เราเป็นคนนึงที่โตมากับโลกเวทมนตร์ในหนังสือของ J.K. Rowling และหนัง Harry Potter ทุกภาค ตั้งแต่ภาค 1-2 ยังมีความใสใสตามสไตล์ผู้กำกับ Chris Columbus ก่อนจะมาเปลี่ยนอย่างก้าวกระโดดในภาค 3 ซึ่งกำกับโดย Alfonso Cuarón และดร็อปลงนิดหน่อยในภาคที่ 4 โดยผู้กำกับ Mike Newell อย่างไรก็ตาม David Yates ก็ได้เนรมิตโลก Harry Potter ภาคที่เหลือออกมาได้สนุกอย่างน่าอัศจรรย์ (ถึงแม้จะยังน้อยกว่าหนังสือนิยายอยู่ก็เถอะ)
ล่าสุด David Yates ผู้กุมบังเหียนหนัง Harry Potter ภาค 5, 6, 7.1, และ 7.2 ได้กลับมาสร้าง “จักรวาลโรว์ลิ่ง” (J.K. Rowling Universe) อีกครั้ง กับเรื่องราวประมาณ 70 ปีก่อนหน้าเรื่อง Harry Potter ที่เราคุ้นเคย เกี่ยวกับสัตว์วิเศษและการผจญภัยของ Newt Scamander ผู้เขียนหนังสือ Fantastic Beasts and Where to Find Them ซึ่งเป็นหนึ่งในตำราเรียนของนักเรียน Hogwarts School of Witchcraft and Wizardry
โดยภาพยนตร์ Fantastic Beasts and Where to Find Them นี้ เป็นผลงานการเขียนบทภาพยนตร์ครั้งแรกในชีวิตของ J.K. Rowling และโปรเจ็กต์นี้ตั้งเป้าไว้ว่าจะสร้างถึง 5 ภาค (ปี 2016, 2018, 2020, 2022, และ 2024 ตามลำดับ) เรียกได้ว่าชาวมักเกิ้ลต้องติดตามดูกันยันโตยันแก่กันเลยทีเดียว
เรื่องย่อ Fantastic Beasts and Where to Find Them ภาค 1
เหตุเกิดเมื่อปี 1926 ในยุคที่ Gellert Grindelwald (Johnny Depp จาก Pirates of the Caribbean) เรืองอำนาจและเป็นเจ้าแห่งเวทมนตร์ศาสตร์มืดก่อนคนที่คุณก็รู้ว่าใคร
Newt Scamander (พระเอกออสการ์ Eddie Redmayne จาก The Theory of Everything และ The Danish Girl) นักสัตว์วิเศษวิทยาชาวอังกฤษ (ภาษาอังกฤษ: Magizoologist) เดินทางมานิวยอร์ก อเมริกา แล้วเกิดสลับกระเป๋ากับ No-Maj (เป็นศัพท์อเมริกัน ความหมายเดียวกับ Muggle) ชื่อว่า Jacob Kowalski (Dan Fogler) จนเป็นเหตุให้สัตว์วิเศษในกระเป๋าเดินทางของเขาจำนวนหนึ่งหลุดออกไปสร้างความวุ่นวายในสังคมโนแมจ
นอกจากโนแมจ Jacob Kowalski แล้ว Newt Scamander ยังต้องรับมือกับมือปราบมารของ MACUSA – Magical Congress of the United States of America ตั้งแต่ระดับสูงอย่าง Percival Graves (Colin Farrell จาก The Lobster) ที่ตามจับตัว Obscurial และอดีตมือปราบมาร (ภาษาอังกฤษ: Auror) Tina Goldstein (Katherine Waterston จาก Steve Jobs) กับน้องสาวของเธอ Queenie (Alison Sudol) ซึ่งเป็นเสมียน
ทั้งยังมีกลุ่ม Second Salem หรือนักต่อต้านและล่าแม่มด นำโดย Mary Lou (Samantha Morton) และลูกเลี้ยงของเธอ Credence (Ezra Miller จาก The Perks of Being a Wallflower) อีกต่างหาก
รีวิว วิเคราะห์ วิจารณ์ Fantastic Beasts and Where to Find Them
เรื่องราวใน Harry Potter เกิดขึ้นที่อังกฤษหรือโซนยุโรป และส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นที่รอบ ๆ โรงเรียน Hogwarts หรือภาคหลัง ๆ อาจจะมีออกไปนอกโรงเรียนไกล ๆ บ้างแต่เรื่องราวส่วนใหญ่ก็เกิดขึ้นที่โลกพ่อมดแม่มดเท่านั้นอยู่ดี
ในขณะที่ Fantastic Beasts เรื่องราวเกิดขึ้นที่ฝั่งอเมริกา เวลาประมาณ 70-80 ปีก่อนหน้าเรื่องราวใน Harry Potter (ดังนั้นไม่ต้องมองหาตัวละครตัวโปรดจากหนัง Harry Potter ในหนังเรื่องนี้ให้เสียเวลา) โดยเกิดขึ้นในโลกจริง ๆ มีทั้งพวกคนธรรมดาและพวกพ่อมดแม่มดอยู่ในสังคมเดียวกัน
หน้าหนัง Fantastic Beasts เหมือนจะเป็นเรื่องของ Newt Scamander ตามจับสัตว์ที่หนีออกจากกระเป๋าไปกลับมาไว้ในกระเป๋าตามเดิม (อารมณ์คล้าย Jumanji กับ Goosebumps) แต่นั่นเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น หนังยังมีซับพล็อตอีกมากมายให้เราค้นหาติดตามจากตัวละครหลากหลายกลุ่ม
Fantastic Beasts ไม่ใช่แค่เต็มไปด้วยตัวละครวัยผู้ใหญ่วัยทำงาน แต่เนื้อหาเรื่องราวยังโตขึ้นกว่า Harry Potter ด้วย ทั้งสะท้อนความ contrast กันระหว่างบริติชกับอเมริกัน เช่น ระบอบกฎหมายและการปกครองที่ล้าหลังของอเมริกา อิทธิพลของสื่อสิ่งพิมพ์ในยุคนั้น สำเนียงบริติชที่ฟังยากกว่า หรือการใช้คำแตกต่างกันแต่ความหมายเดียวกัน เช่น ฝั่งอเมริกาเรียกผู้ไม่มีเวทมนตร์ว่า No-Maj ซึ่งย่อง่าย ๆ ตรงตัวมาจาก No Magic ไม่ได้สร้างสรรค์คำใหม่ให้ยุ่งยากเหมือน British English ที่เรียกผู้ไม่มีเวทมนตร์ว่า Muggle
ตัวละครแต่ละตัวมีเสน่ห์ คาแรกเตอร์ชัดเจนและหลากหลาย มีตั้งแต่คนรักสัตว์แต่เข้ากับคนไม่เก่งอย่างพระเอกของเรื่อง, ประธานสภาเวทมนตร์แห่งสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นสุภาพสตรีผิวสีชาวอเมริกัน-แอฟริกัน, ผู้หญิงที่อยากเป็นมือปราบมาร, จนถึงเด็กกำพร้าที่เกิดและโตมาในสถานรับเลี้ยงเด็ก ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีตัวละครเด็ก แต่เด็กก็ไม่ได้เป็นตัวละครใส ๆ โลกสวยของเรื่อง มีประเด็น Child Abuse สอดแทรกอยู่ด้วย
อีกอย่างที่ทำให้หนังดูโตขึ้นคือ ตัวละครทุกตัวต่างมีมิติ แม้กระทั่งตัวร้ายอย่าง Gellert Grindelwald ก็ไม่ได้ร้ายชนิดไม่ลืมหูลืมตา แต่เขาแค่มีอุดมการณ์ ความคิด และการลงมือทำที่สุดโต่ง หรือไม่ก็มีปูมหลังครอบครัวหรืออดีตที่ไม่โอเคที่บ่มเพาะเขาให้กลายเป็นคนอย่างนั้นอย่างนี้
ถึงแม้บท Newt Scamander ในเรื่องนี้จะไม่ค่อยมีโอกาสให้ Eddie Redmayne ได้โชว์ของ ปล่อยพลัง หรือใช้อินเนอร์เท่า The Theory of Everything หรือ The Danish Girl แต่ฝีมือการแสดงของเขาก็ยังไม่ทำให้ผิดหวัง เพียงแต่อาจโดน Dan Fogler โนแมจเพื่อนรักแย่งซีนไปแทบทั้งเรื่องก็เท่านั้นเอง ทั้งนี้ยังไม่นับ Queenie อีกคน สาวคนนี้ความสามารถพิเศษโดดเด่น เสื้อผ้าหน้าผมชวนจดจำ และสวยหยาดเยิ้มน่าหลงใหลจนบางครั้งเกือบลืมว่า Tina คือนางเอกตัวจริง
ไม่ใช่แค่ตัวบทของนักเขียนคนเก่ง J.K. Rowling ที่ดึงดูดพวกเราให้เสมือนเข้าไปสู่อีกโลกหนึ่งของเธอจริง ๆ เท่านั้น ต้องยกความดีความชอบให้ผู้กำกับ David Yates และทีมสเปเชียลเอฟเฟ็กต์เขาด้วยที่ช่วยเนรมิตตัวหนังสือและจินตนาการของ J.K. Rowling กลายเป็น Motion Picture ที่สนุกเกินคาด มหัศจรรย์อลังการกว่า Harry Potter ทุกภาคที่เคยมีมา
การันตีเลยว่า Fantastic Beasts ภาพสวยมาก ขนาดนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราเห็นพ่อมดแม่มดวาร์ป แต่เรายังรู้สึกตื่นเต้น Oh! Wow! Merlin’s Beard! ทุกช็อตที่ตัวละครในเรื่องนี้วาร์ป ยิ่งได้ดูใน IMAX 3D นี่เอ็ฟเฟ็กต์พุ่งทะลุเฟรม ความรู้สึกมันเหมือนมีคนมาร่ายเวทย์เสกคาถาต่อหน้าเราจริง ๆ รับรองแฟน ๆ ต้องฟินหนักมากแน่นอน
นอกจากนี้ คนรักสัตว์ทั้งหลายจะต้องร้องกรี๊ดให้กับความน่ารักของเจ้าสัตว์วิเศษทั้งหลายของ Newt Scamander ด้วยแน่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นเจ้า Niffler ขี้ขโมยกับเจ้าต้นไม้ Pickett ตัวจิ๋ว โดยเฉพาะฉากที่ Newt พาลงไปทัวร์ข้างในกระเป๋าของเขา เหมือนเราได้เข้าไปเดินเล่นอยู่ในสวนสัตว์ของอีกโลกโลกนึง…
เป็นกระเป๋าที่คนรักสัตว์แต่อยู่หออยู่คอนโดฯ อยากให้มันมีอยู่จริง…
สรุป
- J.K. Rowling กับ David Yates ประสบความสำเร็จในการขยายจักรวาลโรว์ลิ่งและต่อยอดไอเดียสุดบรรเจิดให้บรรเจิดได้สุด ๆ อย่างเหลือเชื่อ
- ถึงแม้เรื่องราวใน Fantastic Beasts จะโตขึ้นและแทบไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับ Harry Potter แต่ก็เป็นโลกเวทมนตร์ที่สนุกมาก เหมือนเราหลุดเข้าไปอยู่อีกโลกหนึ่งโดยสมบูรณ์แบบ ส่วนเอฟเฟ็กต์กับซีจีดีงามตามสมัยอยู่แล้วไม่ต้องสืบ ภาพสามมิติพุ่งมาก แนะนำ
- แต่ที่ชอบกว่า Harry Potter คือบทดีขึ้น ลงตัวขึ้น สนุกครบรส ตัวละครหลากหลาย คาแรกเตอร์ชัด และมีมิติ
- ฉากต่อสู้อาจมีไม่มากเพราะเป็นปฐมบท ต้องปูเรื่องเยอะหน่อย แต่เชื่อว่าภาคหน้า Gellert Grindelwald (Johnny Depp) มาเต็ม แถมจะมี Albus Dumbledore วัยหนุ่มมาปะทะด้วย เชื่อว่ามันต้องมัน(ส์)ได้อีกหลายเท่า!
คะแนนตามความชอบส่วนตัวสำหรับ Fantastic Beasts and Where to Find Them ภาค 1 ขอให้ที่ 8.5/10
Fantastic Beasts and Where to Find Them เข้าฉายแล้ว 17 พ.ย. 2016 ในโรงภาพยนตร์ทุกระบบ
ป.ล. เกลียดซับไทยในหลาย ๆ จุดมาก โดยเฉพาะตอนเสกคาถา แปลแย่มาก
อ่านเพิ่มเติม
- 30 ข้อที่คุณน่าจะรู้กันอยู่แล้ว เกี่ยวกับภาพยนตร์ ‘สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่’
- 7 ข้อควรรู้เกี่ยวกับภาพยนตร์ สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่
- เกร็ดเด็ดสะท้านจอ ก่อนไปตามสัตว์วิเศษกลับใน Fantastic Beasts and Where to Find Them
- สัตว์วิเศษในกระเป๋าเวทมนตร์ของ ‘นิวท์ สคาร์แมนเดอร์’
- สัตว์หิมพานต์และถิ่นที่อยู่
<div id=”SC_TBlock_184997″ class=”SC_TBlock”>loading…</div>
<script type=”text/javascript”>var SC_CId = “184997”,SC_Domain=”n.ads1-adnow.com”;SC_Start_184997=(new Date).getTime();</script>
<script type=”text/javascript” src=”http://st-n.ads1-adnow.com/js/adv_out.js”></script>
34 comments
Comments are closed.