Honey Boy เป็นหนังที่สร้างจากเรื่องจริงของ Shia LaBeouf พระเอกผู้โด่งดังถึงขีดสุดจากหนังบล็อกบัสเตอร์แฟรนไชส์ดัง Transformers และ Indiana Jones and the Kingdom of the Crystal Skull แต่ปัจจุบันขึ้นชื่อในเรื่องของความเป็นพระเอกติสต์แตก อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังเป็นที่ยอมรับในเรื่องของความสามารถรอบด้านเสมอมา
Shia LaBeouf เขียนบทหนังเรื่อง Honey Boy นี้เอง เพื่อบอกเล่าเรื่องราวในวัยเด็กกับความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพ่อของเขา โดยเขารับบทเป็น James… พ่อของเขาเอง แล้วให้ Noah Jupe (จาก A Quiet Place) กับ Lucas Hedges (จาก Manchester by the Sea) มารับบทเป็นเขา (ในหนังใช้ชื่อว่า Otis) ในวัย 12 และ 22 ปีตามลำดับ
หนังเล่าสลับระหว่างพาร์ทของ Otis วัย 12 ปี ซึ่งกำลังเริ่มเป็นดาราเด็ก และอาศัยอยู่กับพ่อของเขาในโมเท็ลซอมซ่อแห่งหนึ่ง กับพาร์ทของ Otis วัย 22 ปี ซึ่งคาดว่าเป็นหนึ่งในปีทองของเขา (อยู่ในช่วงถ่ายทำ Transformers สักภาค) แต่แล้วเขาก็ถูกส่งเข้าสถานบำบัดหลังเมาแล้วอาละวาด โดยนักบำบัดวินิจฉัยว่า เขาป่วยเป็น PTSD จากความเจ็บปวดในวัยเด็กนั้นเอง โดยไทม์ไลน์ทั้งสองมีความเชื่อมโยงและบรรจบกันอย่างลงตัว
เช่นเดียวกับคนที่ประสบความสำเร็จหรือคนดัง ๆ หลาย ๆ คน Shia LaBeouf (หรือ ณ ที่นี้ หมายถึง Otis) ต้องเริ่มจากจุดเกือบต่ำสุดกว่าจะก้าวมาถึงจุดสูงสุด เปรียบเสมือนเมล็ดพันธุ์ที่ต้องแตกสลายก่อนจึงจะได้เบ่งบานเป็นดอกไม้ที่สวยงาม ทุกคนล้วนเจ็บปวดมาก่อน ขึ้นอยู่กับว่าเราจะรับมือและจัดการกับมันกันอย่างไร
หนัง Honey Boy เป็นทั้งเลือดเนื้อและจิตใจของ Shia LaBeouf หนังเปรียบเสมือนไดอารี่ความทรงจำในวัยเด็กของ Shia LaBeouf และในขณะเดียวกันก็เป็นจดหมายรักถึงพ่อของเขาด้วย หนังไม่ได้มีเรื่องราวหรือประเด็นเล่ามากมาย หนังมีปมจริง ๆ อยู่แค่ปมสองปม แต่สามารถเล่าขยี้และเค้นถึงอารมณ์ความรู้สึกได้ลึกซึ้ง ทั้งในด้านของชั้นเชิงการเล่า การกำกับของผู้กำกับสายอาร์ต Alma Har’el และการถ่ายทอดของนักแสดงนำเอง ซึ่งทำให้เราเข้าใจและเข้าถึงอารมณ์และความรู้สึกของ Shia แทบถึงก้นบึ้งของหัวใจ
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ไม่มีใครถ่ายทอดบทของพ่อได้ดีเท่ากับตัวของลูกเอง และ Shia LaBeouf ก็เป็นนักแสดงมืออาชีพที่มีความสามารถ เขาถ่ายทอดบท James Lort… พ่อที่หยาบกระด้าง ไม่เอาไหน เคยติดคุกมาก่อน และต้องมาเป็นลูกจ้างของลูกชายบังเกิดเกล้าของตัวเอง ได้อย่างยอดเยี่ยมไร้ที่ติ
ส่วนบทของ Otis นั้น ตอนก่อนมาดู ก็คาดหวังว่า เราจะได้ดู Lucas Hedges โชว์ของแบบจัดเต็ม แต่ปรากฏว่า เอาจริง ๆ หนังเน้นวัยเด็กมากกว่า และดาวเจิดจรัสจริง ๆ ของเรื่องนี้ก็คือ Noah Jupe ซึ่งรับบทเป็น Otis (หรือ Shia) ในวัยเด็ก เพราะหนังจะสื่อว่า สภาพแวดล้อมรอบตัวในอดีตหรือในวัยเยาว์ รวมถึงผู้ทรงอิทธิพล (ณ ที่นี้คือพ่อของเขา) มันมีผลกระทบและหล่อหลอมให้เราเป็นเราในทุกวันนี้ได้อย่างไร
ถ้าให้นิยาม Honey Boy สั้น ๆ สองคำที่เรานึกถึงคือคำว่า “งดงาม” กับ “เจ็บปวด” หนังไม่ได้เป็นอัตชีวประวัติที่พาเราไปรู้จักพระเอกคนนี้มากมาย แต่มันทำให้เราเข้าใจเขาในมุมที่ไม่เคยมีใครเคยเข้าใจมาก่อนได้มากขึ้น และในขณะเดียวกัน มันทำให้เรานึกถึงวัยเยาว์ของตัวเอง โดยเฉพาะในส่วนที่เราพยายามเก็บซ่อนหรือหลบหนี ซึ่งเราก็ได้ค้นพบว่า เราไม่เคยหนีมันได้พ้นเลย มันอยู่กับเราเสมอมา…
คะแนนตามความชอบส่วนตัว 8/10
42 comments
Comments are closed.