณชน หรือไม่ก็เป็นความป่วยพื้นฐานที่สังคมยอมรับได้ อย่างใดอย่างหนึ่ง
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร เราก็ได้เห็นว่า จริงๆ แล้ว สังคมเราอาจจะไม่มีคนปกติอยู่เลยก็ได้ และทุกคนก็ล้วนแต่มีปัญหาของตัวเอง ทุกคนต่างก็ต้องการการบำบัดในบางเวลา แม้แต่หมอที่ต้องดูแลผู้ป่วยเป็นแสน หมอก็มีความป่วยที่ต้องการคนช่วยดูแลรักษาเช่นกัน แม้แต่นักการเมืองที่ต้องดูแลบ้านเมือง เขาก็อาจจะมีปัญหาในการดูแลจัดการปัญหาในบ้านตัวเองเช่นกัน
อย่าลืมว่า ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นใครมาจากไหน มันอาจจะมีมุมมองที่เราอาจจะมองข้ามหรือหลงลืมไปบ้าง เพราะเราเห็นแต่ฉากหน้าที่เขาอยากให้เราเห็น หรือสิ่งที่เราอยากเห็น เราได้เห็นแต่เขาเป็นหมอ-เป็นนักการเมืองที่เก่ง เราจึงคาดหวังหรือสตาฟเขาไว้ ให้เป็นคนเก่ง…ให้เป็นความหวัง…ของสังคมทุกครั้งทุกเวลา… จนลืมคิดไปว่า ทุกคนล้วนแต่มีมากกว่าหนึ่งด้าน หรือด้านที่ไม่อยากให้ใครรู้ใครเห็น
โดยสรุป The Road Within อาจจะไม่ใช่หนังสำหรับทุกคน แต่ก็เป็นหนังที่ทุกคนดูได้ดูดี ดูแล้วมีความสุขเบาๆ เพราะโดยรวมมันเป็นหนังที่ฟีลกู้ด ตลกน่ารัก นักแสดงนำเล่นดี ภาพสวยงาม มีฉาก Yosemite National Park และ California coast สวยๆ มากระตุ้นต่อมให้เราอยากออกไปผจญโลก หนังทำให้เราเข้าใจคนมากขึ้น โดยเฉพาะคนชายขอบ ถึงแม้จะถ่ายทอดออกมาไม่พีคเท่าเรื่อง X+Y แต่เรื่อง The Road Within ก็ทำได้ดีงามตามท้องเรื่อง
แต่ข้อควรจำคือ อย่าไปโฟกัสที่การผจญภัยมากนัก เพราะนี่ไม่ใช่หนังจุดประกายฝัน และไม่ได้เป็นหนังตื่นเต้น Aventure ตามชื่อหนังภาษาไทย (“ออกไปซ่าส์ให้สุดโลก”) ถ้าจะดูหนังเรื่องนี้ให้แฮปปี้และได้อะไรมากที่สุด ควรโฟกัสที่ตัวละคร จิตวิทยาขั้นพื้นฐาน (แต่ไม่ต้องลงลึก) และเน้นความเข้าใจมนุษย์… การยอมรับในตัวเอง… และยอมรับคนรอบข้าง
คะแนนตามความชอบส่วนตัว 8/10
ป.ล. หนังได้ ‘รางวัลขวัญใจคนดู’ (Audience Award) สาขา ภาพยนตร์อิสระอเมริกันขนาดยาว (American Independent Feature-Length Film) จากเทศกาล ‘Champs-Elysées Film Festival’ ประจำปี 2015 จากปารีสด้วยนะจะบอกให้
เข้าฉาย 30 ก.ค. นี้ ในโรงภาพยนตร์ (ไปไฟต์กับ MI5 นะลูกนะ LOL)
45 comments