ในปี 2020 ที่โลกกำลังเผชิญกับ COVID-19 ทำให้ผู้คนต้อง social distancing และ work from home จนชนชั้นกลางบางคนเริ่มเบื่อ เหงา หมดแพสชั่น ละทิ้งความฝัน ขาดความแรงบันดาลใจ และไม่รู้ว่าวันนี้ฉันจะทำอะไรดี… หนึ่งในชอยส์แก้เบื่อ แก้เหงา แก้ปัญหาไม่มีอะไรทำ ณ ตอนนี้คือการดูหนัง หรือการเปิดหาหนังดูบน Netflix ซึ่งต่อมา… ทำให้เราได้รู้จักกับ Julie & Julia
หนัง JULIE & JULIA เกี่ยวกับอะไร?
Julie & Julia เป็นหนังปี 2009 เขียนบทและกำกับโดย Nora Ephron (จาก You’ve Got Mail) ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องจริงของ influencers สาย foodie & cooking สองคน ได้แก่ Julie Powell (เกิดปี 1973) และ Julia Child (มีชีวิตอยู่ระหว่างปี 1912-2004)
หนังเล่าตัดสลับไปมาระหว่างยุคของ Julie (ปี 2002 ซึ่งเป็นปีหลังจากเหตุการณ์ 9/11) ที่นิวยอร์ก และยุคของ Julia (เริ่มปี 1949 ซึ่งเป็นช่วงหลัง WWII) ที่ปารีส ซึ่งแตกต่างกันกว่าครึ่งทศวรรษ ทำให้เห็นความ contrast อย่างชัดเจนว่า พื้นเพของผู้หญิงทั้งสองคนนี้ มีความแตกต่างกันมาก ทั้งสถานะทางสังคม บริบททางวัฒนธรรมต่างพื้นที่ และเทคโนโลยีการสื่อสารตามสมัย เพียงแต่มีแพสชั่นกับการทำอาหารมากเหมือนกัน
Julia Child (Meryl Streep จาก The Devil Wears Prada, The Iron Lady ฯลฯ) เป็นหญิงอเมริกันชนชั้นกลาง (ค่อนไปทางสูง) ที่ติดตามสามีของเธอ Paul Child (Stanley Tucci จาก The Hunger Games, The Devil Wears Prada ฯลฯ) ซึ่งเป็นท่านทูต ไปประจำที่กรุงปารีส (ณ ปี 1949) เธอใช้เวลาว่างในการเข้าคอร์สเรียนทำอาหารราคาแพงหูฉี่ที่ Le Cordon Bleu ต่อมาเธอได้ออกตำราทำอาหารฝรั่งเศส Mastering the Art of French Cooking ซึ่งใช้เวลาเป็นทศวรรษกว่าจะมีสนพ.ยอมตีพิมพ์ นอกจากนี้เธอยังต่อยอดความสำเร็จโดยการทำรายการทีวี The French Chef เรียกว่าเธอเป็นหนึ่งในยุคบุกเบิกของวงการ influencers หรือ net idols เลยก็ว่าได้
ส่วน Julie Powell (Amy Adams จาก Enchanted, Arrival ฯลฯ) ในทางกลับกัน เป็นหญิงชนชั้นกลางวัยย่าง 30 ปี (ณ ปี 2002) อาศัยอยู่ในย่านควีนส์กับสามีของเธอ Eric Powell (Chris Messina จาก Argo) ซึ่งเป็นบรรณาธิการนิตยสารแห่งหนึ่งในนิวยอร์ก เธอใฝ่ฝันอยากเป็นนักเขียน แต่ในความเป็นจริง เธอกำลังเฉาตายกับงานประจำหรืออาชีพ call center ในขณะที่เพื่อนร่วมรุ่นสมัยเรียนของเธอล้วนกำลังไปได้ดีกับหน้าที่การงานและความมั่นคงในชีวิต สามีจึงแนะนำว่าให้เธอเขียนบล็อก เธอจึงตั้งเป้าหมายว่า เธอจะทำอาหารและทำบล็อก 524 เมนู จากหนังสือ Mastering the Art of French Cooking ความยาว 734 หน้าของ Julia Child ไอดอลและเพื่อนในจินตนาการของเธอ ภายใน 365 วัน (โดยที่เธอยังคงทำงานประจำไปด้วย) ซึ่งต่อมา ในปี 2005 บล็อกของเธอได้ตีพิมพ์เป็นหนังสือจริง ๆ ชื่อ Julie and Julia: My Year of Cooking Dangerously
เราได้อะไรจากหนัง JULIE & JULIA?
- โดยเฉพาะช่วงวิกฤติหรือจุดเปลี่ยน คนเราจะรู้สึกห่อเหี่ยวหรือสับสนได้ง่ายมาก ถ้าหากเรารู้สึกว่างเปล่าหรือเบื่อหน่ายกับชีวิต ให้ลองหา INSPIRATIONS และตั้ง CHALLENG/GOALS ให้ตัวเอง
- เริ่มต้นจาก TO DO WHAT YOU LOVE เช่น งานอดิเรก หรือสิ่งที่เราชอบ/สนใจ อย่างจริงจังมากขึ้น
- ทุกคนเขียนบล็อกได้ เพราะแต่ละคนล้วนมีความคิดความอ่านและสตอรี่ของใครของมัน (เช่น ตอนนี้หลายคนที่กำลังผันตัวเป็นเชฟในช่วง quarantine ก็สามารถทำบล็อกเกี่ยวกับเมนู home-cooking ของตัวเองได้ แต่ละบ้านแต่ละคนแต่ละวันมันทำไม่เหมือนกันอยู่แล้ว)
- เป้าหมายต้องละเอียด มี DEADLINES ที่ชัดเจนและชี้วัดได้จริง เช่น อัพบล็อกวันละ 1 บทความ แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นไปได้และความพอดี อย่าให้มันกระทบหรือบั่นทอนพาร์ทอื่นในชีวิต (เช่น การงาน หรือครอบครัว) จนเกิดความเครียด ความกดดัน หรือความเสียหายต่อตัวเองและคนรอบข้าง
- การไม่เป็นไปตามเป้าหมายเพียงไม่กี่ครั้ง การถูกคนตำหนิหรือดูถูก มันไม่ได้แปลว่าเราล้มเหลวหรือไม่ประสบความสำเร็จ อย่าท้อกับ negative comments or results จงทำซ้ำ ทำต่อไป พยายามให้มากขึ้น และทำให้สำเร็จ
- แรงสนับสนุนก็สำคัญ หากเห็นใครกำลังทำอะไรเพื่อความฝันหรือเป้าหมายของเขาอยู่ ไม่ว่าเราจะเป็นครอบครัว เพื่อน คนรัก หรือคนนอกก็ตาม เราต้องให้กำลังใจเขา ซัพพอร์ตเขา และเข้าใจเขา
- การลงทุนกับตัวเอง เช่น หาความรู้หรือเพิ่มพูนทักษะในสิ่งที่ความชอบ สิ่งที่สนใจ หรือเดินตามความฝัน ไม่มีคำว่าแพง ไม่มีคำว่าขาดทุน อย่างน้อยเราจะมีความสุขเป็นกำไรชีวิต
- ในยุคนี้ เรามีเทคโนโลยีหลายอย่าง โดยเฉพาะ INTERNET ที่เกื้อหนุนต่อการทำคอนเทนต์กว่าสมัยของ Julia (หรือแม้กระทั่งสมัยของ Julie ด้วย) อย่างมาก ดังนั้น มันไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่เราจะไม่พยายาม
- ทุกวันนี้เราทุกคนสามารถเป็นนักเขียนได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องมีคนอ่าน และไม่จำเป็นต้องรอสนพ.มาตีพิมพ์ ทุกความสำเร็จเริ่มจากจุดเล็ก ๆ ถ้าเราเริ่มต้นลงมือทำตั้งแต่วันนี้ และตั้งใจทำอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง วันนึงเราจะมีคนติดตาม หรือแม้กระทั่งมีสนพ.มาขอตีพิมพ์เองก็ได้
- มันไม่สำคัญว่า มันจะต้องดีเลิศเลอเพอร์เฟ็กต์ มันไม่สำคัญว่า เราจะมีคนเห็นหรือคนติดตามเยอะ เพราะสิ่งที่เราทำ สิ่งที่เราเขียน มันอาจจะเปลี่ยนชีวิตของคนคนนึงหรือเปลี่ยนโลกทั้งใบเลยก็ได้
เช่นเดียวกับหนัง Julie & Julia ที่ไม่ได้ดีมากมาย แต่ก็ดีพอที่จะจุดประกายความฝัน แพสชั่น และแรงบันดาลใจให้กับคนดูคนหนึ่งอย่างเรา… ให้เขียนบล็อกนี้ส่งต่อความรู้สึกกับผู้อ่าน… ให้ลุกขึ้นมาทำอะไรที่เราควรทำมาตั้งนานแล้ว
Someone is going to publish your book. Someone is going to read your book, and realize what you’ve done. Because YOUR BOOK is amazing. YOUR BOOK is a work of genius. YOUR BOOK is going to change the world.
28 comments
Comments are closed.