Zombieland: Double Tap ออกมาห่างจากภาคแรกถึง 10 ปี โดยในภาคนี้ตัวละครหลักทั้งสี่ตัวกลับมากันครบ: Tallahassee (Woody Harrelson), Columbus (Jesse Eisenberg), Wichita (Emma Stone), และน้องเล็ก Little Rock (Abigail Breslin) ซึ่งตอนนี้โตเป็นสาวแล้ว
ทั้งสี่ยึดทำเนียบขาวเป็นที่ตั้งมั่นของครอบครัว แต่แล้ววันหนึ่ง Little Rock ก็โบยบินออกจากรัง เพราะอยากมีเพื่อนมีฝูงวัยเดียวกันและเบื่อที่ Tallahassee ชอบทำตัวเหมือนเป็นพ่อมากเกินไป ส่วน Wichita ก็ไปกับน้องสาวในไส้ของเธอเช่นกันหลังจากถูก Columbus ขอแต่งงาน
ระหว่างที่แยกกัน Columbus ก็ได้เจอกับ Madison (Zoey Deutch) หญิงสาวสวยผมบลอนด์ และ Little Rock ก็ได้พบกับ Berkeley (Avan Jogia) หนุ่มนักดนตรีฮิปปี้ ซึ่งต่อมา Little Rock ก็แยกไปกับ Berkeley เพื่อหาสถานที่สุขสงบปราศจากซอมบี้ ทำให้ทุกคนต้องออกเดินทางจากที่กบดานเพื่อไปตามหา Little Rock กลับมา และระหว่างทริป พวกเขาก็ได้พบกับ Nevada (Rosario Dawson) สาวใหญ่ผู้ดูแลโรงแรมข้างทาง
เรารู้สึกว่า ระหว่าง 10 ปีที่ห่างหายไปนี้ เหล่านักแสดงนำแต่ละคนก็ไปโลดแล่น เติบโต และกลับมาพร้อมกับบารมีที่เพิ่มขึ้น เช่น Woody Harrelson ที่ได้เข้าชิงออสการ์จาก Three Billboards Outside Ebbing, Missouri, Jesse Eisenberg ก็ได้เข้าชิงออสการ์จาก The Social Network, Emma Stone เข้าชิงออสการ์รัว ๆ สามตัวปีเว้นปีตั้งแต่ปี 2014 – 2018 และชนะออสการ์นำหญิงจากเรื่อง La La Land แต่อะไร ๆ ในหนังแทบไม่ต่างจาก 10 ปีที่แล้วเลย เหมือนเพิ่งผ่านไปแค่ 10 เดือน 10 วัน
ตัวละครมีการแบ่งซอมบี้เป็น 4 ประเภท รวมถึงประเภทที่มีวิวัฒนาการล่าสุด ตัวเอกของเราตั้งชื่อว่า T-800s ตามชื่อคนเหล็ก Terminator ซึ่งอึด ถึก ตายยาก และไม่ลดละจากมิชชั่น แต่หนังไม่ได้ขยี้อะไรเกี่ยวกับซอมบี้แต่ละประเภทมากนัก ซอมบี้ตัวเมพสุดก็ไม่ได้โหดจริงจังเท่าคนเหล็ก Terminator และซีนไคลแม็กซ์ในองก์สุดท้ายก็ไม่ได้แอ็คชั่นจริงจัง (สนามรบอยู่ในเขตปลอดอาวุธแห่งดินแดนรักสงบ) แต่ก็เป็นที่เข้าใจได้ เพราะ Zombieland ไม่ใช่หนังที่โฟกัสที่ซอมบี้เหมือนหนังซอมบี้ดัง ๆ หลาย ๆ เรื่องทั่วไป
ศูนย์กลางแห่งความสำคัญและความสนุกของเรื่องราวใน Zombieland ไม่ใช่ซอมบี้ หากแต่เป็นไดอะล็อก ความสัมพันธ์และคาแรกเตอร์ของตัวละครหลักทั้งสี่ ซึ่งแต่ละคนดูมีอินเนอร์ มีเสน่ห์ และมีพลังของตัวเองกันอย่างล้นเหลือ แม้แต่ตัวละครใหม่อย่าง Zoey Deutch ก็ไม่ดร็อปเลยเมื่อมาเข้าฉากกับพวกเขาเหล่านี้
ตรงกันข้าม Zoey Deutch นางเกิดและขโมยซีนได้ทุกซีน เป็นตัวละครที่เหมือนจะน่ารำคาญเมื่อแรกเห็น (ด้วยความสเตอรีโอไทป์สาวสวยผมบลอนด์ที่มักจะดูง่าว ๆ ในมีเดียต่าง ๆ มานานนม) แต่สุดท้ายเราจะหลงรักนางและปรบมือให้นาง เพราะสมองนางไม่ได้โง่อย่างที่เราตัดสินในตอนแรก และด้วยความสามารถทางการแสดงของ Zoey Deutch นั่นเอง
หนังไม่ได้มีบทที่ดีหรือมีพัฒนาการเท่าไหร่ สิ่งที่หยิบมาเป็นประเด็นในหนังภาคนี้ก็ไม่ได้ใหม่อะไร เราเห็นมาจากหนังหลายเรื่องในช่วงนี้แล้ว นั่นก็คือ ” บ้านไม่ใช่สถานที่ แต่เป็นผู้คน” หรือเราจะหา “บ้านถาวร” ได้ที่ไหนอย่างไร คำตอบนั้นก็เป็นอะไรที่เรา ๆ ก็รู้ ๆ กันอยู่แล้ว
นอกจากนี้หนังก็ไม่ค่อยเล่าเรื่องต่อขยายมากมายจากภาคแรก หลายอย่างยังย่ำอยู่กับที่และเอาของเก่ามาเล่าอีกแบบย้ำ ๆ เช่น กฎนัมเบอร์ต่าง ๆ ของ Columbus ซึ่งปัจจุบันปาเป็นร้อยข้อแล้ว (ถ้าใครเคยดูภาคแรกมาก่อน จะนึกออก เช่น ข้อแรกคือต้องหมั่นคาร์ดิโอ จะได้ไม่อ้วน จนถูกซอมบี้วิ่งไล่ทัน หรือกฎสักข้อหนึ่งในข้อต้น ๆ คือ Double Tap หรือยิงซ้ำให้ชัวร์ว่าซอมบี้ตายแล้ว) และก็มีการเอาพอยต์ต่าง ๆ ในภาคแรกมาคุยต่อ ในฐานะคนดูภาคแรกมาแล้ว แต่เราคิดว่ายิงมุกย้ำ ๆ หรือดับเบิ้ลแท็บ แบบนี้ มันก็ใช้ได้นะ
ถึงแม้ Zombieland: Double Tap จะไม่ได้ขยายต่อยอดเส้นเรื่องอะไรมากมายและไม่ได้มีอะไรใหม่ ๆ มาให้ชมมากนัก นอกจากตัวละครใหม่ ๆ และสถานที่ใหม่ ๆ แต่การยิงซ้ำ (Double Tap ตามชื่อภาค) เรื่องเดิม ๆ กับนักแสดงนำชุดเดิม ๆ ไม่ใช่เรื่องแย่ เพราะมันยังมีความสนุกเพลิดเพลินอยู่ เราเชื่อว่า ถ้าใครรักตัวละครเหล่านี้อยู่แล้ว มาดูภาคนี้ยังไงก็ยังรัก โดยรวมเป็นหนังที่ดูฆ่าเวลาเอาบันเทิงได้อยู่ แต่แค่ไม่ปังหรือมีความสดใหม่อย่างภาคแรกอีกต่อไป
คะแนนตามความชอบส่วนตัว 7.5/10
ป.ล. ฉากมิดเครดิต ต้องดู โดยเฉพาะคนที่เคยดูภาคแรก
108 comments
Comments are closed.