รีวิว Homestay: ร่างชั่วคราว

เนื้อเรื่อง Homestay ของ GDH จากที่ดูในเทรลเลอร์และเรื่องย่อ ก็เป็นหนังคล้าย ๆ แนวสลับร่างหรือวิญญาณออกจากร่างแล้วไปอยู่อีกร่างหนึ่ง โดยคร่าว ๆ คือ เรื่องนี้วิญญาณหนึ่งได้รับรางวัลเข้ามาอยู่ในร่างของ เด็กวัยรุ่นชื่อ มิน (เจมส์ ฮอร์โมนส์) และได้รับสารจากผู้คุมวิญญาณว่า ต้องหาความจริงให้ได้ภายใน 100 วันว่า ใครเป็นสาเหตุที่ทำให้มินฆ่าตัวตาย มิฉะนั้นวิญญาณเร่ร่อนนี้จะไม่ได้ผุดได้เกิดอีกเลย

จะว่ากันตรง ๆ มันก็เรื่องคล้ายกับที่เราเคยดูในละครไทยทั่วไปนั่นแหละ จะต่างก็คง mood & tone และการดำเนินเรื่องเฉย ๆ แต่เอาจริง ๆ ว่ากันตามเนื้อผ้า พล็อตมันไม่ได้สดใหม่แกะกล่องอะไรเลยแต่แรกอยู่แล้ว โดยตัวหนัง Homestay ก็ให้เครดิตไว้เองว่า หนังได้แรงบันดาลใจมาจากอนิเมะของญี่ปุ่นเรื่อง Colorful (2010)

เราเองไม่เคยดูอะนิเมะ Colorful หรือต่อให้เราเคยดู เราก็ไม่ได้มีปัญหากับการดูหนังดัดแปลงหรือการดูหนังที่เรื่องราวคล้าย ๆ ซ้ำ ๆ กันตราบใดที่หนังเรื่องที่มาทีหลังนั้นสามารถเล่าเรื่องประมาณเดิมนั้นได้สนุก น่าติดตาม หรือมีมุมมองอะไรใหม่ ๆ สอดแทรกมาให้คนดูบ้าง แต่สำหรับเรา Homestay มันไม่ได้สนุก (ทั้งนี้ เพราะเราคงไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของเขาด้วยส่วนหนึ่ง) และน่าติดตามขนาดนั้นว่าใครทำให้มินฆ่าตัวตาย

เอาจริง… ถ้าจะเดาก็เดาไม่ยากเลย เพราะทิศทางของหนัง GDH มันไปได้ไม่กี่สูตร พอตอนเฉลยมา มันดันตรงกับที่เราคิดไว้ตั้งแต่อ่านคำโปรยบนโปสเตอร์หนัง (ก่อนจะเข้าโรง) มันก็เลยยิ่งไม่เหลืออะไรมา impress เรานัก

แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า เนื้อหาที่เขาเลือกมาเล่าและทำเป็นหนัง เป็นเรื่องที่ดีมาก สอนคนดูได้ทุกวัย และคนไทยเข้าถึงหรือเอาตัวเองเข้าไปใส่ในหนังได้ไม่ยาก โดยเฉพาะวัยรุ่นซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มลูกค้าฐานหลักของค่ายเขา ไม่ว่าจะความสดใสของรักในวัยเรียน (หรือ ณ ที่นี้ จะบอกว่า “ความแจ่มใส” ของนายตัวร้ายกับพี่สาวสายรหัส ก็ไม่ผิด) หรือชีวิตครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์แบบ ฯลฯ แล้ว Homestay มันจะสอนคนดูให้ยอมรับ รับมือ หรือ embrace ไอ้ชีวิตที่ไม่ได้เป็นไปตามที่เราคาดหวังทุกอย่างนั้นให้ได้อย่างไร

Homestay (จากเทรลเลอร์และหน้าหนัง) เหมือนจะชูจุดเด่นเรื่องความ sci-fi และความ fantasy เป็นพิเศษ แต่เอาเข้าจริง หนังก็เหมือนหนังชีวิตวัยรุ่นหรือหนังดราม่าครอบครัวเรื่องหนึ่ง แต่แค่ทำ CG ให้หวือหวา ถึงแม้จะเทพเนียนตา แต่ก็ดูโดด ๆ ไปจากเส้นเรื่องหลักเหมือนหนังคนละม้วน สำหรับเรา เราคิดว่าหนังยังไม่สามารถทำให้พาร์ท drama กับ fantasy เป็นเนื้อเดียวกันได้เท่าไหร่

ตลอดความยาว 2 ชั่วโมงกว่า (ซึ่งต้องบอกว่าเขาต้องกล้ามากที่ตัดต่อให้หนังยาวขนาดนี้) มีหลายจุดที่เรารู้สึกว่าเวิ่นเว้อและยืดเยื้อไปกับฉากที่ไม่จำเป็นมากกว่าฉากที่ควรจะมี เช่น ฉากจีบกัน-สปาร์คกันอันเยอะเกินพอดีระหว่าง มินกับพาย (เจมส์กับเฌอปราง) ที่เหมือนตั้งใจใส่มาเพื่อจุดประสงค์อะไรสักอย่างทางการค้า ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม ซึ่งคนที่อินก็ฟินหรือมีอารมณ์ร่วมกันไป แต่คนที่ไม่อินอย่างเรา ก็ยอมรับนะว่าแอบเบื่อเล็กน้อย โดยส่วนตัวคิดว่า หนังยังมีสิ่งที่ควรไปให้ความสำคัญมากกว่า เช่น  ความสัมพันธ์ระหว่าง มินกับพี่ชาย (เบสท์ ตั้งวง) ที่คลายปมง่าย ๆ งง ๆ ไปสักหน่อย เป็นต้น

เราคิดว่าถ้า Homestay เล่าให้กระชับกว่านี้ หรือไม่ก็สามารถตัดต่อให้ดีกว่านี้ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หรือไม่พยายาม มันน่าจะออกมาลงตัวกว่านี้ เพราะวัตถุดิบของหนังเค้าดี ไม่ว่าจะในเรื่องสารที่ต้องการจะสื่อตามที่กล่าวไปแล้วข้างต้น และเหล่านักแสดง ทั้งนักแสดงนำและสบทบ ที่ล้วนทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี

โดยเฉพาะ น้องเจมส์ ที่ต้องบอกว่าฝีมือการแสดงมาไกลจากฮอร์โมนส์มาก และ คุณสู่ขวัญ ผู้รับบทเป็นแม่ของมิน ทำให้พาร์ทครอบครัวของมินมีมิติน่าสนใจขึ้น อีกคนนึงคือ น้องเบบี้มายด์ ที่รับบทเป็นเพื่อนคนเดียวของมิน น้องช่วยเติมชีวิตชีวาให้หนังและช่วยแก้เลี่ยนได้ไม่น้อยเลย ส่วนแคปเฌอ (BNK48) ถือเป็นแม่เหล็กหรือวัตถุดิบที่ดีอย่างหนึ่งของหนังเพราะมีชื่อเสียงและฐานแฟนคลับ (โอชิ) ที่มีอยู่มหาศาลเป็นทุนเดิม การแสดงชิ้นแรกไม่ได้ขี้เหร่ แต่เราว่ามันก็ไม่ได้ดีเด่อะไรอย่างที่บางคนอวย (เชื่อว่าวงการนี้ยังมีนักแสดงอีกหลายคนที่สามารถทำผลงานชิ้นแรกได้มาตรฐานสูงกว่านี้)

อย่างไรก็ตาม หนังค่ายนี้ก็ยังคงโอเคผ่านฉลุยสำหรับมาตรฐานหนังไทยเช่นเคย Homestay โดยสรุป ถือเป็นหนังที่มีวัตถุดิบที่ดี ทั้งทีมนักแสดงที่แข็ง ซีจีที่โดดเด่น และสาระเนื้อหาที่ดี แต่ก็ไม่ได้แปลกใหม่จากสูตรสำเร็จของค่ายมากนัก และยังมีปัญหาในการตัดต่อเล่าเรื่องอยู่บ้าง แต่ถ้าเป็นแฟนคลับและโอชิของ เจมส์กับเฌอปราง ก็คงอินและ/หรือฟินมาก ๆ

แต่อีกอย่าง อยากส่งท้ายว่า ไม่ว่าอย่างไร เราก็อยากให้คนดูบางคนพยายามอย่าอินมากเกินไป ให้คิดซะว่าการแสดงมันก็คือนักแสดงเข้าไปสิงอยู่ในร่างขั่วคราวของตัวละครนั้น ๆ รวมถึงพวกเราในฐานะคนดู พวกเราเองก็ถือว่ามาพักโฮมสเตย์ ทำตัวสบาย ๆ อย่าอินจนเกินงาม

คะแนนตามความชอบส่วนตัว 7.5/10