ก่อนหน้านี้ไม่นานไปดู Zoolander No.2 มาแล้วไม่ค่อยแนะนำใครให้ไปดูต่อ แต่ล่าสุดไปดู Zootopia (รอบ Sneak Preview) การ์ตูนแอนิเมชั่นเรื่องล่าสุดของดิสนีย์ (และทีมผู้สร้าง Frozen & Big Hero 6) มาแล้วอยากจะรีบออกมาบอกต่อให้ไปดูแบบรัวๆ
เรื่องย่อ Zootopia
กระต่ายน้อย Judy Hopps ที่เกิดมาในครอบครัวเกษตรกรชาวฟาร์ม มีความฝันอันยิ่งใหญ่แต่เด็กว่าอยากเป็นตำรวจเพื่อ “make the world a better place,” ทั้งที่สังคมไม่เห็นด้วย เธอเข้าโรงเรียนเตรียมตำรวจ เรียนจบด้วยคะแนนอันดับหนึ่ง และถูก Mayor Lionheart ส่งไปประจำที่เมืองหลวง Zootopia
Chief Bogo มอบหมายให้เธอเป็นตำรวจจราจร แทนที่จะทำงานใหญ่ๆ อย่างเช่นตามหาสัตว์ 14 ตัวที่หายไป แต่วันหนึ่งเธอจับพลัดจับผลูได้รับคำสั่งให้ตามหา Mr. Otterton ภายใน 48 ช.ม. โดยมีสุนัขจิ้งจอกจอมเจ้าเล่ห์ Nick Wilde เป็นคู่หู
รีวิว วิเคราะห์ วิจารณ์ Zootopia
Zootopia เป็นหนังการ์ตูนที่เนื้อหาดีมากกกกก สังคมสัตว์ในหนังมันสะท้อนสังคมมนุษย์ แล้วหนังยังมีข้อคิดที่เหมาะทั้งสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ แถมสิงสาราสัตว์ทั้งหลายยังน่ารักน่าเอ็นดูอีกด้วย สนุกเลยแหละ อาจไม่หวือหวาเท่า Big Hero 6 แต่โดยภาพรวม เค้าออกแบบโลกของสัตว์ได้สร้างสรรค์สุดๆ
โลก Zootopia เสมือนโลกดิสโธเปียของอเมริกา โดยเฉพาะนิวยอร์กซิตี้ (หรือไม่ก็ลอนดอนของฝั่งอังกฤษไปเลย) ซึ่งเป็น land of opportunities ที่ Anyone can be anything! และมีคนมากมายหลากหลายเชื้อชาติอาศัยอยู่ร่วมกัน โดยในหนังจะเป็นในลักษณะของสัตว์หลายสปีชีส์มาอยู่รวมกันแทน

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ปากจะบอกว่าที่นี่ Anyone can be anything! แต่สุดท้ายมันก็มีข้อจำกัดอยู่ดี เพราะคนหรือสัตว์ในสังคมยังคงติดอยู่กับ stereotype เดิมๆ เช่น สัตว์ตัวใหญ่ๆ เช่น ควาย เท่านั้นถึงจะเป็นตำรวจได้ ส่วนกระต่ายก็ต้องทำฟาร์มแครอท หรือสุนัขจิ้งจอกจะต้องเจ้าเล่ห์เพทุบายชนิดคบหาไม่ได้
ซึ่ง stereotyping ข้างต้นนั้นเป็นประเด็นที่สำคัญมากนะ ไม่ใช่แค่ในด้าน gender หากแต่รวมถึงด้าน racial และเคสทั่วๆ ไปด้วยนี่แหละ เพราะการที่สังคมนั้นๆ ยังมี stereotyping อยู่ มันทำให้คนคนนึงถูกสังคมโลกกำหนดสิ่งที่เขาจะเป็นจะทำ แทนที่เขาจะได้เป็นคนกำหนดตัวของเขาเอง
ในหนัง Zootopia นี้ เขาเน้นที่ประเด็น racial differences โดยสัตว์นานาสปีชีส์ในเรื่อง จะแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ ผู้ล่า กับผู้ถูกล่า (predators & preys) ซึ่งผู้ล่าจะมีจำนวนประมาณ 10% ของจำนวนประชากร
แต่ถึงแม้ปัจจุบันจะ civilized หรือมีวิวัฒนาการกันหมดแล้ว ทั้งในแง่ภาษา การแต่งกาย และการใช้เทคโนโลยีต่างๆ แต่โดยชีวภาพหรือ DNA แล้ว ผู้ล่า เช่น เสือ หมาป่า ก็จะเป็นสัตว์จำพวกดุร้าย เมื่อหลายพันปีก่อนก็จะอารมณ์เดียวกับคนป่ากินคนยังไงยังงั้น
เรามีความรู้สึกว่า สัตว์จำพวก predator ในหนังเขาเปรียบเสมือน minorities เช่น คนผิวสี คนแอฟริกัน หรือมุสลิม ฯลฯ ซึ่งพอคนเกิด fear หรือ hatred ขึ้นกับคนกลุ่มน้อยเหล่านี้ ก็จะเกิด discrimination เช่น มุสลิมต้องตกงาน เพราะคนเหมารวมว่ามุสลิมทุกคนจะหัวรุนแรงอย่างพวกผู้ก่อการร้าย ISIS กัน
ในมุมมองของเรา เรามองว่าความเท่าเทียมและความสงบสุขในสังคมจะเกิดขึ้นได้อย่างแท้จริง มันต้องไม่ใช่แก้กันแค่ คำขวัญ อุดมการณ์ หรือกฎหมาย หากแต่ต้องเริ่มต้นที่การปรับทัศนคติของคนในสังคมให้เลิกเหมารวม ตัดสินคนจากสิ่งที่เขาเป็น และยอมรับความแตกต่างซึ่งกันและกัน เพราะสุดท้ายแล้วไม่ว่าจะแตกต่างกันสักแค่ไหน เราก็มีความเหมือนกันมากกว่าแตกต่างกัน
และ Zootopia เป็นสื่อหนึ่งที่จะเป็นประโยชน์ในการปลูกฝังทัศนคติและค่านิยมนั้นใหม่ให้กับพวกเรา นอกจากนี้ยังมีประเด็นล้อสังคมอีกมากมาย เช่น การควบคุมจำนวนประชากรได้ยากของคนชนบท หรือการทำงานขององค์กรภาครัฐต่างๆ เป็นต้น
เออ เนื้อหาดีจริง น่ารักจริง สนุกจริง ไปดู
Zootopia เข้าฉาย 25 ก.พ. 2016 นี้ (แต่มีรอบ Sneak Preview เสาร์ที่ 20 – พุธที่ 24 ก.พ. รอบ 14.00 – 17.00 น. ในบางโรงภาพยนตร์) คะแนนตามความชอบส่วนตัว 8.5/10
READ MORE: http://movies.disney.com/zootopia
44 comments
ตัวอย่างน่ารักมาก พอดูรีวิวของคุณยิ่งอยากดูค่ะ
ชอบรีวิวพี่ขวัญ(ขอเรียกพี่นะคะ) ตลอดเลยค่ะ รีวิวได้ตรงใจเราบ่อยเลย ใช้ภาษาดีด้วย ชอบค่ะ?
ควรรับมือกับคำวิจารณ์แบบน่ารักไม่ aggressive จะดีกว่านี้นะคะ