รีวิว Blackhat: จุดดับของเทพเจ้าธอร์

BLACKHAT เป็นหนังเกี่ยวกับ hacker หรือ cyberterrorism ซึ่งเข้าฉายช่วงที่หนังเรื่อง The Interview ของ Sony ถูกเกาหลีแฮ็คไปปล่อยพอดี อย่างไรก็ดี ถึงแม้หนังจะฉายในจังหวะที่เหมาะสม แต่ถ้าหนังมันไม่ใช่ ผลสรุปออกมามันก็ไม่ใช่อยู่ดี

เรื่องย่อ BLACKHAT

เรื่องของเรื่องเกิดจากวงการหุ้นปั่นป่วนเพราะมีอาชญากรออนไลน์แฮ็คข้อมูลจนตลาดหุ้นผันผวน อเมริกากับจีนร่วมมือกันตามล่าหาแฮ็คเกอร์คนนั้น นำโดย Chen Dawai (Leehom Wang) และ Barrett (Viola Davis)

Chen Dawai เชื่อว่าหนึ่งเดียวที่จะช่วยจับคนร้ายคดีนี้ได้ มีแต่ Nicholas Hathaway (Chris Hemsworth จาก Thor และ Rush) ซึ่งเป็นแฮ็คเกอร์ที่เก่งมากและเป็นรูมเมทของเขาสมัยเรียนอยู่ที่ MIT แต่อุปสรรคคือ Nick ถูกจำคุกข้อหาแฮ็คเกอร์อยู่ Nick จึงได้รับข้อเสนอแลกเปลี่ยนว่า ถ้าช่วยทางการสำเร็จ เขาก็จะได้รับการลดหย่อนผ่อนโทษ แล้วนอกจากนี้ ระหว่างปฏิบัติภารกิจ Nick กับ Chen Lien (Wei Tang) น้องสาวของ Chen Dawai ยังตกหลุมรักกันอีกด้วย

ชมคลิปตัวอย่างภาพยนตร์

รีวิว / วิจารณ์ BLACKHAT

ก่อนเข้าโรง เรามีความคาดหวังว่า BLACKHAT ต้องเต็มไปด้วยเนื้อหาที่เชือดเฉือนกันอย่างเข้มข้นและแยบยลโดยใช้คอมพิวเตอร์หรือเทคโนโลยีไอทีเป็นอาวุธ แต่ปรากฏว่า เป็นที่น่าผิดหวังนัก BLACKHAT เป็นเพียงหนังแอ็คชั่นเรื่องหนึ่ง ที่ยังวิ่งไล่จับและยิงกันบนท้องถนนเหมือนหนังบู๊ตลาดทั่วไป แต่แค่มีการใส่คอมพิวเตอร์หรือเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในเรื่องเยอะๆ (แต่ดูไปดูมา ไอทีมันก็ไม่ได้เยอะเด่นขนาดนั้น Mission Impossible ยังใช้เทคโนโลยีการเจาะข้อมูลเยอะกว่า BLACKHAT เสียอีก)

นอกจากนี้ คงต้องขอกล่าวถึงประเด็นที่หนังมี tie-in สินค้าเยอะแยะหลากยี่ห้ออีกสักหน่อย แน่นอนว่าเรื่องนี้มาเต็มตั้งแต่ Sony, Toshiba, Acer ฯลฯ ขาดก็แต่ Apple ที่มาแต่ iPhone แต่ไม่มีพวก Mac ทั้งนี้เพราะพวกแฮ็คเกอร์ทั่วไปเขาไม่นิยมใช้ Mac กัน เขาจะใช้แล็บท็อปทั่วไปแล้วมาลง os ที่คล้ายกับของ Mac นั่นก็คือ Linux แทน (ข้อมูลจากเพื่อนสนิทเราที่เป็นโปรแกรมเมอร์)

หนังป่วยถึงขั้นที่ว่าความหล่อของ Chris Hemsworth ก็ไม่ช่วยอะไร อีกอย่าง สำหรับเรื่องนี้ เขาก็ไม่ได้หล่อเด้งทะลุจอเท่าตอนเป็นเทพเจ้า Thor ด้วย พูดให้เห็นภาพคือ Chris Hemsworth จะมีเสน่ห์มากกว่าตอนที่เขาถือค้อนและยิ้มกว้างแบบปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล ส่วนฝีมือทางการแสดง เขาก็ยังไม่ได้แสดงเก่งพอที่จะแบกหนังได้ทั้งเรื่องหรือรับมือได้กับทุกบทบาท แต่ถ้าหากเขาได้รับบทที่เหมาะสม เช่นอย่างในเรื่อง Rush เขาก็แจ้งเกิดสวยๆ โดยสรุป ถ้าพูดตรงๆ ถึงเราจะชอบในความหล่อล่ำมีสำเนียงเขามากแค่ไหน เราก็คิดว่าเขาเหมาะจะเป็นพระเอกที่ใช้กำลังมากกว่าพระเอกที่ใช้สมอง

Chris Hemsworth เป็นนักแสดงที่ควรจะเป็นจุดแข็งและดึงคนดู แต่สำหรับบท Nicholas Hathaway นี้ มันไม่เหมาะกับเขาเอาเสียเลย ลุคของเขาเป็นคนที่ดู sexy และ strong มากก็จริง แต่เขาก็ยังไม่ได้มีลุคที่ smart หรือ geek พอที่จะเป็นแฮ็คเกอร์หรือโปรแกรมเมอร์สุด nerdy โดยภาพรวม เขาดูดีเวลาถือปืนวิ่งไปวิ่งมาหรือใช้ร่างกายอันกำบำของเขาโชว์พะบู๊ในฉากต่อยตีวิวาท แต่ก็ยังดู “out of place” สำหรับหนังเรื่องนี้อยู่ดี (อาจเป็นเพราะ 90% ของนักแสดงในเรื่องเป็นเอเชียด้วยก็ส่วนหนึ่ง) แล้วนอกจากบุคลิกของ Chris Hemsworth ที่ยากจะทำให้คนดูเชื่อว่าเขาเป็นเทพด้านไอทีแล้ว ตัวหนังเองก็ไม่ได้โชว์ให้คนดูเห็นความอัจฉริยภาพของเขาหน้าจอคอมพิวเตอร์เท่าที่ควรเลย

ความดีความงามเพียงสิ่งเดียวของ BLACKHAT คือหน้าตาของ Leehom Wang ที่หล่อแม้กระทั่งหน้านิ่งๆ และนางเอก Wei Tang ที่สวยหมวยเซ็กซี่และดูสมาร์ตสมบทบาทจริงๆ

โดยสรุป BLACKHAT เป็นหนังแฮคเกอร์ที่ไม่มีความเป็นแฮคเกอร์เอาเสียเลย ดำเนินเรื่องน่าเบื่อ ไม่มีอะไรน่าสนใจ แม้แต่ความหล่อของพระเอกพระรองก็ไม่ช่วยอะไร คะแนนตามความชอบส่วนตัวให้ 6/10