19 มีนาคม 2015 นี้ Insurgent หนังภาคต่อของ Divergent กำลังเข้าฉายในไทย เราเขียนบล็อกนี้ขึ้นมา เพื่อเป็นการวอร์มอัพ ทบทวนเนื้อหาและตัวละครในภาคแรกนิดๆ หน่อยๆ ประกอบกับอยากจะสรุปข้อแตกต่างระหว่างหนังกับหนังสือ รวมถึงดูว่าในหนังมีการขยายความอะไรมากกว่าที่ในหนังอธิบายบ้าง เหมือนที่เคยทำใน The Hunger Games ทั้งสามภาค
ก่อนอื่น เรามาทวนกันก่อนว่า Divergent สร้างจากหนังสือ 3 เล่มจบแนว Distopia ของนักเขียนชื่อดังยังสาว Veronica Roth โดยโลกในเรื่อง Divergent จะแบ่งกลุ่มคนออกเป็น 5 กลุ่ม (ไม่นับพวก Factionless ที่ทำงานพวกภารโรง) ตาม personality ดังนี้
- Abnegation – selflessness – government (ฉายา “Stiffs”)
- Dauntless – courage, bravery, toughness, fearlessness – police/soldiers/protectors
- Candor – honesty, order – law leaders
- Erudite – knowledge, intelligence, curiosity, and astuteness – teachers/researchers (ฉายา “Know-it-all’s” และ “Noses”)
- Amity – peacefulness, kindness, forgiveness, trust, self-sufficiency, neutrality – farmers/artists/counselors/caretakers
ต่อไปนี้เป็นความแตกต่างระหว่างหนังกับหนังสือ และส่วนที่ขาดหายไปจากในหนังที่หนังสือเขาบอกอย่างละเอียดกว่า
1. Personal Data of Tris and Four
อย่างที่คงทราบกันแล้ว Tris กับ Four ถือกำเนิดในกลุ่ม Abnegation ทั้งคู่ แต่ในหนังสือเหมือนจะระบุอายุของทั้งสองไว้ชัดเจนว่าอ่อนกว่าในหนัง อย่างเช่นพระเอกของเรา Four ในหนังสือก็เขียนว่าเขาอายุ 18 ในขณะที่ในหนังเขามีอายุ 24 ปี
ปีที่นางเอกของเรา Beatrice Prior และ Caleb พี่ชายของเธอ สอบ Aptitude Test และเข้า Choosing Ceremony นั้น คือปีที่อายุครบ 16 ปี เพราะที่นี่ถือว่าเป็นปีที่ก้าวเข้าสู่การเป็นผู้ใหญ่ หรือ adulthood แล้ว โดยพี่น้องคู่นี้เรียนปีเดียวกัน อายุห่างกันไม่ถึงปีเป๊ะ คาดว่าคนนึงเกิดหัวปี คนนึงเกิดท้ายปี
นอกจากนี้ จะเห็นว่าในหนังแทบไม่มีเพื่อนบ้านของ Beatrice ปรากฏกายเลย แต่ในหนังสือ สองพี่น้อง Susan กับ Robert แอบมีบทบาทเล็กๆ โดย Susan กับ Caleb เหมือนจะกิ๊กๆ กันอยู่ และ Robert ก็เหมือนพยายามจะจีบ Beatrice แต่นางไม่เล่นด้วย
2. Aptitude Test
ในหนังสือ ณ วันสอบ Aptitude Test เด็กๆ ต้องไปเรียนช่วงคาบเช้าก่อน แล้วถึงจะเข้ารับการเทสต์หลังพักเที่ยงที่โรงอาหารรร. ซึ่งต่างจากในหนัง แต่ในหนังคือสองพี่น้องเดินทางไปที่ตึกอะไรสักอย่างแต่เช้าเลย และในห้องทดสอบจะเป็นห้องกระจกรอบด้าน
หนังไม่ได้บอกอะไรมากเกี่ยวกับผู้คุมสอบ แต่ในหนังสืออธิบายนิดหน่อยว่า ผู้คุมสอบส่วนใหญ่เป็นอาสาสมัครจาก Abnegation แต่มันก็มี Dauntless และ Erudite ด้วย เพราะมีกฎว่า ห้ามให้ผู้คุมสอบเทสต์เด็กที่มาจาก faction เดียวกับตน
Tori หญิงเฉี่ยวจากกลุ่ม Dauntless เป็นคนทดสอบ Beatrice เช่นเดียวกับ Dauntless คนอื่นๆ Tori มีรอยสัก โดยรอยสักของเธอเป็นรูปเหยี่ยวอยู่ที่หลังคอ เป็นสัญลักษณ์ของพระอาทิตย์ เพราะเธอเคยกลัวความมืด
ในการทดสอบ ในหนัง Beatrice จะเจอแค่ด่านหมา แต่ในหนังสือ Beatrice เจออุปสรรคเยอะกว่านั้น เธอจะเจอชายอ่านนสพ.ในด่านบนรถบัสด้วย แต่ละด่านวัดคุณสมบัติเกี่ยวกับ 1-2 faction ในตัวผู้ถูกทดสอบ
ส่วนผลของ Beatrice ที่ว่าหาข้อสรุปไม่ได้นั้น ในหนังสือ Tori ไม่ได้รีบไล่ Beatrice กลับบ้านไปส่งๆ แต่อธิบายความซับซ้อนนั้นให้เธอฟังอย่างละเอียด ซึ่งสรุปง่ายๆ ว่า Beatrice เป็น Divergent มีคุณสมบัติแต่ละ faction เท่าๆ กัน ยกเว้นของ Candor และ Amity ที่พอจะตัดชอยส์ได้
อย่างไรก็ตาม Tori ลบข้อมูลบันทึกการทดสอบของ Beatrice และช่วยกรอกผลให้ว่าได้ Abnegation
3. Choosing Ceremony
ในหนังสือภาคแรก Jeanine ไม่ได้มีบทบาทหรือโผล่มาบ่อยเท่าในจอ ในหนังสือ Tris แทบไม่ได้เจอ Jeanine ตัวจริงเลย แต่ก็นั่นแหละ จ้างนางเอก Titanic มาเล่นเป็นตัวร้ายทั้งที ก็ต้องใช้ให้คุ้มเป็นเรื่องธรรมดา
Choosing Ceremony ในหนังดำเนินการโดย Jeanine Matthews (Kate Winslet) แกนนำกลุ่ม Erudite แต่ปกติแล้ว พิธีดังกล่าวแต่ละ faction จะผลัดกันเป็นเจ้าภาพหมุนเวียนกันทุกปี และถ้าว่ากันตามหนังสือ จริงๆ ปีนี้ Abnegetion ต้องเป็นเจ้าภาพ และ Marcus เป็นคนดำเนินรายการ
การที่ Caleb เลือก Erudite นั้น ในหนังสือแอบใบ้เอาไว้ก่อนแล้วว่า ในห้องนอนของเขาเต็มไปด้วยหนังสือมากมาย และหลังวัน Aptitude Test เขาก็มีท่าทีแปลกๆ แถมสอนน้องสาวอีกว่า “We must also think of ourselves.”
ในหนังเราอาจจะไม่เข้าถึงการตัดสินใจของ Beatrice เท่าไหร่ แต่ในหนังสือจะบรรยายด้วยว่า เธอ reference ตามการตัดสินใจของพี่ชาย ประกอบกับจินตนาการภาพตัวเองว่า ถ้ายังเลือกอยู่ต่อใน Abnegetion ชีวิตในอนาคตของเธอจะเป็นยังไง ดังนั้น Beatrice จึงตัดสินใจเลือก Dauntless ที่เธอใฝ่ฝัน
แล้วในหนังสือเล่าอีกด้วยว่าสายตาของพ่อผิดหวังและดูเคืองมาก แต่แม่เหมือนไม่ว่าอะไร แม่ยิ้มให้เธอ
“Faction before blood.”
4. Dauntless Headquarter
รถไฟในเมืองนี้ไม่เคยหยุดวิ่ง มีแต่กลุ่ม Dauntless ที่เคยขึ้น อย่างมารร. พวกนี้ก็จะมารอบ 7:25 น. ทุกเช้า กลุ่มนี้ทั้งเจาะ ทั้งสัก และใส่ชุดดำทั้งตัว เช่นเดียวกับในหนัง Beatrice อยากมีชีวิตบ้าระห่ำและอิสระแบบ Dauntless แต่พ่อของเธอไม่ชอบ พ่อเรียกพวก Dauntless ว่า “hellions”
การเดินทางไป Dauntless Headquarter ครั้งแรก เด็กๆ ก็ต้องไปรถไฟขบวนที่ว่านี้แหละ ซึ่งในหนังดูเหมือนอะไรๆ จะราบรื่นและน่าตื่นเต้นไปเสียหมดใช่มั้ย แต่ในหนังสือ เขาไม่เขียนให้เด็กใหม่ทุกคนได้ไปถึงปลายทางง่ายๆ
อย่างตอนกระโดดขึ้นจับรถไฟ ก็มีเด็กผู้ชายที่ย้ายมาจาก Erudite คนหนึ่ง เขาเตี้ยสั้น จึงวิ่งขึ้นรถไม่ทันและก็ถูกทิ้งข้างทางอย่างนั้น และต้องกลายเป็น Factionless ทันที
และฉากกระโดดจากรถไฟมาดาดฟ้าตึกครั้งแรก ในหนังสือก็ไม่ได้ผ่านทุกคนสวยๆ แบบในหนัง หากแต่มีผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนเดียวที่ย้ายจาก Amity มา Dauntless เขาไม่ยอมกระโดดมา เพราะยอมเป็น Factionless ดีกว่าตกลงไปตาย นอกจากนี้ยังมีผู้หญิงอีกคนนึงที่กระโดดไม่ผ่าน ตกลงไปตายแบบศพไม่สวย ลาก่อน
5. Training
กลุ่มเด็กใหม่แบ่งเทรนเป็น 2 กรุ๊ป
- กรุ๊ปแรกมี 11 คน เป็น Dauntless-born จะมี Lauren เป็นพี่เลี้ยง
- อีกกรุ๊ปคือพวกที่ย้ายมาจาก faction อื่น มีกันทั้งหมด 9 กัน และจะมี Four เป็นพี่เลี้ยง
ส่วน Eric เป็นเพื่อนร่วมรุ่นของ Four เขาย้ายมาจากกลุ่ม Erudite ปัจจุบันเขาเป็น 1 ใน 5 ผู้นำของ Dauntless และดูแลการเทรนทั้งหมด
การเทรนมีการจัด ranking ด้วยสองวัตถุประสงค์ อย่างแรกคือเอาไว้เลือกตำแหน่งงาน อย่างที่สองคือ เขาจะคัดเอาแค่ 10 คนแรก จาก 20 คน เท่านั้น แปลว่าจะมี 10 คนที่ตกรอบและกลายเป็น Factionless โดย stage แรก จะคัดออก 4 คน แล้วอีก 6 คนจะคัดออกใน final test
stage 1 วัด physical เป็นหลัก และจะฝึกพวก Dauntless-born กับ Transfer แยกกัน ก่อนจะคัดออกและเอาที่เหลือไปฝึกรวมกันใน stage 2 ต่อไป ส่วน stage 2 จะวัด emotional เป็นหลัก ตามด้วย stage 3 ที่วัด mental เป็นหลัก โดยคะแนนใน stage 1 มีน้ำหนักน้อยสุด และ stage 3 คะแนนจะมีน้ำหนักสูงสุด
เห็นได้ชัดว่าการเทรนในหนังสือ “เยอะ” และซับซ้อนกว่าที่เห็นในหนังมาก
“You chose us. Now we have to choose you.”
6. Initiation
Al ผู้ย้ายมาจาก Candor เป็นคนที่ตัวหนาและใหญ่ที่สุดในบรรดาเด็กใหม่ แต่ข้างในเขาเปราะบาง ช่วงแรกๆ เขามักนอนร้องไห้ตอนกลางคืนบ่อยๆ Al เป็นคนชวนเพื่อนๆ ไปสักแทททู เพราะเขาอยากรู้สึกว่าเขาออกจาก faction เดิมโดยสมบูรณ์แล้ว นอกจากนี้หลังๆ เขาดูเหมือนจะชอบ Tris ด้วย (ไม่รู้จริงแท้แค่ไหน แต่ที่แน่ๆ เขาชอบเวลา Tris อ่อนแอกว่าเขา มันทำให้เขารู้สึกดี) แต่ Tris ก็ไม่เล่นด้วย
Will มาจาก Erudite แต่เขาไม่สนิทกับพวก Erudite คนอื่นๆ ที่ย้ายมา อย่างเช่น Edward กับ Myra ก็กำลังเดทกันอยู่ Will จึงไม่อยากอยู่เป็น ก.ข.ค. ซึ่งในหนังไม่มีโมเมนต์ประมาณนี้อยู่เลย แม้แต่ Edward ก็แทบไม่มีบทบาท ทั้งๆ ที่ในหนังสือเขาต่อสู้เก่งเป็นอันดับต้นๆ ของรุ่น (เขาเรียนต่อสู้ตั้งแค่สิบขวบ) ส่วน Myra ในหนังนี่ไร้ตัวตน อันตรธานหายไปเลย
Peter ซึ่งย้ายมาจาก Candor ในหนังสือเขามีลูกสมุนด้วย คือ Drew และ Molly แต่ในหนังเหมือนเราจะไม่เห็น Drew นะ ถ้ามีก็เห็นแต่ Molly ชะนีร่างยักษ์ที่ดวลกับทีมนางเอก แต่ในหนังก็ไม่ได้เห็นว่านางแทคทีมอะไรกับ Peter นัก
Peter ในหนังจะดูติดกวนๆ แต่ในหนังสือเขาโหดร้ายกว่าในหนัง กล่าวคือเขาไม่ใช่แค่พาพรรคพวกไปอุ้ม Tris เท่านั้น หากแต่ยังลอบเอามีดแทงลูกตา Edward ด้วย เพียงเพราะเรื่อง ranking แล้วยังแกล้งพ่นสเปรย์คำว่า “Stiff” ไว้เต็มที่นอน Tris และแกล้งดึงผ้าขนหนู Tris จนโป๊เปลือยต่อหน้าเพื่อนๆ อีกต่างหาก
พูดเลยว่าถ้าในหนัง Peter เล่นแรงขนาดนี้ และคนที่แสดงเป็น Peter ไม่ใช่ Miles Teller (พระเอก Whiplash) เราอาจจะเกลียดไปแล้วไปเลยก็ได้นะ แฮ่~
FYI: Candor ไม่ถูกกับ Amity แบบที่ Abnegation ไม่ถูกกับ Erudite
7. Tattoo
ตอนที่ Beatrice หรือ Tris (เปลี่ยนชื่อละ) ไปร้านสัก ในหนังสือ Tori ไม่ได้เดินหนีหรือบ่ายเบี่ยงที่จะคุยกับ Tris แบบในหนัง แต่ก็ไม่ได้ช่วยบอกให้เธอหายเคลือบแคลงเรื่อง Divergent ตั้งแต่ครั้งแรก
วันนั้น Tris ตัดสินใจสักรูปนกสามตัว โดยในหนังสือบอกด้วยว่า นกแต่ละตัวแทนพ่อ แม่ และพี่ชายของเธอ แล้วหลังจากนั้น Tris ยังไปสักแทททูเพิ่มที่ไหล่ขวาอีกอันด้วย คราวนี้เป็นสัญลักษณ์ของ Abnegation คือเป็นรูปมือสองข้างมีวงกลมล้อมรอบ ซึ่งในหนังจะไม่ได้บอกคนดูว่าความหมายของนกสามตัวคืออะไร และนางเอกก็ไม่ได้ไปสักสัญลักษณ์ faction เดิมของตัวเองเพิ่ม
ภายหลัง Tori ยอมอธิบาย Tris ว่า Divergent คืออะไร อันตรายอย่างไร และเล่าว่าทำไมถึงยอมช่วย Tris ปกปิดความจริง ทำให้ Tris ได้รู้ว่า Tori กับพี่ชายย้ายจาก Erudite มา Dauntless แล้วผลตอนเทรนมันออกมาว่าพี่ชายของ Tori เป็น Divergent จึงถูกสั่งเก็บไปเมื่อหลายปีก่อน
8. Chasm
ตอนที่ Christina ยอมแพ้ Molly แล้วถูก Eric ทำโทษ ในหนังกับหนังสือแตกต่างกันเล็กน้อย ในหนัง Eric ลากคอแล้วจับ Christina ไปแขวนฉับๆ เลย แต่ในหนังสือเขาสั่งให้ Christina เดินตามราวไปแล้วค่อยๆ ทิ้งตัวลงไปห้อยเอง เป็นเวลา 5 นาที ซึ่งนานกว่าในหนังมาก แล้วตอนหมดเวลา ตอนแรก Eric จะไม่ให้ใครกรูเข้าไปช่วย Christina ด้วยซ้ำ แต่ Al แว้ดใส่ Eric แล้วก็เข้าไปช่วยเพื่อนขึ้นมา
เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Christina ว่าในหนังต่างจากในหนังสือมาก ภาพในหนังสือคือจะต้องเป็นคนสวยและสูงโปร่ง แต่ตัดภาพมาที่ในหนัง Christina แสดงโดย Zoë Kravitz ซึ่งตัวเล็กมากกกกกก…ก
9. Field Trip at Amity’s
ในหนังมีฉาก Dauntless ไปออก field trip เพื่อเรียนรู้งานของกลุ่มแถวๆ รั้วกำแพง เช่นเดียวกับในหนังสือ แต่แค่ไม่ได้บอกว่าทำไมจู่ๆ ทุกคนไปโผล่ที่นั่นและไปทำอะไร อย่างไรก็ตามแต่ ในหนังสือพูดอีกว่า เด็กๆ ไม่รู้ว่าที่กำแพงนั่นมีอะไร รู้แต่ว่ามันเพิ่งจำเป็นต้องมี Dauntless ไปผลัดเวรยามเฝ้าเมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้วนี้เอง แล้วที่น่าสงสัยคือประตูล็อกจากด้านนอกไม่ใช่ด้านใน
นอกจากนี้ ระหว่างการไปออกภาคสนามนี้ ในหนังสือ Tris ได้เจอ Robert (เพื่อนข้างบ้านเก่าที่เหมือนจะเคยแอ๊วเธอ) จึงได้รู้ว่าเขาก็ย้ายมาอยู่ Amity (ตอนแรก Tris ไม่ได้สนใจอีตานี่เลยจริงๆ พูดถึงครั้งสุดท้ายก็ตอนจะต้องหยดเลือดเลือก faction ว่า ฉันไม่อยากแก่ตายเป็นคู่ชีวิตกับอีตานี่ใน faction จืดๆ นั่น)
ส่วนแม่ไม่ได้แอบลอบมาหาเธอแบบในหนัง เพราะเดี๋ยวหนังสือจะมี Visiting Day ให้แม่มาเจอลูกโดยชอบธรรมอยู่แล้ว
10. Flag
ในหนังมีฉากเทรนที่ Tris ต่อสู้กับ Peter แล้วแพ้น็อคเละตุ้มเป๊ะ จนไปสลบเหมือดอยู่ในห้องพยาบาลหลายชั่วโมง และ Eric ก็เกือบตัดสิทธิเธอ ไม่ให้เธอไปเทรนภาคสนามด้วย แต่ในหนังสือ Tris มีสิทธิไปปกติ ไม่ได้เละขนาดในหนัง
ส่วนเกมชิงธงก็เหมือนในหนังเลย เพียงแต่ปืนที่ใช้ในการเล่นเกมในหนังสือไม่ได้ดูเจ็บจริงอย่างในหนัง เป็นแค่ปืนเพนท์บอลธรรมดา
ในหนังสือ เราจะเห็นภาพชัดกว่าว่า Eric เลือกแต่ลูกทีมที่แข็งแรงตัวใหญ่กำยำ ในขณะที่ Four เลือกแต่ตัวเล็กๆ บางๆ เป็นส่วนใหญ่ ซึ่ง Four ฉลาดเลือกกว่ามาก เขารู้ดีว่าเกมชิงธงนี้ต้องเน้นความไวมากกว่าเน้นพละกำลัง
ฉากตอนไต่ลงจากชิงช้าสวรรค์ ในหนังสือ Tris ลื่นจนเกือบตกลงมา แต่ Four รีบไหลลงไปข้างล่างแล้วกดอะไรสักอย่างให้ชิงช้าหมุนได้ (โดยไม่ได้ตั้งใจแต่แรกว่ามันยังใช้งานได้) Tris จึงหมุนลงมาตามชิงช้าอย่างสวยงาม แต่ในหนังไม่มีใครมีปัญหากับการไต่ลง
แผนการชิงธงนั้น Tris เป็นคนคิดแผนการ เป็นคนตรัสรู้ว่าอีกทีมซ่อนธงไว้ที่ไหน และเป็นคนคว้าธงได้จากหอคอย แต่เธอแชร์ชัยชนะร่วมกันกับ Christina เพื่อนรักของเธอ ในขณะที่ในหนังสือมันดราม่ากว่านั้น
ในหนังสือ Tris กับ Chistina ไปถึงธงที่แขวนอยู่บนต้นไม้ของฝ่ายตรงข้ามได้พร้อมกัน ธงก็อยู่สูงเกินกว่า Tris จะเอื้อมถึง (ในหนังสือ Tris ตัวเล็ก และ Christina ตัวสูง ซึ่งตรงกันข้ามกับในหนังเลย) แล้ว Christina พูดกับ Tris ว่า “Come on! You’re already the hero of the day. And you know you can’t reach [the flag] anyway.” ผลสรุปคือ Christina ได้ทั้งหน้าได้ทั้งธง ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองตึงขึ้นเล็กน้อย
หนึ่งในตัวละครโปรดของเราในหนังสือที่ไม่ปรากฏตัวในหนังคือ Uriah เขาเป็นพวกที่เป็น Dauntless โดยกำเนิด เก่งที่สุดในรุ่น แต่ดีกับ Tris มาก ที่สำคัญ Uriah ยังเป็นคนชวน Tris ไปเล่นสลิงข้ามตึกนั่นด้วย
บางโมเมนต์เราก็อยากเชียร์ให้ Uriah คู่กับ Tris เสียด้วยซ้ำ เช่น ฉากที่ Tris ไม่มีเก้าอี้นั่ง Uriah ก็บอก Tris ว่านั่งตักเขาก็ได้นะ *โอย ฟิน จิกหมอน* (กรี๊ดเป็นการส่วนตัว)
11. Visiting Day
ในหนังสือ พวก Faction Transfers จะมีโอกาสได้เจอครอบครัวเก่าใน Visiting Day หลังจากวันเลือก ประมาณ 10 วัน แต่กระนั้น โดยปกติแล้วก็ไม่ค่อยมีครอบครัวเก่าไปเยี่ยมลูกๆ ที่ย้ายไปอยู่ Dauntless เลยอยู่ดี
โดยในวันดังกล่าว พ่อแม่ของ Peter มา, พี่สาวของ Will มา, น้องสาวของ Christina มา, และแม่ของ Tris หรือ Beatrice ก็มาเช่นกัน นอกจากนี้ จริงๆ พ่อแม่ของ Al ก็มา แต่ในวันนั้น Al ไปหลบซ่อนตัวอยู่ไหนไม่รู้ ไม่ยอมออกมาเจอพ่อแม่
พ่อของ Tris ติดทำงาน ไม่ได้มาเยี่ยมทั้งเธอและ Caleb (แต่จริงๆ อาจจะเพราะยังโกรธลูกอยู่) ส่วนตัวแม่เองก็อยากไปเยี่ยม Caleb ต่อด้วย แต่ที่ Erudite ออกกฎไม่อนุญาตให้คนจาก Abnegation เข้าไปที่นั่นเด็ดขาด แม่จึงมาเยี่ยมได้แต่ Tris คนเดียว
แต่แม่บอก Tris ว่า ถึงแม่จะไปหา Caleb ไม่ได้ แต่ Tris ไปได้นะ เพราะ Tris เป็น Daunless แล้ว ดังนั้นแม่จึงขอร้องให้ Tris ช่วยไปหาพี่ชายและบอกให้เขารีเซิชหาข้อมูลเกี่ยวกับ simulation serum ให้หน่อย ดังนั้นในหนังสือ ฉากที่ Tris หนีไปหาพี่ชายจึงค่อนข้างเมคเซนส์กว่าในหนังตรงนี้นี่แหละ
ตอนเยี่ยม แม่ของ Tris ได้เจอ Four ด้วย เธอรู้สึกคุ้นหน้า Four แต่ก็นึกไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน ทั้งนี้ทั้งนั้น Four ค่อนข้างเย็นชากับแม่ของ Tris จน Tris แอบสงสัยว่า เขามาจากกลุ่ม Erudite หรือยังไง ถึงได้ดูรังเกียจ Abnegation นัก
ส่วน Cara พี่สาวของ Will ก็หยาบคายกับ Tris และแม่มาก เพราะเห็นว่าเป็นครอบครัวของ council member จน Tris เกือบจะต่อยหน้า Cara เข้าให้
ในหนังแทบไม่อะไรกับแม่ของ Tris เลย (คนดูหนังรู้มั้ยว่าแม่นางเอกชื่อ Natalie และพ่อชื่อ Andrew Prior) แต่ในหนังสือ แม่ของ Tris มีความสำคัญมากกว่านั้น
ตอนที่แม่มาเยี่ยมนั้น Tris ก็แอบสังเกตเห็นว่าแม่ของเธอไม่เหมือนพ่อแม่พี่น้องของคนอื่นที่มาเยี่ยมลูกที่นี่ กล่าวคือ แม่ของเธอดูคุ้นเคยกับเรื่องของ Dauntless เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเรื่องการเทรนนิ่ง การจัดสำดับ rank หรือแม้แต่ถนนหนทางซอกแซกในตึก แถมยังรู้อีกว่า dessert ของที่นี่คือช็อคโกแล็ต Tris จึงสันนิษฐาน (อย่างค่อนข้างมั่นใจ) ว่าแม่ของเธอเคยอยู่ Dauntless
แม่ถามด้วยว่าผล Aptitude Test ของ Tris เป็นยังไง เธอตัดสินใจบอกแม่ตามจริงว่ามัน “inconclusive” แม่ก็บอกว่าแม่ไม่แปลกใจเลย แต่ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเด็กจาก Abnegation หลายคนได้ผลแบบนี้ และก็เตือนให้ Tris ระวังตัวให้มากขึ้นสำหรับการเทรน stage ต่อไปด้วย
12. First Ranking
ในพาร์ทการต่อสู้ Tris ทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะตอนชนะน็อคเอาต์ Molly แม้แต่ Eric ยังชมเธอยกใหญ่
ส่วน Al นั้นตรงกันข้าม เขาทำได้ไม่ดี แพ้ตลอด แต่เป็นการแพ้เพราะเขาไม่อยากทำร้ายให้เพื่อนเจ็บ เพราะจริงๆ เขาเป็นคนจิตใจดีและอ่อนไหวมาก แต่ไม่ว่าจะเพราะอะไร มันก็ส่งผลให้เขาได้ ranking รั้งท้าย และเสี่ยงต่อการหลุดโผกว่าใครเพื่อน เหตุผลหลักที่ Al ไม่ยอมออกไปสู้หน้าพ่อแม่ก็เพราะเขาไม่อยากเห็นสายตาที่พ่อแม่ผิดหวังในตัวเขานี่แหละ พ่อแม่ของเขาอยากให้เขาอยู่ Dauntless
ผลคะแนน stage แรก ของพวก Transfer เรียงจากสูงไปต่ำได้ดังนี้คือ Edward, Peter, Will, Christina, Molly, Tris, Drew, Al, Myra ซึ่งผลดังกล่าวทำให้ Peter ลอบทำร้าย Edward จนตาบอด (จริงๆ ไม่มีใครรู้ว่าใครทำ แต่นาทีนั้นมีแค่ Peter กับ Drew ที่ไม่อยู่ในห้อง)
ความโหดร้ายของ Peter นั้นทำให้เช้าวันต่อมา Edward กับ Myra ขอถอนตัวออกจากกลุ่มไปเลย ซึ่งส่งผลให้ Peter ได้เลื่อนเป็นเบอร์ 1 แทน Edward สมใจ และทำให้ Al ได้ไปต่ออีกด้วย ซึ่งในหนังไม่มีซีนเหล่านี้เลย แต่ผู้กำกับฯ ให้สัมภาษณ์ว่าจริงๆ ถ่ายไว้นะ แต่แค่ถูกตัดออก (ใครมี DVD บอกด้วยว่ามีฉากนี้ที่ถูกตัดอยู่ด้วยเปล่า?)
ส่วนกลุ่ม Dauntless-born แน่นอนว่า Uriah ขวัญใจเราได้คะแนนสูงสุดเป็นอันดับ 1 ไปอย่างใสๆ เก่งที่สุด (ทำไมในหนังไม่มี Uraih T^T)
13. Skyline
ฉากการโหนสลิงข้ามตึกนั้น ในหนังกับหนังสือมีที่มาที่ไปต่างกัน ในหนังสือเขียนว่านี่เป็นหนึ่งในประเพณีที่ให้เฉพาะพวก Dauntless-born เข้าร่วมเท่านั้น แต่ Uriah พา Tris ไปด้วย ทั้งนี้ Uriah เก่งเป็นอันดับต้นๆ ของรุ่น และยังเป็นน้องชายของ Zeke เพื่อนของ Four ดังนั้นคนอื่นจึงไม่ค่อยอะไรกับ Uriah ที่จะเอา “Stiff” ไปด้วย
ซึ่งหลังการโหนครั้งนั้น ความกล้าของ Tris ทำให้เธอได้รับการยอมรับและเป็นที่ชื่นชอบของพวก Dauntless-born ไปโดยปริยาย
ส่วน Four นั้นไม่ได้ไปร่วมด้วยอย่างในหนัง เพราะเอาจริงๆ โดยพื้นฐานเขาเป็นคนกลัวความสูงอยู่แล้ว เขาจึงไม่โอเคกับการไปร่วม หรือแม้แต่ให้ไปเป็นพี่เลี้ยงคอยส่งเด็กๆ โหนสลิง 100 ชั้นนานๆ สักเท่าไหร่ เออ อันนี้เมคเซนส์
14. Fear Landscape
stage 2 เทียบกับในหนังก็คือฉากที่ Tris เข้าไปในห้องทดสอบเดี่ยว โดยมี Four เป็นผู้ทดสอบและฉีด serum ให้ เห็นได้ชัดว่า stage นี้เป็นด่านการทดสอบการเผชิญหน้าและควบคุมความกลัว
ตอนอยู่ในความกลัวก็เหมือนอยู่ในความฝัน Tris รู้สึกเหมือนอยู่ในนั้นเป็นเวลานาน แบบว่าวิ่งหนีและต่อสู้กับฝูงอีการาวๆ ครึ่งชั่วโมงได้ แต่จริงๆ แล้วมันเป็นเวลาจริงเพียง 3 นาทีเท่านั้น
แล้วสิ่งสำคัญที่หนังไม่ได้เอ่ยถึงคือ สถิติของ Tris เร็วกว่าเด็กใหม่ทั่วไปถึง 3 เท่า ส่งผลให้ ranking ของ stage 2 นั้น Tris ได้ขึ้นแท่นเป็นหมายเลข 1 ทิ้งห่างจาก Peter ซึ่งได้อันดับ 2 อย่างไม่เห็นฝุ่น (Tris ใช้เวลา 2:45 นาที ส่วน Peter ใช้เวลา 8 นาที) ส่วนที่โหล่ยังคงเป็น Al เช่นเคย น่าสงสาร
เพื่อนๆ ของ Tris ไม่มีใครยินดีกับตำแหน่งนี้ของ Tris เท่าไหร่ Will ถึงกับถามเลยว่า ที่ผ่านมา Tris แกล้งทำเป็นอ่อนแอให้คนอื่นสงสารและตายใจใช่มั้ย แต่ยังดีที่ Cristina ซึ่งพอจะจับเท็จคนเป็น (เพราะมาจาก Candor) เชื่อว่าที่ผ่านมา Tris ไม่ได้แอ็คติ้ง และยังดีที่ Tris ยังมี Uriah และเพื่อนๆ กลุ่ม Dauntless-born เข้ามาแสดงความยินดีอย่างจริงใจกับเธอ สำหรับ stage นี้ Uriah ได้ที่สองของกลุ่มนู้น เป็นรองจาก Lynn
จากการทดสอบนั้น Four ค้นพบว่า Tris เป็น Divergent แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรนอกจากเตือนเธอให้ระวังตัวดีๆ
15. Kidnapping
พอเป็นที่ 1 ก็ต้องถูกอิจฉา แต่ในหนัง Tris ถูกพวกไอ้โม่ง (พวก Peter, Drew กับ Al นั่นแหละ) อุ้มหลังเธอกลับมาจากข้างนอก เพราะ rank เธอค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้คนอื่นรู้สึกไม่มั่นคง ทั้งๆ ที่เธอยังไม่ได้เป็นที่ 1 ในขณะที่ในหนังสือ เธอถูกจับอุ้มตอนลุกไปกินน้ำ เพราะเธอดันทำ stage 2 ได้คะแนนเป็นอันดับ 1 แบบโดดเด่นเกินหน้าเกินตา
แล้ว Peter ไม่ได้เจตนาจะฆ่าอย่างเดียว แต่ยังหื่นลวนลามบีบจับหน้าอกของ Tris อีกด้วย โชคดีที่ Four มาช่วยไว้ทัน และเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ Will กับ Christina กลับมาเป็นปกติกับ Tris อีกครั้ง
แล้วที่สำคัญอีกอย่าง ในหนังสือก่อน Al จะไปกระโดดเหวฆ่าตัวตาย เขามาขอโทษ Tris ก่อนด้วย เขาคงรู้สึกผิดและไม่ได้ตั้งใจจะฆ่า Tris จริงๆ แหละ แต่ไม่ว่าจะยังไง Tris ก็ไม่ได้ให้อภัย Al (“Stay away from me.”)
นอกจากนี้ในหนังสือ ยังมีการจัดงานศพให้ Al ด้วย และ Eric ก็กล่าวว่าการฆ่าตัวตายคือการกระทำที่กล้าหาญ (หืม???)
16. Four’s Secrets
ไฮไลต์อีกอย่างคือเหตุผลที่ Four ได้ชื่อว่า Four แทนชื่อ Tobias ในหนังสือบอกว่าเขาชื่อ Four เพราะเขามีความกลัวแค่ 4 อย่างเท่านั้น (ปกติค่าเฉลี่ยความกลัวของคนอยู่ที่ 10-15 อย่าง) ซึ่งถ้าจำไม่ผิด ดูเหมือนในหนังจะละเลย ไม่ได้ให้ความสำคัญกับประเด็นอดีตของ Four ตรงนี้เลย
Four พระเอกของเรื่อง จริงๆ ชื่อ Tobias อายุมากกว่า Beatrice สองปี เขาย้ายจาก Abnegetion ไป Dauntless เพราะถูก Marcus พ่อของเขาทารุณเฆี่ยนตี แต่ Beatrice ไม่เคยเจอ Tobias ที่ faction มาก่อน ทั้งๆ ที่ Marcus เป็นเพื่อนสนิทของพ่อเธอ เพราะ Tobias ไม่เคยเข้าสังคม (ความลับนี้ จริงๆ หนังสือบอกคนอ่านตั้งแต่ตอนต้นเรื่อง)
นอกจากนั้น ในหนังสือยังกล่าวถึงแม่ของ Tobias ตั้งแต่บทแรกๆ ด้วยว่า แม่ของเขาเสียชีวิตตอนคลอดลูกคนที่สอง (เด็กก็คลอดปุ๊บตายปั๊บตามแม่) ซึ่งปมเรื่องครอบครัวตรงนี้ ตัวหนังภาคแรกก็ไม่ได้ลงลึกมาก ไม่ได้พูดถึงแม่เลยด้วยซ้ำ ทั้งที่ค่อนข้างสำคัญนะ เพราะเดี๋ยวในภาคสอง เราก็จะได้เจอแม่ของ Four เป็นอีกหนึ่งตัวละครสำคัญ (สปอยล์ล่วงหน้า อุ๊บส์!)
Four ไม่ได้ตอบ Tris ตามตรงว่าเขาเป็น Divergent เหมือนเธอ เขาบอกแค่ว่าผล Aptitude Test ออกมาเป็น Abnegation แต่เขาขอให้ Tris เรียกเขาว่า Tobias ซึ่งเป็นชื่อจริงของเขา เขาอยากได้ยินมัน แล้วก็จูจุ๊บ แต่เช้าวันต่อมา Four ก็ทำตัวเมินเฉยกับเธอเวลาอยู่ท่ามกลางฝูงชน เพราะไม่อยากให้คนอื่นมอง Tris ว่าเอาเต้าไต่หรือเอาตัวเข้าแลกคะแนน
แล้วในด่านต่อไป เด็กๆ จะได้เขาไปใน Fear Landscape ของ instructor คนใดคนหนึ่ง ซึ่ง Tris รู้ดีว่าไม่มีทางเป็น Fear ของ Four (หรือ Tobias) แน่ๆ เพราะความกลัวอย่างที่สี่ของ Four ค่อนข้าง Personal และ Sensitive มาก (เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพ่ออย่างที่เห็นกันในหนังนั่นแหละ)
ซึ่ง Tris ก็เดาถูก เด็กๆ แต่ละคนจะได้เข้าไปใน Fear Landscape ของ Lauren (ครูฝึกอีกคนหนึ่ง) คนละ 1 ความกลัว โดย Tris แรนดอมได้ความกลัวแนวถูกลักพาตัว ซึ่ง Tris ทำได้ไม่ดี เธอแพนิค ส่วนหนึ่งก็เพราะเธออ่อนแออยู่ บวกกับน้อยใจและยังไม่เข้าใจที่ทำไม Four ต้องทำเป็นเมินเธอเวลาอยู่ข้างนอก
17. Erudite Headquarter
และนี่คือถึงจุดที่ในหนังสือเล่าว่า Tris เครียด จึงหนีออกไปหา Caleb ที่ Erudite แล้วก็ได้พบว่าพี่ชายบังเกิดเกล้าของเธอเปลี่ยนไปมาก ไม่ใช่แค่แว่นตาที่เขาสวม (ในหนังเหมือนจะไม่ใส่แว่นปะ?) แต่เขากลายเป็น Erudite ไปแล้วจริงๆ เขาชอบที่นี่เพราะที่นี่ “Information is free.” ตรงกันข้ามกับกลุ่มบ้านเกิดที่คนทั่วไปไม่มีสิทธิถามหรือรับรู้อะไรเลย
Tris ก็พยายามสะกิดพี่ชายว่าแต่ข้อมูลมันอาจจะเป็นข้อมูลเท็จก็ได้ แล้วก็ยกตัวอย่างข้อมูลที่ว่า Erudite ไม่อนุญาตให้ Abnegation เข้ามาเยี่ยมที่นี่ ข้อมูลนี้พี่รู้หรือเปล่าล่ะ เอ้อ
พอแยกกับ Caleb เธอก็โดนเรียกตัวไปพบ Jeanine แบบในหนัง ซึ่งตามหนังสือนั้น นี่ถือเป็นการพบปะแบบ officially ครั้งแรกของเธอกับ Jeanine และได้รู้ว่า Aptitude Test คือผลงานการคิดค้นของ Jeanine เอง
ส่วนสาเหตุที่ Jeanine ให้ลากตัว Tris มาก็เพราะต้องการทราบว่าทำไมผล Aptitude Test ของ Tris จึงออกมาผิดปกติ ดูไม่โปร่งใส แต่ Tris ก็โกหกเอาตัวรอดเนียนไปได้สวยๆ
พอกลับมาที่ Dauntless ตอนแรก Eric จะลงโทษที่ Tris ออกไปข้างนอกโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ Four มาช่วยแก้ต่างให้ บอกว่าเขาทำให้ Tris โกรธเรื่องที่เธอจะจูบเขาแต่เขาปฏิเสธ Tris เลยหนีเตลิดไป Eric ฟังแล้วก็ขำก๊ากแล้วยอมปล่อย Tris ไป
ผ่านด่าน Eric มาได้ Tris ในหนังสือยังได้รับข่าวดีที่ในหนังเขาไม่มีอีกหนึ่งข่าว นั่นก็คือ Will กับ Christina ตกลงปลงใจเป็นแฟนกันแล้ว Tris ดีใจกับเพื่อนมาก อยากจะเล่าเรื่องของตัวเองกับ Four ให้เพื่อนฟังบ้าง แต่ Four เตือนไว้ว่าถ้าคนอื่นรู้ คนจะหาว่าผลการทดสอบของ Tris ได้มาโดยพิศวาส
ซึ่งเราว่าประเด็นที่ Will กับ Christina อินเลิฟกันก็ค่อนข้างสำคัญนะ เพราะจะมีช่วงหลังที่ Tris จำเป็นต้องฆ่า Will ตายด้วย ซึ่งมันคงจะดราม่าดี ถ้าในภาคสอง Christina มารู้ทีหลังว่าเพื่อนรักฆ่าคนรักของเธอ
นอกจากนี้ในหนังสือ Tris กับ Christina ทำให้คนอ่านได้รู้เพิ่มอีกว่า faction อื่นๆ เขามีการเทรนและเทสต์เด็กใหม่ยังไงบ้าง เช่น ที่ Candor ก็จะเทสต์โดยการจับโกหก ส่วนที่ Abnegation ก็จะเทสต์โดยการให้เด็กๆ ทำ community service เป็นเวลา 1 เดือน
18. Final
ใน Final Test นั้น สรุปแล้ว Tris มีความกลัว 7 อย่าง ส่วนในหนังมีแค่ 5 อย่าง (น่าจะเพื่อประหยัดเวลาของหนัง) เธอทำได้ดีมาก ผลสรุปออกมา Tris ไม่ได้ติดแค่ 1 ใน 10 เท่านั้น หากแต่เป็นอันดับ 1 ชนะทุกคน แม้แต้ Uriah
ส่วน Peter, Will, และ Christina ก็ติดอันดับ Top 10 และได้อยู่ต่อเช่นกัน
ตอนที่ Dauntless ถูกฉีด serum แล้วกลายเป็นหุ่นยนต์ที่ถูกทีม Jeanine คอนโทรลนั้น สถานการณ์ในหนังสือจะต่างกับในหนังเล็กน้อย กล่าวคือ ในหนังสือ Four กับ Tris ถูกจับตัวไปให้ Jeanine แล้ว Jeanine ก็ล็อกเอา Four ไปทำการทดลองยาตัวใหม่ ส่วน Tris เพิ่งถูกยิงบาดเจ็บมา จึงอ่อนแอเกินกว่าจะมาใช้เป็นหนูทดลองได้ จึงถูกจับไปขังกรง แต่แม่ของเธอมาช่วยพาออกไป และส่งให้เธอไปหาพ่อกับพี่ชายที่ใต้ดิน
19. Mom’s Death
ในหนังแม่ของ Tris ถูกยิงตายแบบไม่ทันตั้งเนื้อตั้งตัว แต่ในหนังสือ คนดูจะได้รู้จักกับแม่ของ Tris ก่อนตายมากกว่านั้น Tris ได้รู้ว่าแม่เคยเป็น Dauntless มาก่อนจริงๆ ไม่ใช่แค่เพราะนางยิงปืนเป็น แต่ยังมีรอยสักใต้รักแร้ที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน ซึ่งแม่ก็ยอมรับ
แต่ไม่ใช่แค่นั้น แม่ยังบอกอีกว่า ที่รู้ว่า Tris เป็น Divergent ก็เพราะแม่ก็เป็น Divergent เช่นกัน (ข้อมูลสำคัญขนาดนี้ ทำไมหนังตัดทิ้งได้นะ!) ส่วนสาเหตุที่ตอนสาวๆ นางรอดมาได้เพราะแม่ของนาง (ยายของ Tris นั่นแหละ) เป็นผู้นำของ Dauntless ผู้ทรงอิทธิพล แม่ของนางเหยียบความจริงไว้ และสั่งให้นางไปหา faction ที่ปลอดภัยอยู่ และนางก็เลือก Abgenation
ส่วนพ่อของ Tris ก็ไม่ใช่ Abnegation โดยกำเนิดเช่นกัน เขาย้ายมาจาก Erudite และก่อนที่จะถูกยิงตาย พ่อพูดความในใจค้างไว้ ซึ่งเดาว่าคงจะเป็นการขอโทษลูกและบอกว่าเขาภูมิใจในตัวลูกนั่นแหละ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูด ตายก่อน แถมตายตอนอยู่กับ Tris สองคนอีก เออดราม่าดี (Caleb กับ Marcus เฝ้า Peter อยู่ข้างล่าง)
20. Final Scenes
การต่อสู้ระหว่าง Four (ซึ่งถูกฉีดยา ไม่รู้เนื้อรู้ตัว) กับ Tris ในไฟนอลซีน ฉากนี้ไม่มี Jeanine เหมือนในหนัง ก็เลยไม่ได้บู๊กระจายหรือมีอะไรให้ตื่นเต้นสะใจเวลาเราได้ดูตัวร้ายแพ้ยับเยินอย่างในจอ แถม Four ยังจำ Tris ได้ไวมาก ไม่บีบเค้นเท่าในหนังเท่าไร
ตอนจบในหนัง ผู้รอดชีวิตที่เหลือขึ้นรถไฟตามไปขอความช่วยเหลือกับ Amity (ซึ่งยังไม่แน่ใจว่าพวกเขาจะยินดีช่วยหรือไม่) โดย Four ยื่นมือไปช่วยพ่อของเขาให้กระโดดขึ้นรถไฟด้วย เพิ่มความเท่ให้พระเอกมากกว่าในหนังสือ เพราะในหนังสือเขาจะเย็นชากับพ่อมากกว่านี้ และ Tris ก็กีดกันไม่ให้ Marcus มายุ่งกับ Four ด้วย
และฉากสำคัญที่ในหนังตัดไปในตอนจบก็คือ ในหนังสือ Four บอกรัก Tris เป็นครั้งแรกบนรถไฟว่า “I might be in love with you.” แล้วก็จูบกันนานมาก จน Caleb ต้องกระเถิบหนี เออน่ารักดี จบ.
READ MORE:
40 comments