ใน Ep.1 เราได้เล่าถึงแรงบันดาลใจในการไปเที่ยวตุรกี (อิสตันบูล และ คัปปาโดเกีย) คนเดียวไปแล้ว พร้อมกับรีวิวสภาพอากาศ ค่าเงินในช่วงที่เราไป (พ.ค. 2023) และสรุปค่าใช้จ่ายตลอดทริป ตามด้วย Ep.2 ที่เล่าเรื่องการเดินทางจากสนามบินเข้าเมือง รีวิวโรงแรมที่พักในอิสตันบูล และการเดินเที่ยวเล่นวันแรกของเราในย่าน Beyoğlu (Istiklal Caddesi, Galata Tower, Galata Bridge) และ Ep.3 ที่เล่าการเดินเที่ยวย่าน Sultanahmet (Hagia Sophia, Blue Mosque, และ Topkapi Palace) บล็อกนี้จะเป็น Ep.4 ที่เราจะมาเล่าต่อถึงวันที่ 3-4 ของเราในอิสตันบูล
สารภาพว่า สองวันแรกทำเราเหนื่อยและปวดขามาก เพราะเราไม่ค่อยได้ออกกำลังกายหรือไปไหนมาไหน พอมาเที่ยวเองในวัย 30+ เราจึงไม่ขอเน้นลุยสมบุกสมบันแล้ว แต่ละวันเราจึงไม่ค่อยได้มีกิจกรรมอะไรมากมาย และโชคดีที่เราเลือกจองโรงแรมที่สะดวกสบายไว้แต่แรก แค่ขึ้นมาดาดฟ้าของโรงแรมก็ได้พักผ่อน ชมวิวสวย ๆ รอบอิสตันบูลแล้ว
MANTI & BAKLAVA SÜTLAÇ (RICE PUDDING) with ice-cream *ROOM SERVICE
มื้อแรกของวันนี้ เราได้ทานเมนูอาหารและขนมตุรกีที่เราชอบมาตั้งแต่ลองทานที่ไทย นั่นก็คือ Manti กับ Baklava ที่ร้าน Hayvore ค่าเสียหาย 380 TL (หรือประมาณ 682 บาทไทย) ซึ่งก็ถือว่าราคาสูงแหละ แต่ก็ได้บรรลุ To-Eat List ของตัวเองด้วย ดังนั้น วันนี้เราจะทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจากร้านขายของชำแถวโรงแรมเป็นมื้อเย็น
แพลนวันที่ 3 ของเราไม่มีอะไรมาก ไปแค่ Grand Bazaar และ Spice Bazaar เท่านั้น โดยไปแค่เช็คอิน ชมบรรยากาศแค่พอเป็นพิธี และหาซื้อขนม Baklava เป็นของฝากเล็ก ๆ น้อย ๆ
เช่นเดียวกับเมื่อวาน เรานั่ง รถไฟใต้ดิน (Metro) จากสถานี Sishane นั่งสาย M2 Yenikapi ไปเพียง 2 สถานี ลงสถานี Vezneciler ตรง Istanbul University แล้วก็เดินไปต่ออีกประมาณ 700 เมตรก็จะถึง Grand Bazaar พอออกจาก Grand Bazaar ก็นั่ง tram ต่อไปลงสถานี Eminönü หน้า Spice Bazaar
ที่ตลาด เราไม่ได้เดินทั่วตรอกทั่วซอย เพราะกลัวหลงด้วย ไม่ได้อยากซื้อของเยอะด้วย และที่สำคัญ เราค่อนข้าง felt uncomfortable, tired, และ overwhelmed กับคนขายแต่ละร้าน ๆ ที่พยายามเฟรนด์ลี่และชวนคุยกับนักท่องเที่ยวเอเชียอย่างเราจนเกินพอดี แต่เราก็ไม่ได้คาดหวังอะไรกับ bazaars มาแต่แรกแล้ว รู้แต่แรกแล้วว่าที่นี่มันไม่ใช่แนว แต่มันเหมือนเป็นฟีลบังคับว่า มันเป็นตลาดเก่าแก่ (สร้างตั้งแต่ปี 1461 และ 1660 ตามลำดับ) มัน must visit
จริง ๆ Grand Bazaar ก็อยู่ใกล้ ๆ ย่าน Sultanahmet ที่เราไปเมื่อวาน (วันอาทิตย์) แต่เนื่องจาก Grand Bazaar มันปิดวันอาทิตย์ และพวกสถานที่สำคัญในย่าน Sultanahmet ส่วนใหญ่ปิดวันจันทร์ เราจึงจัดแจงมาคนละวัน ปรับตามตารางและความเหมาะสมกันไป
ถ้าใครจะมา Grand Bazaar ที่นี่เปิด 8:30 am – 7 pm (เข้าได้ถึง 6 pm) ทุกวันจันทร์-เสาร์ ส่วน Spice Bazaar เปิด 8 am – 7:30 pm
Istanbul University Grand Bazaar Spice Bazaar FERRY ACROSS THE CONTINENTS
ข้าง ๆ Spice Bazaar เป็นท่าเรือ Eminomu พอดี ซึ่งจริง ๆ การขึ้นเรือข้ามฟากไม่ได้อยู่ในแพลนวันนี้ของเราเลย เราแค่เห็นคนมุงกันเยอะตรงนั้น และก็ไหลตามฝูงชนขึ้นเรือเฟอร์รี่ลำแรกที่เทียบท่า โดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าปลายทางของเรือลำนี้คือที่ไหน เราแค่ขึ้นไปนั่งบนดาดฟ้าเรือ ดูน้ำ ดูนก ดูวิว just going with the flow แล้วพอลงเทียบท่า เราค่อยเปิด Google Map หาทางกลับโรงแรมอีกที ซึ่งการนั่งเรือข้าม Bosphorus Sea โดยไม่ได้ตั้งใจนี้…กลายเป็น highlight of my day ของเราเลย… แบบว่า… มันจะมีสักกี่ครั้งสำหรับเราที่จะได้นั่งเรือข้ามฟากจากทวีปยุโรปไปทวีปเอเชีย นึกออกปะ
สรุปเรือพาเราไปลงแถว Üsküdar มันใกล้ ๆ กับสถานีรถไฟสาย Marmaray (M5) เราก็ลงไปอย่างงง ๆ แล้วไปต่อ metro ที่สถานี Yanikapi แล้วสถานีนี้มันสวยมาก ๆ เหมือนเป็นสถานีสำคัญก็ว่าได้
2-3 วันที่อยู่อิสตันบูล เรารู้สึกว่าอิสตันบูลเป็นเมืองที่ใหญ่กว่า คนเยอะกว่า และวุ่นวายกว่ากรุงเทพฯ เสียอีก จนเรารู้สึกว่า “เหงากว่าที่คิด” และรู้สึกว่า ที่นี่มีอะไรให้ทำเยอะ และเป็นเมืองที่เหมาะแก่การออกเดท (หรือถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ กรุงเทพฯ มันเป็นเมืองที่ไม่เหมาะแก่การออกเดท แล้วที่นี่มันเลยดูเหมาะไปหมด) ถึงแม้เราจะโอเคกับการเดินทางมาที่นี่คนเดียว แต่เราก็ค้นพบว่า ถ้าได้มีเพื่อนร่วมทางที่แชร์โมเมนต์หรือสร้างความทรงจำดี ๆ ร่วมกันไปด้วย มันก็คงมีความสุขกว่า

วันที่ 4 ที่อิสตันบูล ในที่สุด เราก็ได้กิน Turkish Coffee ที่ร้าน Mandabatmaz ที่ไกด์บุ๊คบอกว่าดี (เราพยายามมาที่นี่ตั้งแต่วันแรก ๆ แล้ว แต่ร้านเค้าเปิด 9.30 am – 12 am แล้วเรามาก่อนร้านเขาเปิดตลอดเพราะอยากรีบไปเที่ยว) เราทานแค่เซตชีสเค้กและกาแฟตุรกี ราคา 95 TL (ประมาณ 170 บาท)
แพลนของเราวันนี้คือ นั่ง tram จากที่สถานี Tophane ไปลงสถานี Kabatas แล้วไปเที่ยวใน vibe ที่เราชอบ (หลังจากเมื่อวานลอง vibe ตลาดที่ไม่ชอบไปแล้ว) นั่นก็คือ historic or cultural vibes ที่ Dolmabahçe Palace ซึ่งเป็นที่ที่สุลต่านและครอบครัวเคยอาศัยอยู่ และมีห้องที่ Atatürk บุรุษคนสำคัญของประวัติศาสตร์ตุรกี พักอาศัยเป็นคืนสุดท้ายก่อนตายด้วย ตอนที่เราย่างก้าวเข้าไปในห้องนั้น เรารู้สึกขนลุกเลยทีเดียว
Dolmabahçe Palace กว้างขวางใหญ่โตและติดทะเล Bosphoris บรรยากาศดีมาก ภายในก็ตกแต่งได้หรูหราเว่อร์วัง คุ้มราคาค่าเข้า 450 TL (ประมาณ 805 บาท) เสียดายที่เขาไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพและวิดีโอภายใน ที่นี่เปิด 9 am – 4 pm ทุกวันยกเว้นวันจันทร์กับพฤหัสฯ แต่แนะนำให้มาไวหน่อย เพราะเขาจำกัดคนเข้าในแต่ละวัน และแนะนำให้ซื้อตั๋วแบบ joint ticket ไปเลย เพื่อที่จะได้เข้าชมโซน Harem ซึ่งเป็นไฮไลท์ของที่นี่ได้ด้วย
ขากลับจาก Dolmabahçe Palace เราเลี่ยงที่จะนั่ง tram เพราะถ้านั่ง tram เราต้องลงสถานี Tophane แล้วต้องเดินขึ้น slope อีก 400-500 เมตรกลับโรงแรมอย่างเมื่อวาน เราจึงเลือกนั่งอ้อม ขึ้น F1: Kabataş-Taksim Funicular (คล้าย F2 ที่ขึ้นวันแรก แต่โมเดิร์นกว่า) มาลงที่สถานี Taksim และต่อรถไฟใต้ดินเมโทรสาย M2 ลงสถานี Sishane
มื้อเย็น เราเลือกสุ่มทานร้าน local ตามซอกหลืบ ซึ่งราคาจะถูกกว่าร้านดัง ๆ ตามเส้นถนนหลัก เราไม่ได้จำชื่อร้านมา แต่เราได้กิน Pide (คล้ายพิซซ่า) ที่ใหญ่และอร่อยมาก พร้อมชาตุรกี ในราคาเพียง 130 TL (ประมาณ 233 บาท)
พรุ่งนี้เราจะออกจากอิสตันบูลและบินไป Cappdocia แล้ว แต่เรายังรู้สึกว่า เราเพิ่งได้เที่ยวอิสตันบูลไปเพียง 1 ใน 10 ของเมืองเขาเท่านั้น ดังนั้น ถ้าถามว่า ถ้ามีโอกาส เราจะมาเที่ยวอิสตันบูลอีกมั้ย เราตอบได้โดยไม่ลังเลเลยว่า มาอีกแน่นอน
Day 3 Recap 📍 Brunch at Hayvore (380 TL) 📍 Metro (M2 Yenikapi) from Sishane to Vezneciler station 📍 Grand Bazaar 📍 take a tram to Eminönü station 📍 Spice Bazaar 📍 Ferry Ride across the Continents 📍 Dinner from a grocery nearby Day 4 Recap 📍 Brunch at Mandabatmaz 📍 take a tram from Tophane to Kabatas station 📍 Dolmabahçe Palace (450 TL) 📍 F1: Kabataş-Taksim Funicular then metro (M2) to Sishane station 📍 Dinner at a local nearby (130 TL)
ตอนต่อไปก็จะไปที่ Cappadocia กันแล้ว
ฝากติดตามกันด้วยนะคะ :)
To be continued…