รีวิว Hitman: Agent 47

ก่อนเข้าโรงไม่กี่ชั่วโมง เราเพิ่งรู้ว่า Hitman: Agent 47 เป็นหนังที่สร้างมาจากเกม

เพื่อนเราเคยบอกว่า “อย่าคาดหวังกับหนังที่สร้างมาจากเกม” เราไม่ใช่คนเล่นเกม ก็ไม่ค่อยรู้จักกับเขาหรอกว่าหนังเรื่องไหนบ้างที่สร้างมาจากเกม เท่าที่รู้ก็นึกออกแต่ Resident Evil ซึ่งในมุมมองของคนที่ไม่เคยเล่นเกมของมัน เราว่าตัวหนัง (ภาคแรกๆ) มันก็สนุกแฟนซีดีออก แต่เนื้อหาสาระไม่ค่อยจะมีอะไร โดยเฉพาะภาคหลังๆ บทเริ่มกลวงลงๆ (แต่มิวาย เห็นเขาว่าล่าสุดนางมีภาคใหม่ต่อแล้วจ้าาาา)

เอาล่ะสิ… ถ้า Hitman: Agent 47 เป็นหนังที่สร้างจากเกมอย่างนั้น เราต้อง “ไม่คาดหวัง” อะไรกับมันแล้วสินะ เอาเป็นว่า เข้าไปดูเอาชิลๆ เพราะตัวบทคงไม่มีแก่นสารอะไรเป็นแน่แท้ ทำใจ…

เรื่องย่อ Hitman: Agent 47

Agent 47 (Rupert Friend จาก Homeland) ได้รับมิชชั่นจาก Diana (Angelababy) ให้ตามหา Katia (Hannah Ware จาก Oldboy) กับ Dr. Litvenko (Ciarán Hinds จาก Munich) ให้เจอก่อนที่ John Smith (Zachary Quinto จาก Star Trek) ลูกน้องของ Le Clerq (Thomas Kretschmann จาก King Kong, Wanted) แห่งองค์กร The Syndicate จะเจอก่อน (เออ ว่าแต่ทำไมต้องตั้งชื่อองค์กรเดียวกับ MI5 เด๊ะๆ – -)

จบ. // ชอบเวลาเขียนเรื่องย่อหนังแอ็คชั่นก็ตรงนี้แหละ สั้นดี …

รีวิว วิเคราะห์ วิจารณ์ Hitman: Agent 47

เป็นไปตามคาด หนังที่สร้างมาจากเกมอย่าง Hitman: Agent 47 นั้นช่างเขียนเรื่องย่อได้ง่ายและเขียนรีวิวได้ง่าย เพราะเนื้อหาสาระในตัวบทนั้นแทบไม่มีอะไรเลย (ตามที่เห็นข้างต้น เรื่องย่อ 3 บรรทัดจบ)

โดยรวม Hitman: Agent 47 ก็เหมือนหนังสายลับ/นักฆ่าทั่วไปที่มีภารกิจต้องทำเป็นซีซั่นๆ แต่ killing machines ในเรื่องนี้จะค่อนไปทาง X-Men หน่อยๆ ภารกิจของพระเอกใน Hitman: Agent 47 ก็ไม่ได้ออกมาสเกลใหญ่อะไร จะว่าไปก็คล้ายๆ กับ Terminator นั่นแล ที่ส่งคน skillful ไปช่วงชิง/ช่วยเหลือสตรีผู้ทรงอิทธิพลนางหนึ่ง ก่อนที่ตัวร้ายจะถึงตัวนางได้เสียก่อน

จุดที่อ่อนด้อยที่สุดของ Hitman: Agent 47 คือบทที่กลวง ไม่สมเหตุสมผล คาดเดาได้ง่าย และการดำเนินเรื่องที่ค่อนข้างนิ่งๆ เนิบๆ ประเด็นดราม่าและข้อคิดดึงสติที่พยายามยัดเยียดเข้ามา ก็ไม่สมูธสักเท่าไหร่ ดูแล้วขัดอกขัดใจเบาๆ

อย่างไรก็ตาม ยังดีที่หนังมันไม่น่าเบื่อตลอดทั้ง 90 นาที เพราะฉากบู๊แอ็คชั่นเขาก็ออกแบบทั้งภาพและเสียงออกมาได้ไม่เลวเลยทีเดียว อาจจะไม่ได้สดใหม่อะไรมาก แต่สำหรับเรา เรามองว่า “สวยดี” หลายฉากก็ดูคลาสสิคดี ไม่ได้แย่อะไรขนาดนั้น เทคโนโลยีในหนังก็เว่อร์วังดี ฉากยิงราฆ่าฟันก็เลือดสาดสะใจดีด้วย เอาเป็นว่า ฉากบู๊คือดูเพลินๆ ได้ดีทีเดียวเชียวแหละ

ในส่วนของตัวละคร บท Agent 47 นั้น ตอนแรกจะตกเป็นของ Paul Walker (แห่ง Fast & Furious) แต่ Paul เสียชีวิตเสียก่อน บทดังกล่าวเลยตกมาเป็นของ Rupert Friend เราเองก็ไม่เคยเห็นคาแรกเตอร์ของพระเอกในเกม แต่เท่าที่เห็นในจอภาพยนตร์ Rupert Friend ก็เป็นสายลับที่เท่ดีไม่หยอก บางมุมคล้ายๆ Legolas +  Michael Scofield เลย

แต่ที่เท่ที่สุดในเรื่อง สำหรับเรา กลับไม่ใช่พระเอกนะ สิ่งที่เด่นทะลุจอที่สุดคือ รถยนต์ Audi นานาสี นานาคัน โดยเฉพาะ Audi RS7 สีแดงสดที่พระเอกขับในสิงคโปร์ คือสวยเท่เฉี่ยวมาก ฉากพรีเซนต์รถ Audi นี่ถือว่าทำออกมาได้น่าซื้อน่าใช้ ไม่แพ้ tie-in รถ BMW ใน Mission Impossible เลยนะจะบอกให้ (สรุป นี่มาขายหนัง หรือมาขายรถ?)

แล้วนอกจากจะขายรถแล้ว หนังยังนำเสนอประเทศสิงคโปร์ดีมาก ดียิ่งกว่าแคมเปญโปรโมตการท่องเที่ยวจริงๆ ของประเทศเขาอีกกระมัง คือหนังพาทัวร์ Tourist Attractions สวยๆ ดังๆ แทบครบทั้งเกาะ พาทัวร์ Garden by the Bay ชนิดที่ว่าคนดูจะได้ชมกิ่งก้านใบของ Supertree Grove ชัดแจ้งยิ่งกว่าเสียตังค์ขึ้นลิฟต์ขึ้นไปเดินดูเอง (เพราะในหนัง แทบไม่มีทัวร์จีน และมหาชนนักท่องเที่ยวเลยค่าาาา เวรี่อะเมซิ่งสิงคโปร์…) อย่างฉากนางเอกว่ายน้ำในสระโรงแรมนี่มีทำไม เอาจริง ยังมองไม่เห็นพอยต์ – –

ส่วนนางเอก ที่หนังพยายามสร้างให้เป็น Female Protagonist ตามสมัยแบบหนังหลายๆ เรื่องในยุค เรารู้สึกว่าบทของ Katia ยังไม่เช้งกระเด๊ะ ไม่น่าจดจำ และไม่สามารถดัน Hannah Ware ให้แจ้งเกิดได้แต่อย่างใด ทั้งๆ ที่หนังก็พยายามใส่ความสำคัญและแอดสกิลให้นางเป็นอย่างสูงเว่อร์วังแล้วก็ตาม (ตรงกันข้ามกับเจ๊ Rebecca Ferguson ใน MI5 ยิ่งนัก)

แต่ Angelababy หรือซือเจ๊ Diana อาหมวยบิ๊กบอสของพระเอกก็สวยสะดุดตา พอไปวัดไปวาได้นะ (สวยกว่านางเอกอีก เราว่า) เสียดายที่ทั้งเรื่องได้ออกมาเพียงไม่กี่วิฯ -3-

โดยสรุป ฉากบู๊โอเค พระเอกโอเค แต่บทไม่ค่อยโอเค คะแนนตามความชอบส่วนตัวเราอยู่ที่ 7/10 สำหรับคนดูทั่วไปน่าจะสามารถเอ็นจอยได้ถ้าเน้นไปดูชิลๆ เพลินๆ แต่สำหรับแฟนเกม นี่เราไม่แน่ใจ เพราะเห็นแฟนเกมส่วนใหญ่ที่ไปดูมาด้วยกัน เขาไม่ค่อยจะโอเคกับหนังสักเท่าไหร่

เอาเป็นว่า ถ้ามีเวลา คุณลองไปตัดสินเอาเองดีกว่า เข้าแล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์ :)