10 สาวผู้ทรงอิทธิพลในโลกดิสโทเปีย
แต่เล็กจนโต เราคงคุ้นเคยกับการ์ตูนดิสนีย์ดังๆ หลายเรื่องที่มีตัวละครเพศหญิงเป็นทั้งตัวละครหลัก (Princesses) และตัวละครร้าย (Female Villians) เช่น Snow White, Cinderella, Sleeping Beauty, Tangled, The Wizard of Oz, The Little Mermaid, 101 Dalmatians, Alice in Wonderland, Frozen, Malificent ฯลฯ
นอกจากการ์ตูนเจ้าหญิงใสๆ เหล่านี้แล้ว ทุกวันนี้เรายังได้อ่านและได้ดูหนังแนว Dystopian ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงอีกหลายเรื่อง (ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหนังที่จำลองสังคมในอนาคต) ที่ไม่รู้ว่ามีคนสังเกตเหมือนเราหรือเปล่าว่า หนังเหล่านี้มักมีผู้หญิงเป็นตัวร้าย หรือไม่ก็เป็นตัวดำเนินเรื่องหลักที่มีคาแรกเตอร์ที่แข็งแกร่ง (Female Protagonists) ในทางใดทางหนึ่ง
โดยทั่วไปคุณลักษณะของสตรีถึกของประเภทหลังนี้ จะต้องเป็นพวกหัวต่อต้าน คิดการกบฏ เป็นผู้รอดชีวิต มีความพิเศษเหนือกว่าคนอื่นในชุมชน หรืออยู่ในบ่วงรักหลายเส้าตามประสาสาวแกร่งเลือกได้ (ซึ่งแน่นอนว่า ไม่ใช่แบบ Bella Swan ใน Twilight นะจ๊ะ)
ตัวละครเหล่านี้เป็นตัวแทนของเฟมินิสต์ (Feminists) ที่สร้างสรรค์ขึ้นโดยนักเขียนหรือคนทำหนังที่เป็นเฟมินิสต์ เพื่อลบภาพเดิมๆ ของผู้หญิงที่ต้องเป็นผู้ตามของพระเอก หรือปรากฏเป็นตัวดำเนินเรื่องแค่ในหนังรักโรแมนติกคอเมดี้เบาสมองเท่านั้น
“10 สาวผู้ทรงอิทธิพลในโลกดิสโทเปีย” จะมีใครบ้าง เรามาดูกันเลย (SPOILER)
ตัวเอก (Heroine)
1. Katniss Everdeen (Jennifer Lawrence) – The Hunger Games
เชื่อว่าแทบทุกคนคงจะคิดถึงผู้หญิงคนนี้เป็นคนแรกเช่นเดียวกับเรา เพราะ Katniss สาวน้อยผู้มากับไฟ คนนี้ คือผู้นำเทรนด์โลกโดยแท้จริง ทั้งผู้นำเทรนด์ Female Protagonists ในโลกจริง และผู้นำการกบฏล้มล้าง Capitol ในเรื่องด้วย
ชื่อเสียงของเธอเริ่มจากพิธีเก็บเกี่ยวของการแข่งขัน The Hunger Games ปีที่ 74 ที่เธออาสาเป็น tribute ของ District 12 แทนน้องสาวของเธอ และยังใช้ทริคหักหน้า Presedent Snow และพวก Gamemakers ทางอ้อมตอนท้ายเกมอีกต่างหาก
ความสามารถพิเศษของ Katniss คือการยิงธนู แถมยังมีหนุ่มหล่อให้เลือกถึงสองคน นั่นคือ Peeta กับ Gale นั่นเอง
2. Murph (Mackenzie Foy / Jessica Chastain/ Ellen Burstyn ตามลำดับรุ่น) – Interstellar
Murph เป็นลูกสาวคนเล็กที่แสนฉลาดของตระกูล Cooper ถ้าไม่มีมันสมองและความพยายามของเธอคนนี้ล่ะก็ Cooper (คนพ่อ) ก็อาจจะล้มเหลวในการช่วยรักษาเผ่าพันธุ์มนุษยชาติก็เป็นได้
ความโดดเด่นของ Murph คือเธอเป็นคนหัวดื้อ ใฝ่วิทยาศาสตร์ และมีพรสวรรค์มาตั้งแต่เด็กๆ ถึงแม้โรงเรียนจะไม่สนับสนุนให้เด็กขวนขวายในวิชาดังกล่าวแล้ว เธอก็ยังพยายามดั้นด้นจนประสบความสำเร็จในที่สุด
3. Beatrice “Tris” Prior (Shailene Woodley) – Divergent
ในยุคของหนังเรื่องนี้ มีการแบ่งกลุ่มอย่างชัดเจน ดั้งเดิมเธอเกิดในกลุ่ม Abnegation แต่พออายุ 16 ปี เธอค้นพบว่าเธอเป็น “Divergent” ซึ่งทางการถือเป็นกลุ่มบุคคลนอกรีต เธอต้องพยายามปิดบังความจริงนี้ไว้ พร้อมๆ กับเลือกทางเดินของตัวเองโดยการย้ายไปอยู่กลุ่ม Dauntless และตั้งชื่อเล่นให้ตัวเองใหม่ในชื่อที่ตัวเองชอบ (จาก Beatrice เป็น Tris)
อย่างไรก็ตาม Tris ต้องพยายามฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อจะดันให้ตัวเองผ่านการคัดเลือกเป็นสมาชิกกลุ่ม Dauntless อย่างเต็มตัว (ถ้าไม่ผ่าน เธอต้องกลายเป็นพวกเร่ร่อน เพราะมีกฎว่าบ้านเดิมก็กลับไปไม่ได้) และยังต้องต่อสู้กับพวกคอร์รัปชั่นที่พยายามจะครองเมืองและกำจัด Divergent อย่างเธอกับ Four คนรักของเธอ
โดยสรุป Tris เป็นตัวอย่างของผู้หญิงที่กล้าสู้เพื่อสิ่งที่ถูกต้อง กล้าเลือกในสิ่งที่เธอต้องการตัวเอง และไม่เคยยอมแพ้หรืออ่อนแอให้ใครเห็น
4. Alice (Milla Jovovich) – Resident Evil
ถ้าพูดถึงหนังดิสโทเปียที่เป็นเรื่องของโลกในอนาคต ก็อาจต้องโยงถึงหนังซอมบี้อีกหลายเรื่อง โดยเฉพาะ Resident Evil ที่มีสาวขาบู๊คนนี้เป็นมาสคอต ในเรื่อง Alice เป็นอดีตหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัย และเป็นหนูทดลองโปรเจ็กต์ต้านเชื้อไวรัสของบริษัท Umbrella Coropeartion ใน Raccoon City
ซึ่งต่อมา เราจะได้เห็นเธอฉายเดี่ยวสู้กับฝูงซอมบี้นานาพันธุ์ ภาคแล้วภาคเล่าแบบไม่รู้จบ (ซึ่งเราแอบหวังให้มันจบๆ ไปซะทีเถอะ)
5. Yona (Ah-sung Ko) – Snowpiercer
บทบาทของผู้หญิงในเรื่องนี้อาจไม่เด่นชัดเท่าเรื่องอื่นๆ แต่ Snowpiercer เป็นหนังที่เราอยากพูดถึงเวลาพูดถึงหนังแนวดิสโทเปีย เพราะเนื้อเรื่องเป็นยุคอนาคตที่โลกหนาวยะเยือกเหมือนกลับไปเป็นยุคน้ำแข็งอีกครั้งและทุกคนต้องใช้ชีวิตอยู่แต่ในรถไฟที่วิ่งไม่มีวันหยุด
ส่วนสาวเกาหลีคนนี้ ถึงแม้นางอาจจะไม่เป็นที่จดจำและดูค่อนข้างไร้ประโยชน์ในหนัง (แหงสิ ก็ทุกคนมัวแต่เชียร์พี่กัปตันอเมริกานี่~) แต่เราก็ขอพูดถึงนางสักหน่อย ในฐานะที่นางอุตส่าห์เป็นชะนีน้อยผู้รอดชีวิตหลุดออกจากขบวนรถไฟสายมรณะและไปเผชิญกับโลกภายนอกโบกี้ที่น้ำแข็งกำลังค่อยๆ เริ่มละลายแล้วในตอนจบของเรื่อง
ตัวร้าย (Villain)
1. Ava Paige (Patricia Clarkson) – The Maze Runner
หัวหน้าโครงการ WICKED ที่เป็นเบื้องหลังการทดลองส่งเด็กๆ ผู้ชายไปสุมรวมกันอยู่ในเขาวงกต นางอาจจะออกฉากน้อยไปสักหน่อยใน The Maze Runner ภาคแรก (นางใส่ชุดแล็บสีขาวหลอนอยู่ในความทรงจำของพระเอกตลอดเรื่องและมาโผล่ตัวเกือบเป็นๆ ในคลิปตอนท้ายของเรื่อง)
แต่เราก็ต้องรอลุ้นดูกันอีกทีว่าเธอจะมีบทบาทมากขึ้นและร้ายกาจมากขึ้นหรือไม่ใน The Scorch Trials หนังภาคต่อที่จะเข้าฉายประมาณ ก.ย. 2015
2. Jeanine Matthews (Kate Winslet) – Divergent
หัวหน้ากลุ่ม Erudite ที่มีอำนาจสูงทางการเมืองของประเทศ เธอต้องการปกครองประเทศแทนกลุ่ม Abnegation และยึดมั่นอุดมการณ์ว่าจะต้องกำจัดพวก Divergent อย่างพระเอกกับนางเอกให้สิ้นซาก ถึงแม้ว่าจะต้องใช้วิธีการสกปรกหรือแลกด้วยชีวิตคนบริสุทธิ์จำนวนมาก เธอก็ไม่แคร์
3. Chief Elder (Meryl Streep) – The Giver
เธอเป็นผู้นำของชุมชนในโลกอนาคต ชุมชนนั้นเป็นชุมชนที่ประชาชนทุกคนมีความเท่าเทียม มีหน้าที่ของตัวเอง ไม่มีความรู้สึก และมองเห็นทุกอย่างเป็นสีขาวดำ โดยมีเหล่า Elders อย่างเธอเป็นคนคอยควบคุมและกำหนดทุกอย่างในสังคมให้เป็นตามแบบอุดมคติ และพร้อมจะกำจัดพวกแปลกแยกอย่างไม่ปรานี
บทนี้แสดงโดย Meryl Streep เฟมินิสต์ตัวแม่แห่งวงการฮอลลีวูด
4. Mason (Tilda Swinton) – Snowpiercer
อย่างที่บอกไปตะกี๊ Snowpiercer เป็นหนังที่เราอยากพูดถึงเวลาพูดถึงหนังแนวดิสโทเปีย ดังนั้นจะขาดผู้หญิงคนนี้ไปไม่ได้เลย… รองผู้บังคับบัญชาการและโฆษกประจำขบวนรถไฟสายเผด็จการที่กดขี่ข่มเหงและโหดร้ายทารุณกับผู้ที่ฐานะต่ำต้อยกว่า
เป็นหนึ่งในตัวแทนของนางตัวร้ายที่ชอบแบ่งชนชั้นทางสังคมและยังเป็นกิ้งก่าเปลี่ยนสีง่ายอีกต่างหาก
5. President Alma Coin (Julianne Moore) – The Hunger Games: Mockingjay
หัวหน้าผู้ก่อการกบฎแห่ง District 13 คนนี้ เป็นตัวละครที่มีหลายมิติ กล่าวคือ จะว่าร้ายก็ไม่ร้ายซะทีเดียว จะว่าดีก็ไม่ได้ดีซะทีเดียว แต่ก็เป็นตัวละครที่มีความสำคัญในภาคจบของ The Hunger Games อย่างยิ่ง ซึ่งเราคงบอกอะไรเกี่ยวกับนางได้ไม่มาก นอกจากปล่อยให้เพื่อนๆ ไปพิสูจน์กันเองในโรงภาพยนตร์ ตั้งแต่ 20 พ.ย. 2014 นี้เป็นต้นไป
ทั้งหมดนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งของสตรีเพศผู้ขับเคลื่อนหรือควบคุมโลกดิสโทเปียในแผ่นฟิล์มที่ดังๆ ในช่วงนี้เท่านั้น ถ้าหากใครมีตัวหลักหรือตัวร้ายที่เป็นผู้หญิงจากหนังเรื่องไหนอีก ก็เสนอแนะเพิ่มเติมมาได้เลยนะคะ ^^
43 comments