ก่อนจะมีสี เทา-ดำ (Space Grey), ทอง-ขาว (Gold), เงิน-ขาว (Silver) อย่าง iPhone 5s และ iPhone 6 กับ 6 Plus อย่างปัจจุบัน ไอโฟนยุคแรกๆ มีแต่สีดำ (Black) สีเดียว พอรุ่น 4 กับ 4s ก็ถึงมีสีขาว (White) ออกมาด้วย
หลายปีที่ผ่านมา ขวัญชินกับการใช้ iPhone สีขาว พอเปลี่ยนมาเป็น iPhone 6 แล้วใช้สีดำ (Space Grey) ก็เลยรู้สึกแปลกๆ จนนี่ก็เป็นเวลาเดือนครึ่งแล้ว ขวัญก็ยังไม่ชินกับสีดำ โดยเฉพาะเวลามีใครใกล้ตัวใช้สีขาว (Gold หรือ Silver) มาให้เปรียบเทียบใกล้ๆ ความรู้สึกอยากได้สีขาวก็กลับมาทุกครั้ง
ไอโฟนเครื่องนึงราคาไม่ใช่น้อยๆ ซื้อทีนึง ขวัญก็กะใช้ให้คุ้ม อยู่กันยาวๆ ไปอย่างน้อยสัก 2 ปี (หรือจนกว่าเครื่องจะเริ่มไม่รองรับ iOS ใหม่ๆ) ขวัญจึงต้องพยายามหาทางปลอบตัวเองให้ทำใจกับสีดำให้ได้อย่างจริงจัง และเขียนสรุปเป็นบล็อกนี้ขึ้นมา
เบื้องต้นบล็อกนี้ถูกเขียนขึ้นเพื่อสร้างความพอใจใน iPhone 6 สี Space Grey ให้กับตัวเอง แต่ก็หวังว่าบล็อกนี้อาจเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการตัดสินใจที่จะซื้อ iPhone 6/6+ ให้กับตัวเอง หรือให้กับคนพิเศษ ไปในตัว
ถึงแม้ตามสถิติทั่วโลก สี Space Grey จะขายดีสุด (รองลงมาก็ Gold และ Silver ตามลำดับ) การเลือกสี iPhone 6 ก็ไม่มีคำตอบตายตัวว่าสีไหนสวยกว่ากัน ทุกสีมีความสวยของตัวเอง เราต้องเลือกสีที่เหมาะกับบุคลิก ลักษณะนิสัย สไตล์การแต่งตัว หรือการใช้งานส่วนตัวของตัวเองเป็นหลัก ดังนี้
1. การใช้งานหน้าจอ
- ถ้าเป็นคนที่ชอบดูหนังหรือเล่นเกมบนไอโฟน Space Grey เป็นสีที่ดีที่สุด (เช่นเดียวกับทีวีทุกเครื่องที่จอเป็นสีดำ) เพราะถ้าด้านจอสีขาวแบบ Gold กับ White มันจะเห็นสีขาวขัดลูกหูลูกตาอยู่ตรงขอบๆ เวลาดูภาพ แต่ถ้าคิดว่าชินแล้วและไม่มีปัญหาเรื่องสายตา ก็ตามสบาย เพราะในขณะเดียวกันด้านหน้าสีขาวก็กลมกลืนดีกับสกรีนหน้าจอพวก Messages, Mail หรือ Safari ที่พื้นหลังเป็นสีขาว
- เวลาล็อกเครื่องหรือปิดเครื่อง หน้าจอสีดำจะสวยคลาสสิกรับกับตัวเครื่องที่ด้านหน้าเป็นสีดำสนิท แต่บางคนก็ชอบความ “แพนด้า” โอเคที่ขอบตัวเครื่องสีขาวตัดหรือคอนแทรสต์กับหน้าจอสีดำ
- สองประเด็นแรกที่กล่าวข้างต้น จะเป็นประโยชน์ต่อยอดไปตอนเลือกวอลเปเปอร์ให้เครื่องด้วย กล่าวคือ เพื่อความสวยงามน่ามอง ถ้าเครื่องด้านหน้าเป็นสีดำ ก็ควรเลือกใช้ภาพพื้นหลังสีเข้มๆ เช่น รูปทำเลในตอนกลางคืน ถ้าเครื่องด้านหน้าเป็นสีขาว ก็เลือกสีโทนสว่างสดใสได้ (ข้อนี้เป็นความชอบและความเห็นส่วนตัว)
2. บุคลิกและไลฟ์สไตล์
- โดยพื้นฐาน สีดำกับสีเทาเป็นสีสุดคลาสสิกสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มาแต่ไหนแต่ไร แต่พอไอโฟนมีสีขาว (ซึ่งเจอ UV นานไปก็ยังไม่เหลือง จะเหลืองก็แต่เจอควันบุหรี่ไปมากๆ) ก็เป็นอีกทางเลือกสำหรับคนอีกกลุ่มที่อยาก stand out ขึ้นมาหน่อย สำหรับเรา สีดำมันคลาสสิกแบบเท่ๆ ขรึมๆ และใช้นานไปยังไงก็ไม่เบื่อ ส่วนสีขาวมันก็คลาสสิกไปอีกแบบ คือจะคลีนๆ และดูเด่นกว่าสีดำ
- สมมติว่าเลือกด้านหน้าสีขาว แต่ยังมีปัญหากับการเลือกด้านหลังว่าจะเอา Gold หรือ Silver แนะนำง่ายๆ ว่า Silver จะกลางๆ กว่า มินิมอลกว่า และแมตช์ง่ายกับชีวิตประจำวันมากกว่า ส่วน Gold จะค่อนข้างเด่น เหมาะกับคนที่เยอะขึ้นมาหน่อย หรือแฟชั่นนิสต้าขึ้นมาหน่อย แต่ก็เป็นสีที่อาจจะเบื่อได้ง่ายสุด (โดยส่วนตัว ถ้าเราใช้เครื่องด้านหน้าสีขาว เราก็คงเอา Gold แล้วพอเบื่อสีทอง ก็ใส่เคสเอา)
- ถ้าอยากรู้สึกโดดเด่น ประมาณว่า “หยิบแล้วปิ๊งถือแล้วป๊อป” สุดๆ ล่ะก็ สี Gold คือคำตอบที่เด่นชัดที่สุด (แต่ต้องไม่ใส่เคสปิดฝาหลังนะ) เพราะยังมี gadgets น้อยอย่างที่จะเป็นสีทองอย่าง iPhone รุ่นหลังๆ
3. การดูแลรักษา (รอยเปื้อน รอยขีดข่วน ฯลฯ)
- ถ้ารู้ตัวว่าเป็นคนซุ่มซ่ามหรือไม่ค่อยรักษาของ สี Silver จะเหมาะกว่า เพราะเป็นสีที่เห็นรอยขีดข่วนชัดเจนน้อยที่สุด อย่างไรก็ตาม ถึงแม้สี Space Grey จะเห็นรอยชัดเจนง่ายกว่า แต่รอยก็ไม่เยอะน่าเกลียด เพราะเขาพัฒนาสี Space Grey ขึ้นมา เพื่อให้เห็นรอยน้อยกว่าสีดำรุ่นก่อนๆ อยู่แล้ว ตราบใดที่ไม่ทำตกหรือกระแทกกับวัตถุแรงๆ เราว่ามันก็ไม่น่าแตกต่างกันมาก
- ส่วนรอยเปื้อน ด้านหลังสี Gold จะดูเขรอะได้ชัดเจนที่สุด ส่วน Space Grey ด้านหลังเวลาเปื้อนจะดูไม่ค่อยออกเท่าไหร่ เช่นเดียวกับการใส่เสื้อผ้าสีเข้มนั่นแหละ แต่ทั้งนี้ไม่รวมรอยนิ้วมือนะ เราว่าด้านหน้าสีดำเห็นรอยนิ้วมือชัดกว่าด้านหน้าสีขาว
4. เคส
- ลองนึกถึงเคสไอโฟนที่เราจะซื้อมาใส่ สมมติเราเป็นคนชอบสีชมพู ลองจินตนาการว่าเคสสีชมพูจะเข้ากับไอโฟนสีไหนมากที่สุด (อย่างไรก็ตาม เคสก็มีหลายแบบ โชว์ตัวเครื่องมากน้อยแตกต่างกันไป)
- ย้ำว่า คนที่คิดว่าจะใส่เคสปิดรอบด้านอยู่แล้วก็ไม่ต้องซีเรียสกับการเลือกสีเครื่องมากนักก็ได้
โดยสรุป ก็เลือกที่ชอบๆ นั่นแหละเนอะ แต่จริงๆ โดยส่วนตัวเราอยากได้ที่ด้านหน้าสีขาว แล้วด้านหลังเป็น Space Grey แต่นั่นแหละ… อย่างที่เห็น… คือไม่มี จบ.
อ้างอิง imore.com
35 comments