เรื่องย่อ Daddy’s Home
Brad Whitaker (Will Ferrell จาก Anchorman: The Legend of Ron Burgundy) หนุ่มใหญ่ผู้เพียบพร้อมด้วยฐานะและหน้าที่การงาน มีความใฝ่ฝันและความพยายามสูงมากที่จะเป็น “Super Dad” ของลูกเลี้ยงทั้งสอง: Megan (Scarlett Estevez) กับ Dylan (Owen Vaccaro) เพราะเขาไม่สามารถมีลูกแท้ๆ ของตัวเองได้
วันหนึ่ง Dusty Mayron (Mark Wahlberg จาก Ted, The Fighter, The Departed) พ่อแท้ๆ ของเด็กๆ หรืออดีตสามีเก่าของภรรยาของเขา Sara (Linda Cardellini จาก Avengers: Age of Ultron) มาเยี่ยมเด็กๆ ที่บ้านเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ศึกชิงตำแหน่งคุณพ่อดีเด่นจึงอุบัติขึ้น!
“What do kids need more, a father or a dad?”
รีวิว วิเคราะห์ วิจารณ์ Daddy’s Home
Daddy’s Home เป็นหนังตลกที่ตลกบ้างไม่ตลกบ้าง เพราะส่วนใหญ่ก็เห็นในเทรลเลอร์ไปเกือบหมดแล้ว แต่โดยรวมหนังมันก็ไม่ได้แย่ เหมาะกับการดูคลายเครียด ตอนจบก็ฟีลกู้ดดี จะดูเป็นหนังครอบครัวก็ได้ เป็นหนังคริสต์มาสก็ดี (แต่มีมุก 18+ อยู่บ้าง ต้องระวัง)
ในส่วนของเนื้อหาสาระพอมีบ้างนิดๆ หน่อยๆ คล้ายๆ เป็นข้อคิดเกี่ยวกับครอบครัวในฝัน สอนได้ทั้งลูกทั้งคนเป็นพ่อเป็นแม่ ทำให้เข้าใจว่า สำหรับบางคน การมีลูกเป็นเรื่องง้ายง่าย แต่กลับไม่มีความพร้อมที่จะเป็นพ่อคน (ทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่า มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นพ่อคน)
ในขณะที่กับบางคน อยากมีลูกแทบตาย แต่การมีลูกเป็นเรื่องย้ากยาก (เช่น เป็นหมัน หรือหาผัวหาเมียไม่ได้) แต่เขาก็มีความพยายามกว่าคนปกติทั่วไปที่จะเป็นทั้งพ่อที่ดีของเด็กและคู่ชีวิตที่ดีของคนรัก
“Damn near everyone can be a father, but not everyone has the patience to be a dad.”
ในมุมมองของผู้หญิง หรือคนที่จะเป็นแม่คน…และเป็นภรรยาของใครสักคน ถึงแม้ว่าลึกๆ แล้ว เราจะไม่รู้ว่า Sara รักสามีใหม่จริงหรือเปล่า และยังรักยังมีเยื่อใยกับสามีเก่าอยู่หรือไม่
แต่เราค่อนข้างเข้าใจ Sara เลยนะว่า ไม่ว่าจะทำไมที่ตอนนั้นเธอเลือก Dusty และทำไมตอนนี้เธอเลือก Brad ทุกสิ่งที่เธอเลือกนั้น…คือเธอพยายามเลือกสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อลูกของเธอเท่านั้นจริงๆ
สาวๆ สวยๆ นะ หลายคนมีความใฝ่ฝัน อยากมีแฟนหล่อเท่คูลและฟิตปึ๋งปั๋งแบบ Dusty กันทั้งนั้นแหละ รวมถึงเด็กน้อยหลายคนก็อยากมีพ่อแซ่บๆ คูลๆ กันทั้งนั้น และเราเชื่ออีกด้วยว่า ตอนที่ Sara คบกับ Dusty สมัยยังหนุ่มๆ สาวๆ กัน มันคงสนุกมากจริงๆ นั่นแหละ (อย่างที่เห็นในหนัง ก็ดูเป็นคู่รักในฝันของเราเหมือนกัน ฮันนีมูนรอบโลกแบบลุยๆ)
แต่เมื่อช่วงเวลาแห่งวัยสนุกผ่านไป เรามีลูก เรามีภาระ และต้องเป็น Role Model ให้กับลูก (ลูกจะโตไปเป็นยังไง พ่อแม่มีส่วนอย่างยิ่ง นี่จริง) เราจะมารักสนุกเหมือนเดิมอย่างเดียวไม่ได้ และผู้หญิงก็ต้องการผู้ชายที่ช่วยเธอเลี้ยงลูกได้อย่างดีที่สุด ทั้งด้านค่าใช้จ่ายและการเลี้ยงดู ซึ่ง Brad นี่แหละ ครบเครื่อง…
อย่างไรก็ตาม หนังไม่ได้เน้นเรื่องผัวๆ เมียๆ มากนัก ไปเน้นที่การเอาชนะใจลูกเสียมากกว่า ซึ่งข้อดีคือ ศึกของคุณพ่อทั้งสองในเรื่องทำให้เราได้เห็นประโยชน์ของการแข่งขันชิงดีชิงเด่น (แบบมีน้ำใจนักกีฬา) ด้วยนะ ตรงที่ว่า…มันทำให้แต่ละฝ่ายหมั่นพัฒนาตนเองและเติบโตเป็นคนที่ดีขึ้น เพราะสุดท้ายแล้ว บางเรื่อง เช่น การเป็นพ่อเป็นแม่ มันก็ไม่มีใครทำได้ดีที่สุด หรือมีใครเป็นได้ดีไปกว่าใคร แต่ละคนต่างก็ดีในแบบของตัวเอง
และไม่ว่าใครจะแพ้จะชนะ… มันก็มีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นแล้ว
Daddy’s Home คะแนนตามความชอบส่วนตัว 7/10
ฉายรอบ sneak preview หลัง 2 ทุ่มเป็นต้นไป ตั้งแต่ 24-30 ธ.ค. ฉายจริง 31 ธ.ค. 2015 นี้ในโรงภาพยนตร์
86 comments