Good Boys เป็นหนังที่แสดงนำโดยเด็ก ๆ ที่อายุเฉลี่ยไม่น่าจะถึง 12 ปี แต่ไม่ได้ทำมาเพื่อเด็ก ๆ ที่อายุต่ำกว่า 18 ดู และผู้ใหญ่ที่อายุมากกว่า 18 เอง ก็น่าจะ enjoy กับหนังที่มีแต่เด็ก ๆ แสดงนำนี้ได้ไม่ยาก โดยเฉพาะถ้าคุณเคยถูกใจให้กับหนังคอเมดี้สัปดนอย่าง Long Shot, Blockers, Sausage Party ฯลฯ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่มาดู Good Boys
Good Boys เป็นเรื่องของแก๊ง Bean Bag Boys ประกอบด้วยเด็กชาย ป.6 สามคนสามสไตล์ ได้แก่ Max (Jacob Tremblay จาก Room และ Wonder), Thor (Brady Noon), และ Lucas (Keith L. Williams) ที่แต่ละคนก็จะมีประเด็นของตัวเอง
Max อยากไปปาร์ตี้กับแก๊งเด็กป๊อปปูลาร์ เพราะ Brixlie (Millie Davis) เด็กสาวในคลาสที่เขาแอบหลงรัก ก็จะไปงานนี้ด้วย เขาจึงต้องหาทางเรียนรู้วิธีการจูบและจูบให้เป็นก่อนไปงาน / Thor มีพรสวรรค์ด้านการร้องเพลง แต่ไม่ไปออดิชั่น เพราะเขาอยากดูเก๋า อยากดูเจ๋ง อยากได้รับการยอมรับจากคนในแก๊งคูล ๆ ถึงกับยอมซดเบียร์ (จริง ๆ ก็คือแค่ “จิบ” อะนะ) เพื่อโชว์ว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่แล้ว และเข้ากับแก๊งนั้นได้ / ส่วน Lucas เป็นเด็กดีของพ่อแม่ จิตใจดีงาม โกหกใครไม่เป็น และรักเพื่อน แต่มีปมว่า พ่อแม่กำลังจะหย่าและแยกบ้านกัน ซึ่งเด็กโลกสวยอย่างเขานั้นยากจะยอมรับความจริงได้
ตัวเดินเรื่องหลัก ๆ ก็คือ Max เมื่อ Max อยากจะไปงานปาร์ตี้ และอยากจะเรียนรู้วิธีการจูบ จนถึงต้องแอบเอาโดรนของพ่อบินไปส่องเพื่อนบ้านสาวแซ่บ Hannah (Molly Gordon) จูบกับแฟนหนุ่ม แต่โดรนของเขาถูก Hannah กับเพื่อนสาว Lily (Midori Francis) จับได้เสียก่อน เด็ก ๆ จึงต้องพยายามไปเอาโดรนคืนก่อนที่พ่อจะกลับมา
หนังมันก็จะมีความไร้เดียงสา เช่น การไม่รู้จัก sex toys และการพยายามรีบโตเป็นผู้ใหญ่ (หรือคิดว่าตัวเองโตแล้ว) ของเด็กน้อยผู้น่ารักให้เราได้อมยิ้มและหัวเราะให้ตลอดเรื่อง ปัญหาของเด็กน้อยที่เรามองว่าเป็นเรื่องจุ๋มจิ๋มแต่มันเป็นเรื่องใหญ่โตโลกแตกมากสำหรับพวกเขา มันคือความน่ารักที่เราต้องยอม เด็กอะเนาะ ทำอะไรมันก็น่ารัก (หรอ???)
ถ้ากำลังมองหาหนังคลายเครียด เรื่องนี้ตอบโจทย์มาก ๆ มุกจกเปรตของเค้ามันสร้างสรรค์และลั่นทุกมุกจริง ๆ นะ บรรยากาศในโรงรอบสื่อคือทุกคนขำกันจริงจัง แทบไม่ได้หยุดขำ จนกรามแทบค้าง เพราะหนังเค้าจังหวะดี บทดี และถึงแม้จะตั้งใจทำมาให้เป็นหนังฮา แต่ลึก ๆ เค้ามีสาระ และปิดท้ายในโหมดซึ้ง ๆ กับประเด็น Coming-of-age ของเด็กอายุ 12 อย่างสวย ๆ
หนังทำให้เรานึกถึงเพื่อนในวัยเด็กที่เคยทำอะไรบ้า ๆ บอ ๆ มาด้วยกัน ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นเพื่อนแถวบ้าน หรือเพื่อนร่วมชั้นเรียน ถึงแม้ปัจจุบันจะไม่ได้ติดต่อกันแล้วหรือทำให้ไม่ได้เจอกันบ่อย ๆ ทุกวัน ๆ เหมือนแต่ก่อน แต่ในบางที เราก็ยังคงนึกถึงกัน และวนเวียนไปเจอกันบ้างตามโอกาสสำคัญของชีวิต เช่น งานแต่งงาน หรืองานรับปริญญา ทั้งนี้เพราะด้วยหน้าที่การงาน ความรับผิดชอบ และไลฟ์สไตล์หรือการดำเนินชีวิตที่แตกต่างกันไปของแต่ละคน
จริง ๆ ถ้าไม่นับเรื่องมุกเรท R หนังสอนเด็กได้ดีเลย เพราะเด็ก ๆ หลายคนจะอยากรีบโตเป็นผู้ใหญ่ก่อนวัยอันควร และจะอินกับเรื่องเพื่อนมาก ประมาณว่าชีวิตนี้มีแต่เพื่อน ติดเพื่อน รักเพื่อน เพื่อนสำคัญที่สุด หรือกระทั่งอยากเป็นเพื่อนกับคนนั้นคนนี้เพียงเพราะอยากดูคูลทั้งที่จริง ๆ มันอาจจะไม่ใช่ตัวเองเอาเสียเลย ซึ่งหนังก็จะสอนให้เด็กเติบโต เป็นตัวของตัวเอง รวมถึงเข้าใจความหมายของคำว่าเพื่อน มิตรภาพ และสังคมที่ควรจะอยู่ควรจะเป็น
คะแนนตามความชอบส่วนตัว 7.5/10 (แต่ถ้าเอาเฉพาะความฮาความบันเทิง นี่ให้ 10/10)
64 comments
Comments are closed.