“Help me get one more,”
ถ้าถามเด็กรุ่นหลังถึง Mel Gibson บางคนอาจจะไม่รู้จักเขา หรือบางคนอาจจะรู้จักในเชิงเคยได้ยินชื่อ ไม่ค่อยมีคนเคยดูหนังที่เขาเล่นเป็นพระเอกสักเท่าไหร่ แต่หากลองไปถามคนรุ่นพ่อรุ่นแม่ของเราเกี่ยวกับพระเอกชื่อดังจากฝั่งฮอลลีวู้ด เรามั่นใจว่าจะต้องมีชื่อ Mel Gibson รวมอยู่ด้วยแน่นอน เพราะเขาดังมากจากเรื่อง Mad Max (1979), Braveheart (1995), The Patriot (2000) ฯลฯ
Braveheart ไม่ได้สร้างชื่อให้ Mel Gibson แต่เพียงฐานะนักแสดงนำเท่านั้น เพราะเรื่องนี้เขานั่งแท่นเป็นผู้กำกับเอง ซึ่ง Braveheart ได้ออสการ์ถึง 5 สาขา (จากการเข้าชิง 10 สาขา) หนึ่งในนั้นคือรางวัลสำคัญอย่าง กำกับยอดเยี่ยม และ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งปี ด้วยนั่นเอง
ปีนี้ Mel Gibson ในวัย 61 ปี กลับมาเก๋าอีกครั้งกับการกำกับภาพยนตร์เรื่อง Hacksaw Ridge ซึ่งสร้างจากเรื่องจริงของ Desmond Doss วีรบุรุษจากสงครามโลกครั้งที่สอง ทหารผู้ได้รับเหรียญกล้าหาญทั้งที่เขาไม่ได้ถือปืนและไม่ได้ฆ่าศัตรูเลยสักศพ
เรื่องย่อ Hacksaw Ridge
Desmond Doss (Andrew Garfield จาก The Social Network, The Amazing Spider-Man) กับน้องชายของเขา Hal (Nathaniel Buzolic) อาสาไปรบ ทั้งที่ Tom (Hugo Weaving จาก Captain America) และ Bertha (Rachel Griffiths จาก Hilary and Jackie) พ่อแม่ของพวกเขาไม่เห็นด้วย ก่อนไปรบ Desmond หมั้นกับ Dorothy (Teresa Palmer จาก Lights Out) แฟนสาวของเขาซึ่งเป็นพยาบาล
Desmond เคร่งศาสนาและศรัทธาพระเจ้าอย่างแรงกล้า เขาต้องการเป็นแพทย์สนามและไม่จับปืนหรืออาวุธใดใดฆ่าใครเป็นอันขาด ทำให้ในช่วงฝึก เขามีปัญหากับครูฝึกอย่าง Sergeant Howell (Vince Vaughn จาก The Internship) และ Captain Glover (Sam Worthington จาก Avatar) รวมถึงเพื่อน ๆ ในกอง เช่น Smitty Ryker (Luke Bracey จาก Point Break)
แต่ ณ สนามรบที่ Hacksaw Ridge ประเทศญี่ปุ่น Desmond ได้ช่วยชีวิตเพื่อนทหารด้วยกันไว้มากมาย พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นว่า… เขาไม่ได้อ่อนแอ และเขาก็รักชาติไม่น้อยกว่าใคร
รีวิว วิเคราะห์ วิจารณ์ Hacksaw Ridge
ใครที่คิดว่าหนังรางวัลต้องน่าเบื่อหรือดูยากนั้นไม่ต้องกลัวเลย เพราะ Hacksaw Ridge ทำได้ดีงามหมดทั้งฉากดราม่าและฉากสงคราม โดยเฉพาะฉากสงครามนี่เรารับประกันเลยว่าคนดูทั่วไปต้องชอบและดูสนุกแน่นอน ฉากแอ็คชั่นเต็มอิ่มมาก มันมันและกระหึ่มสะใจ ทุกอย่างมันเรียลมากทั้งภาพทั้งเสียง เหมือนเราเข้าไปรบอยู่กับตัวละครด้วยจริง ๆ โคตรเครียด อึดอัด น่ากลัว เพราะเลือดเป็นเลือด เนื้อเป็นเนื้อ ไส้เป็นไส้
อย่างไรก็ดี สำหรับในยุคนี้ Hacksaw Ridge ถือเป็นหนังปี 2017 ที่มีความเชยอยู่ไม่น้อย ทั้งสไตล์การถ่ายภาพ เล่าเรื่อง และแนวคิดเกี่ยวกับศาสนากับเชื้อชาติ (อเมริกันจ๋าาาา) ผนวกกับปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ยิ่งรวมถึงศักยภาพของคู่แข่งในปีนี้ด้วยแล้ว… Hacksaw Ridge จึงไม่น่าจะได้ออสการ์สาขา BEST PICTURE ที่เขาเข้าชิง
ส่วนของศาสนาซึ่งเป็นหนึ่งในแก่นของเรื่องนั้น บอกตรง ๆ ว่า เราอยู่ในเมืองพุทธและชีวิตประจำวันเราก็ไม่ค่อยขึ้นอยู่กับศาสนาแล้ว เราจึงไม่ค่อยอินในส่วนของศาสนาเท่าไหร่ คือไม่เข้าใจว่าทำไมพระเอกต้องอินกับพระเจ้าขนาดนั้น นี่มันสงครามนะ เขาจะฆ่ามึงนะ มึงจะดื้อด้านไม่ใช้ปืนจริง ๆ หรอ บลาๆๆ แต่สุดท้ายเราจะเข้าใจพระเอกนะ อย่างน้อยเราก็ไม่บังคับให้เขาเปลี่ยนแปลงอุดมการณ์หรือให้เขาทำอะไรที่ขัดต่อความเชื่อความศรัทธาของเขาหรอก
พูดถึง Andrew Garfield … ถึงแม้เขาจะแสดงหนังดราม่าได้ดีเหนือความคาดหมายของคนดูที่มีต่อเขาในตอนแรก แต่โดยรวมแล้ว ยังไม่น่าจะสู้ Casey Affleck จาก Manchester by the Sea และนักแสดงมากประสบการณ์คนอื่น ๆ ที่เข้าชิงสาขา BEST ACTOR เช่นเดียวกับเขาได้ (ไว้มาลุ้นใหม่ปีหน้า ๆ ละกัน)
สารภาพว่า ช่วงแรกของหนัง เรารู้สึกว่าหนังเอื่อย เมื่อไหร่จะไปรบสักที แล้ว Andrew Garfield ก็ไม่เห็นมีของอะไรเลย ดูเหมือนเด็กสไปดี้คนเดิมมาก เข้าชิงออสการ์ได้ยังไง… แต่พอดูไปอีกหน่อย จนถึงจบเรื่อง เราเข้าใจเลยว่า ทำไมหนังต้องปูเรื่องตอนแรกเยอะ ทำไมต้องให้คนดูเห็น Desmond Doss คนนี้ตั้งแต่ยังใส ๆ ก่อนไปรบ…
มันทำให้เราเห็นความแตกต่างของชายคนหนึ่งระหว่างก่อนไปรบและหลังไปรบ ทำให้เห็นว่าความโหดร้ายและความสูญเสียที่คนคนนึงพบเจอจากการฝึกซ้อมทหารและศึกสงครามทำให้คนคนนั้นเปลี่ยนแปลงไปขนาดไหน ซึ่ง Andrew Garfield ถ่ายทอดถึง “ความเปลี่ยนแปลง” จุดจุดนี้ของ Desmond ได้อย่างยอดเยี่ยมระดับมืออาชีพ
นอกจากนี้ หนังยังทำให้ทั้งคนดูและตัว Desmond เอง เข้าใจพ่อของเขา… ผู้ซึ่งผ่านสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง… อีกด้วยว่า ทำไมเขาถึงเป็นพ่อที่โหดร้าย ขี้เมา ใช้ความรุนแรงกับลูกเมีย และชาวบ้านมองเขาเป็นตัวประหลาด… สงครามมีแต่ทำให้ชีวิตของคนคนนึงแย่ลง มิหนำซ้ำ หลังจากแจกเหรียญกล้าหาญให้ทหารผู้รอดและทำพิธีศพให้ทหารผู้ตายแล้ว ทางการก็แทบไม่ไยดีพวกเขาอีกเลย
ซึ่งการแสดงของ Hugo Weaving ผู้เล่นเป็นพ่อของ Desmond ในเรื่องนี้ ก็น่าจดจำอย่างที่เราก็จำเขาได้ฝังใจจากสารพัดคาแรกเตอร์ตัวร้ายในเรื่อง Cloud Atlas (2012) เสียดายที่บทไม่ได้เน้นให้เขาเพียงพอที่จะได้เข้าชิง BEST SUPPORTING ACTOR
แต่โดยรวมเราชอบและเชียร์ให้ทุกคน… ทั้งคอหนังรางวัลและคอหนังแอ็คชั่นทั่วไป… ไปดู Hacksaw Ridge เพื่อไปดูและปรับทัศนคติใหม่ว่า “ฮีโร่” ที่แท้จริงมันเป็นอย่างไร “ความกล้า” อีกมิติหนึ่งมันเป็นอย่างไร
เพราะเราโตมาในยุคที่เต็มไปด้วยซูเปอร์ฮีโร่ที่มีพลังพิเศษเหนือมนุษย์มากมาย โดยที่บางครั้งก็เกิดภาพจำและความเข้าใจผิด ๆ ไปบ้างสำหรับนิยามของคำว่า “ฮีโร่” หรือต่อให้เกิดมาในยุคสงคราม เราก็นึกถึงคนที่ฆ่าศัตรูได้เยอะที่สุดหรือคนที่ทำให้ศัตรูยกธงขาวยอมศิโรราบได้
แต่ Hacksaw Ridge นำเสนอวีรบุรุษสงครามในนิยามใหม่ให้เรา ฮีโร่ที่เป็นฮีโร่จากจำนวนของคนที่เขาช่วยชีวิตไว้อย่างแท้จริง ฮีโร่ที่มี “ความกล้าที่แตกต่าง” และ “ความกล้าที่จะแตกต่าง” จากทหารกล้าคนอื่น ๆ ในสมรภูมิ (ฉากพระเอกแบกเพื่อนกลางสมรภูมินี่ซึ้งมาก เหมือนรู้สึกแบบนี้ครั้งสุดท้ายก็ตอนดู Forrest Gump นู่น)
เรายังไม่เคยดู Saving Private Ryan ของ Steven Spielberg และหนังสงครามในตำนานอีกหลาย ๆ เรื่อง แต่เราการันตีได้ว่า Hacksaw Ridge เป็นหนึ่งในหนังสงครามโลกครั้งที่สองที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งแห่งยุค แน่ ๆ
Hacksaw Ridge เข้าชิงออสการ์ 6 สาขา ได้แก่ Best Motion Picture, Best Performance by an Actor in a Leading Role, Best Achievement in Directing, Best Achievement in Film Editing, Best Achievement in Sound Mixing, และ Best Achievement in Sound Editing
คะแนนตามความชอบส่วนตัว 8.5/10
เข้าฉาย 9 ก.พ. 2017 ในโรงภาพยนตร์
“Most of these men don’t believe the same way you do, but they believe so much in how much you believe,”
48 comments
Comments are closed.