สมัยเรายังเด็ก ๆ มีหนังฉลาม จระเข้ งูยักษ์ ฯลฯ ทั้งเกรด A เกรด B ให้ดูมากมาย และเราก็สนุกกับหนังเหล่านั้นซะด้วย แต่โตมา เราก็ไม่ค่อยอินกับหนังแนวนี้เท่าแต่ก่อนและหนังแนวนี้ก็มีให้ดูน้อยลงด้วยแหละ
ถึงกระนั้น มันก็ไม่ใช่ว่าหนังแนวนี้ในสมัยนี้จะย่ำแย่ หลายเรื่องก็ทำออกมาได้ดี ให้ความรู้สึกสดใหม่ และสนุกตื่นเต้นมาก เช่น อย่างไม่นานมานี้ ก็มีเรื่อง The Shallows ซึ่งเป็นหนังฉลาม และล่าสุดในปีนี้ ก็มีหนังจระเข้ Crawl ของ Alexandre Aja (ผู้กำกับ Horns และ Piranha 3D) ที่เราคิดว่า สนุกกว่า The Shallows และสนุกกว่าหนังทริลเลอร์หรือหนังแนว survivor หลาย ๆ เรื่องเหมือนกัน
Crawl มีตัวเอกคือ Haley Keller (Kaya Scodelario จาก The Maze Runner และ Pirates of the Caribbean) เด็กทุนนักกีฬาว่ายน้ำ กับพ่อของเธอ Dave (Barry Pepper จาก 61*) ที่ติดอยู่ในบ้านช่วงที่เฮอริเคนระดับ 5 กำลังโจมตีฟลอริด้า ทำให้พายุโหมกระหน่ำ ฝนตก น้ำท่วมหนัก และเคราะห์ซ้ำกรรมซ้อน สองพ่อลูกต้องเผชิญกับจระเข้ขนาดใหญ่ที่หลุดมาจากฟาร์มและเข้ามาในบ้านของเธอซึ่งอยู่ติดกับทะเลสาบ
จะว่าไป พล็อตก็มีความคล้าย หรืออย่างน้อยก็ทำให้นึกถึงหนังไทยเรื่อง The Pool: นรกหกเมตร ซึ่งโปรดักชั่นเรื่องนั้นก็ดีเกินมาตรฐานหนังไทยอยู่แหละ แต่บทยังด้อยพัฒนาอยู่ และยิ่งมาเจอ Crawl ก็ยิ่งทำให้ The Pool: นรกหกเมตร กลายเป็นหนังอ่อนด้อยไปเลยทั้งในด้านโปรดักชั่นและตัวบท (แต่ด้านโปรดักชั่น เราจะไม่เอามาเทียบกันละกัน)
ที่ชัดเจนที่สุดคือ ตัวละคร เรื่องราว และอุปสรรคล้านแปดใน Crawl มีความสมจริง สมเหตุสมผล น่าเชื่อ น่าลุ้น และน่าให้กำลังใจกว่า The Pool มากนัก อันนี้พูดเฉพาะในเชิงบริบทหรือสถานการณ์ ไม่เอาเรื่อง CGI มานับแต่อย่างใด
Kaya Scodelario เป็นนางเอกสายสตรองที่น่าเชื่อ ดูแล้วเห็นความเป็น fighter ทั้งในตัว Kaya และตัว Haley โดยหนังได้ปูเรื่องช่วง 5-10 นาทีแรก ให้เรารู้สึกอยากติดตามและเอาใจช่วยเธอมาแต่ต้น ประกอบกับได้เห็นสกิลในการว่ายน้ำและความไม่ยอมแพ้อะไรง่าย ๆ (หรือความดื้อ) ของเธอ และหนังก็ทำให้เห็นชัดเจนว่าพ่อลูกคู่นี้มีความเป็น fighter รวมถึงมีสัญชาตญาณและสกิลการเอาตัวรอดสูงกันทั้งคู่
หนังมีความยาวเพียงแค่หนึ่งชั่วโมงครึ่ง ดำเนินเรื่องอย่างรวดเร็ว ไม่ยืดเยื้ออืดอาด และแทบไม่มีช่วงให้พักหายใจหายคอ โลเกชั่นก็มีแค่ในบ้านนะ แต่อุปสรรค-ภัยอันตรายก็อีช่างถาโถมจัง ซวยซ้ำซวยซ้อน จนนี่เหนื่อยแทนนางเอกกับพ่อนางเอก แต่ข้อดีคือมันสมจริงและดูไม่ยัดเยียดแบบหนังไทยเลยแม้แต่น้อย
ดังนั้น ในเรื่องของความระทึกขวัญและความบันเทิง เรื่องนี้จัดเต็มจริง สนุกจริง เป็นหนังแนว survivor ที่โคตรสนุก ตอนจบนี่ไม่อยากให้จบเลย อยากร้อง “เอาอีก ๆ” (แต่ถ้าชีวิตจริง เราไปเจอเอง ก็คงบอก “พอเถอะ” หรือไม่ก็ “โอเค กูยอมถูกไอ้เข้กินก็ได้ กูเหนื่อย”)
จริง ๆ หนังมีช่วงที่จระเข้ไม่โจมตี หรือช่วงที่ต่างฝ่ายต่างตั้งหลัก ก็เหมือนจะเรียกว่าเป็นช่วงพักหายใจก็ได้แหละ แต่มันก็จะมีไดอะล็อกความสัมพันธ์ดราม่าในครอบครัว ระหว่างคุณพ่อกับคุณลูก ซึ่งมันโอเคเลย ไม่เล่นใหญ่ ไม่มากไป ไม่น้อยไป ไม่น่าลำไย คือเค้า make it simple but so powerful โดยไม่ต้องพยายาม
คะแนนตามความชอบส่วนตัว 8/10
ป.ล. จระเข้ตัวใหญ่ ดุมาก แต่ก็หิวมาก สงสัยว่าที่ฟาร์มเก่าเค้าไม่ให้อาหารหรือไง
45 comments
Comments are closed.