The Blair Witch Project (1999) ถือเป็นต้นแบบหนังสยองขวัญเรื่องแรก ๆ ที่ใช้การถ่ายแบบ found footage แล้วประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง เรื่องราวในภาคนั้นเป็นเรื่องราวของกลุ่มนักศึกษาสามคนที่ไปถ่ายทำสารคดีในป่าอาถรรพ์ใน Maryland แล้วไม่ได้กลับออกมาอีกเลย ส่วน Blair Witch เป็นภาคต่อที่ห่างจากภาคแรก 17 ปี เป็นเรื่องเกี่ยวกับน้องชายของนางเอกภาคแรกต้องการออกไปตามหาพี่สาวในป่าแห่งนั้น
เรื่องย่อ Blair Witch
James (James Allen McCune จาก The Walking Dead) เจอคลิปคลิปหนึ่งที่ Lane (Wes Robinson) กับแฟนสาว Talia (Valorie Curry) เอามาโพสต์และอ้างว่าเขาพบเทปนี้ในป่า Black Hills หรือป่า Blair ในคลิปเขาเห็นคนหน้าเหมือน Heather พี่สาวของเขาซึ่งหายไปในป่าแห่งนั้น เขากับเพื่อน ๆ ได้แก่ Lisa (Callie Hernandez), Peter (Brandon Scott), และ Ashley (Corbin Reid) จึงออกไปแคมป์ปิ้งกันที่ป่าแห่งนั้น
รีวิว วิเคราะห์ วิจารณ์ Blair Witch
เราไม่เคยดู The Blair Witch Project (1999) แต่เชื่อว่า Blair Witch (2016) คงมีกลิ่นอายของภาคแรกอยู่เยอะทีเดียว เพราะเห็นหลายคนบอกว่า “เคารพต้นฉบับ” ในขณะที่หลายคนก็บอกว่า “มีแต่มุกซ้ำ ๆ กับภาคแรก”
ไม่ว่าจะอย่างไร เราว่าเสน่ห์ของหนังมันคงต่างกัน ภาคแรกคงจะคลาสสิกกว่า เช่น กล้องที่ใช้อัดหรือถ่ายวิดีโอก็คงเป็นแบบเทปและใช้ถ่าน แต่ปัจจุบันเราใช้กล้องชาร์จแบตได้และใส่เมมโมรี่การ์ด ไหนจะมีเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่าง webcam, GPS, หรือกระทั่งโดรน
เท่าที่เข้าใจคือ หนังภาคก่อนรวมถึงหนังสยองขวัญหลาย ๆ เรื่องคงชอบใช้มุก jump scare ตุ้งแช่ ๆ กันจนเกร่อทั้งที่มันช่างไร้รสนิยม เพราะใน Blair Witch ภาคนี้ เขาก็เล่นมุกนี้อยู่ 2-3 ครั้งติดกัน แล้วให้นางเอกวีนว่า “Everyone, stop doing this!” (เออ เลิกเถอะ ลำไย)
เทคนิค found footage ใน Blair Witch ทำได้ดีมาก ไม่ใช่แค่ให้เรารู้สึกเหมือนเรื่องมันเกิดขึ้นจริง ๆ เท่านั้น แต่มันทำให้เรารู้สึกเหมือนตัวเรากำลังอยู่ในป่านั้น… อยู่ตรงนั้น…จริง ๆ และยังมีอารมณ์ร่วมกับตัวละครอย่างถึงจิตถึงใจ ตัวละครมองเห็นอะไร เราก็เห็นอย่างนั้น ตัวละครรู้แค่ไหน เราก็รู้แค่นั้น ซึ่งความน่ากลัวมันอยู่ที่… ส่วนใหญ่เราไม่รู้ ไม่เห็น และไม่เข้าใจกันยังไงล่ะว่ามันคืออะไร!
แต่การถ่ายแบบ found footage ในเรื่องนี้ไม่ปวดหัวเท่าไหร่นะ เพราะเราปิดตาเกือบทั้งเรื่อง T^T มันน่ากลัวมาก แม่มดมาหลอกมาหลอนไม่ให้เราหยุดพักเลย ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก หายใจไม่ทัน หัวใจจะวาย เครียดจริงจัง (ดีนะ หนังยาวแค่ชั่วโมงครึ่ง)
โดยเฉพาะช่วงสุดท้ายในบ้านผีสิงกลางป่านั้นพีคมาก ลุ้นจิกเบาะ!
โดยสรุป ในฐานะของคนที่ไม่เกิดดูภาคแรกมาก่อน เราดู Blair Witch ได้สนุก เราคาดหวังความน่ากลัวจากหนัง genre นี้ เราก็ได้ความน่ากลัวนั้นกลับมาอย่างจัดเต็มจัดหนักจริง ๆ ไม่ผิดหวังตรงจุดนี้ แต่ข้อติติงคือตัวละครน่ารำคาญ ตะโกนเรียกหากันอยู่นั่น อีกทั้งแรงจูงใจในการตามหาพี่สาวของ James และการมาถ่ายทำสารคดีของ Lisa ก็ยังไม่สตรองสักเท่าไหร่
แต่โดยภาพรวม โอเคเลย คะแนนตามความชอบส่วนตัวให้ 7.5/10
Blair Witch เข้าฉาย 22 กันยายน 2016 นี้ ในโรงภาพยนตร์
40 comments