สำหรับเรา 47 Metres Down (2017) ที่ Mandy Moore เล่น ก็ไม่ได้สนุกหรือประสบความสำเร็จมากมาย แต่สองปีต่อมา (คือปีนี้… 2019) เค้าก็ยังอุตส่าห์มีภาคสองมาได้ ในชื่อ 47 Meters Down: Uncaged
ตามชื่อหนังเลย ภาคนี้นางเอกไม่ได้อยู่ในกรงแล้วมีฉลามว่ายเวียนวนแถวรอบ ๆ กรงเหมือนภาคก่อน แต่นางเอกก็ไม่ใช่ Mandy Moore แล้วด้วยเช่นกัน พูดอีกแง่คือ นี่ไม่ใช่หนังภาคต่อกับภาคแรก ตัวละครก็ใหม่ยกเซต เหมือนเอาหนังมาทำใหม่ในชื่อเดิม (เปลี่ยนนิดหน่อย) และทุนสร้างหนาขึ้น
ตัวละครหลักที่ลงไปติดในน้ำคราวนี้เป็น 4 สาวไฮสคูลมีนเกิร์ลแก๊ง ได้แก่ Mia (Sophie Nélisse จาก The Book Thief), Sasha (Corinne Foxx ลูกสาว Jamie Foxx), Alexa (Brianne Tju จาก Light as a Feather), และ Nicole (Sistine Rose Stallone ลูกสาว Sylvester Stallone) ไปดำน้ำเล่นและติดอยู่ในถ้ำโบราณและศักดิ์สิทธิ์ของชาวมายา ซึ่งปัจจุบันเป็นที่พักอาศัยของฉลามขาวยักษ์
ในส่วนของพล็อตก็ไม่มีอะไร ตามสไตล์หนังแนวนี้ในสมัยนี้ ไม่ว่าจะหนังฉลาม หรือกระทั่งหนังจระเข้ Crawl ที่เพิ่งดูไปไม่กี่อาทิตย์ก่อน ใดใดล้วนบทกลวง และตัวประกอบก็จะโคตรตัวประกอบเลย
แต่เอาจริง หนังแนวนี้มันก็ไม่ได้จำเป็นต้องพึ่งพาบทที่ดีเด่อะไร ถ้าทำฉาก survival ได้ตื่นเต้นลุ้นระทึกหรือสนุกถึงใจคนดู คนดูก็พร้อมจะรักหนังเรื่องนี้ อย่างเช่น Crawl ที่เราก็คิดว่า พล็อตก็แทบไม่มีอะไรเลย แค่นางเอกไปช่วยพ่อที่ติดอยู่ในบ้านที่พายุจะเข้าและน้ำจะท่วมจนไปป๊ะกับฝูงจระเข้ผู้หิวโหย แต่ Crawl เค้าทำออกมาสนุกมาก
ในทางตรงกันข้าม 47 Metres Down: Uncaged นี่ไม่ได้ทำออกมาน่าเอาใจช่วยหรือชวนลุ้นระทึกอะไรขนาดนั้น อาจจะเพราะคาแรกเตอร์ของสาว ๆ ที่วอนหาที่ตายเองนั่นก็ด้วย พอมันจะตายจริง ๆ เราก็รู้สึกสมน้ำหน้ากับมันซะอีกนั่น ในขณะที่พ่อลูกในเรื่อง Crawl ดูน่าเอาใจช่วยกว่าเยอะ
แต่อย่างไรก็ดี 47 Metres Down: Uncaged มีอย่างนึงที่เหมือน ๆ กับ Crawl นั่นก็คือ ฉลามนี่อีช่างหิวจัง เห็นคนเป็นงาบ ๆ จะแดกลูกเดียว สงสัยจริงว่า ปลาแถวนั้นกับอาหารที่เรือนักท่องเที่ยวมาเทให้มันน้อยจนอดอยากปานนั้นเลยหรือไง
หนังมีทุนที่เยอะขึ้นอย่างชัดเจน เนรมิตโลกใต้น้ำและฉลามขาวได้เนียนสมจริง แต่เค้าดูพยายามเล่นใหญ่มากเกินไป เช่น การใส่อุปสรรคให้นักดำน้ำ การพยายามผูกกับตำนานของชาวมายา ฯลฯ ข้อดีคือมันก็ดูมีอะไรให้คนดูได้ดูมากกว่าภาคแรก แต่กลับกลายเป็นว่าเราชอบความเรียบง่ายทุนน้อยของภาคแรกมากกว่า เพราะในภาคนี้ หลายอย่างมันไม่ค่อยน่าเชื่อ ขาดความสมเหตุสมผล และดูเกินจริงอย่างมิอาจมองข้ามได้
หนังใช้เวลาในการปูเรื่องบนบกพอสมควรแต่ไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์อย่างจริงจัง อย่างปมพี่น้องสองสาว รวมถึง bullying ในโรงเรียน ซึ่งเป็นพล็อตรีเมคที่เชยแล้วอะนะ หนังภาคนี้ก็ใส่มาต้นเรื่องอย่างเบาบาง ก่อนจะดิ่งลงเหวหายไปกับสายน้ำ คือประเด็นความเป็นพี่น้องอ่อนมาก แทบจับต้องไม่ได้ และแทบมองไม่เห็น
และเช่นเดิมกับภาคแรก หนังยังให้ความรู้เรื่องการเอาตัวรอดใต้น้ำเล็กน้อย ก็มีทั้งที่ซ้ำและไม่ซ้ำจากภาคแรก ซึ่งเราก็มองว่า มันก็ดี อันนี้โอเค นอกจากนี้ ช่วง 10-15 นาทีสุดท้าย ก็เช่นเดิมกับภาคแรก พยายามจบอย่างมีอะไร ซึ่งก็บันเทิงดี แต่ก็รู้สึกว่ามันตลกมากกว่าน่ากลัวหรือน่าลุ้นไปแล้ว
เอาจริงก็ หนังมีหลายจังหวะที่ตลก แต่ก็โอเค คิดซะว่ามาดูขำ ๆ เพลิน ๆ แต่ก็ไม่ชอบที่หนังใช้สโลว์โมชั่นบ่อยเกินความจำเป็น เช่น บางฉาก เราควรรู้สึกกับตัวละครอีกอย่าง แต่เรากลับเป็นรู้สึกตลกกับโชคชะตาของเค้าซะอย่างนั้น นอกจากนี้ เกลียดความตุ้งแช่ (jump scare) ที่ค่อนข้างใช้บ่อยเหมือนกัน ทำให้หนังดู cheap ไปเลย
โดยรวม ถ้าเป็นคนที่ชอบดูหนังแนวนี้อยู่แล้ว ก็ไปดูได้เพลิน ๆ มันก็มีความสนุกในตัวของมันเองอยู่ แต่ถ้าไม่ดู ก็ไม่ได้พลาดอะไรไป
คะแนนตามความชอบส่วนตัว 6.5/10
40 comments
Comments are closed.