เราต่างท่องจำกันมาแต่เล็กว่า Neil Armstrong คือมนุษย์คนแรกที่เหยียบดวงจันทร์ พร้อมกับยาน Apollo 11 เมื่อปี 1969 แต่เกือบครึ่งศตวรรษมานี้ เราแทบไม่รู้อะไรเพิ่มเติมมากนักเกี่ยวกับมิชชั่นและความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่นี้ของอเมริกา
การทำหนังเกี่ยวกับภารกิจชื่อดังกระฉ่อนโลกนี้ จึงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เมื่อผู้กำกับมือรางวัลออสการ์ Damien Chazelle (จาก Whiplash และ La La Land) ได้มากำกับหนัง First Man ร่วมกับนักเขียนบทออสการ์อย่าง Josh Singer (จาก Spotlight และ The Post) เขากลับทำออกมาได้ดีกว่าที่คนดูปุถุชนอย่างเราคาดคิดไว้ก่อนเข้าโรง
First Man สร้างจากหนังสือ First Man: The Life of Neil A. Armstrong ของนักประวัติศาสตร์ James R. Hansen ทั้งตัวหนังสือและตัวหนังโฟกัสที่ตัวของ Neil Armstrong และความเป็นมนุษย์ของเขา ไม่ได้โฟกัสที่ตัวภารกิจ การเดินทางบนอวกาศ หรือความไซไฟหนังอวกาศอย่างที่เราคุ้นเคยสำหรับหนังที่เล่าเรื่องใกล้เคียงกัน ซึ่งถือเป็นมุมมองและมิติใหม่ของการดูหนังสำรวจอวกาศสำหรับคนดูอย่างเราเช่นกัน
หนังพาเราไปสำรวจจิตใจของ Neil Armstrong (Ryan Gosling ผู้เข้าชิงออสการ์จาก La La Land) วิศวกร นักบิน สามี และคุณพ่อที่เพิ่งสูญเสียลูกสาวคนเล็กเพราะโรคร้าย ซึ่งตัดสินใจเริ่มต้นชีวิตใหม่โดยการไปสมัครเป็นนักบินอวกาศนาซ่า พอได้เข้าไปเป็นนักบินอวกาศแล้ว เขายังต้องสูญเสียเพื่อนร่วมงานอีกเรื่อย ๆ เพราะมันเป็นอาชีพที่เสี่ยง กดดัน และโปรเจ็กต์อวกาศ ณ ตอนนั้นถือว่ายังเป็นเรื่องใหม่และอยู่ในขั้นทดลองลองผิดลองถูกสำหรับมนุษยชาติ
Neil Armstrong เป็นคนที่ดูนิ่ง ๆ เก็บตัว มีอะไรแล้วไม่ค่อยแสดงออก ไม่ค่อยพูดหรือระบายกับใคร แต่เวลาทำงาน เขาก็ค่อนข้างแยกแยะและเป็นโปรเฟสชันนัล มีแต่ภรรยาของเขา Janet (Claire Foy นักแสดงลูกโลกทองคำจาก The Crown) ที่ต้องกระวนกระวาย ทุกข์ร้อน และดูแลบ้านอย่างไม่เป็นสุขในทุกทุกวันที่ Neil ออกไปทำงาน
ด้วยความที่เขาเป็นคนเงียบ ๆ เข้าถึงยากตามที่กล่าวไปข้างต้น ดังนั้น จนจบเรื่องแล้ว เราจึงอาจจะไม่ได้รู้จัก Neil Armstrong แบบเจาะลึกมากนักอย่างที่คาดหวัง แต่เราจะได้ประสบการณ์การดูหนังแนวนี้ในแบบที่เราไม่เคยดูมาก่อน ซึ่งนั่นก็เกินความคาดหวังพอสมควร เราจะได้รู้สึกอะไรหลาย ๆ อย่างเหมือนที่ตัวละครหลักกำลังรู้สึก ณ ขณะนั้น ทั้งนี้ก็ต้องให้เครดิตกับการแสดงของ Ryan Gosling และ Claire Foy เขาด้วยเต็ม ๆ
ในฐานะคนดู ถึงแม้ว่าเราจะรู้ดีอยู่แล้วว่าสุดท้ายคนที่ได้รับเลือกให้ไปดวงจันทร์คนแรกคือ Neil และเขาก็สามารถบินกลับมาได้อย่างปลอดภัย แต่หนังก็สร้างบรรยากาศให้เราได้ลุ้น เครียด กดดัน และหวาดกลัวเช่นเดียวกับตัวละครราวกับเรากำลังอยู่ในเหตุการณ์นั้น ๆ หนังพาเราไปอยู่ในสถานการณ์เสมือนเรากำลังนั่งอยู่บนเบาะตัวเดียวกับตัวละคร ทั้งภาพ เสียง และแรงสั่นสะเทือน มันทำให้เรารู้สึกเวียนหัว จะอ้วก และอินไปกับมันจริง ๆ
First Man ได้ขึ้นแท่นหนังอวกาศในใจเราเรียบร้อย และแนะนำว่าเป็นหนังดีที่แตกต่างจริง ๆ ทั้งนี้ทั้งนั้น เราไม่แนะนำให้ดู 4DX เพราะตอนอยู่ในยาน มันเวียนหัวแรงมาก และมีมากกว่า 1 ครั้ง (เพราะมันต้องมีการเทรน การทดลองบิน ฯลฯ) ซึ่งเราจะรู้สึกถึงความสั่นสะเทือนอยู่แล้วโดยไม่จำเป็นต้องดูโรง 4DX
โรงที่เราแนะนำคือโรง IMAX เพราะหนังเรื่องนี้งานสกอร์และซาวนด์แทร็ก (เสียงและเพลง) เขาทำมาโดดเด่นมาก ๆ ไม่เสียชื่อผู้กำกับ Whiplash และ La La Land และอีกอย่างคือ ฉากบนดวงจันทร์เขาถ่ายทำด้วยกล้อง IMAX 70mm ซึ่งผลลัพธ์มันออกมา Wow! จริง ๆ
คะแนนตามความชอบส่วนตัว
37 comments
Comments are closed.