ตามที่เคยสัญญาไปในท้ายบทความ “รีวิว 18 AGAIN ซีรีส์เกาหลี รีเมคจาก 17 AGAIN” ว่า จะมาเขียนสรุปประเด็น บทเรียน และข้อคิดที่น่าสนใจจากซีรีส์ 18 Again แยกให้ต่างหาก วันนี้ก็ได้ฤกษ์เขียนสักที ใช่… ต้องใช้คำว่า “สักที” เพราะการเขียนถึงประเด็น บทเรียน และข้อคิดจากซีรีส์ 18 Again ความยาวกว่า 16 ชั่วโมง (หรือ 16 ตอน) จำเป็นต้องใช้เวลาและพลังจริง ๆ เพราะมันมีให้เขียนถึงเยอะมากจริง ๆ
1.) Life must go on.
ทุกคนมีความฝันและมีเป้าหมาย แต่บางครั้งมันก็อาจจะมีอุปสรรคหรือเรื่องติดขัดที่มาทำให้ชีวิตของเราต้องสะดุดหรือผิดแผน เช่น Hong Dae Young (Lee Do-Hyun) ที่ชีวิตกำลังจะไปได้สวย แต่แฟนสาวก็มาท้องซะก่อน เขากับแฟนจึงไม่ได้เรียนต่อมหา’ลัย แต่ถึงแม้ชีวิตมันจะไม่เป็นไปตามที่เราเคยคิดไว้ ชีวิตมันก็ยังต้องเดินต่อไป มันอาจจะยาก แต่เราก็แค่ต้องหายใจให้ได้ ปรับตัว และอยู่กับมันให้ได้ เพื่อตัวเอง คนรอบข้าง และสิ่งที่ยังเหลืออยู่ของเรา
2.) อายุ วุฒิการศึกษา คอนเน็คชั่น กับความสามารถ
เมื่อ Hong Dae Young กับ Jung Da Jung ไม่ได้เรียนสูง พวกเขาก็แทบไม่มีโอกาสก้าวหน้าในหน้าที่การงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บางองค์กรก็ต้องการคนสาว ๆ สวย ๆ มาเป็นหน้าเป็นตา บางองค์กรก็เป็นระบบอุปถัมภ์ เน้นผลักดันคนมีเส้นมีสาย มากกว่าจะดูที่ความรู้-ความสามารถของคนนั้น ๆ แต่ Jung Da Jung ก็ไม่เคยย่อท้อ เธอฝึกฝนประกาศข่าวหน้าทีวีด้วยตัวเองทุกวัน ทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่เสมอ และพยายามทุกอย่างให้มากกว่าคนอื่น ๆ เพื่อพิสูจน์ความสามารถและให้คนอื่นยอมรัม
3.) ความลำบากของผู้หญิงเกาหลีที่เป็นทั้งแม่และเมีย
ค่านิยมของเกาหลียังมองว่า ผู้หญิงที่แต่งงานและมีลูกแล้วควรเป็นแม่บ้าน อยู่บ้าน ทำงานบ้าน และเลี้ยงลูก ไม่ใช่ออกมาทำงานนอกบ้าน (นี่ยังไม่นับหน้าที่ลูกสะใภ้ด้วยอีก) ทำให้ Jung Da Jung ประสบความยากลำบากยิ่งขึ้นไปอีกที่จะเป็นผู้สื่อข่าวตามที่เธอฝัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเธอมีกรณีหย่ากับสามี ก็ยิ่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ ทั้งที่เรื่องส่วนตัวกับเรื่องงานมันควรจะแยกกันได้แล้ว
4.) การทำงานพาร์ตไทม์และการเรียนต่อมหา’ลัย
ถึงแม้การทำงานพาร์ตไทม์จะเป็นเรื่องปกติของเด็กตะวันตก แต่ฝั่งตะวันออกหรือเอเชียนั้นยังเป็นขั้วตรงข้าม Shi Ah ลูกสาวคนโตของบ้าน ต้องการเก็บเงินเพื่อเรียนต่อในสายที่เธออยากเรียน ซึ่งไม่ใช่การเข้าคณะหรือมหาวิทยาลัยตามค่านิยมของผู้ใหญ่ทั่วไป เธอจึงปิดบังพ่อแม่เรื่องการทำงานพาร์ตไทม์ เพราะผู้ใหญ่ในสังคมเอเชียยังมองว่า มันลำบาก ลูกควรเรียนหนังสืออย่างเดียว ส่วนเรื่องเงินคือหน้าที่ของผู้ปกครองอย่างเดียว
5.) โอกาสที่สอง
หลายคนคงอิจฉา Hong Dae Young ที่ได้ย้อนกลับไปเป็นเด็ก 18 อีกครั้ง ได้แก้ไขในสิ่งที่ผิดพลาด ได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ ได้ทำสิ่งที่ชอบ และได้แก้ตัวใหม่ เป็นพ่อและคู่ครองที่ดีของครอบครัว แต่นั่นมันก็เป็นได้แค่เรื่องแฟนตาซี ชีวิตจริงของเราไม่มีโอกาสที่สองขนาดนั้น เราจึงต้องทำวันนี้ให้ดีที่สุด ดูแลและใส่ใจคนรอบข้างให้มาก และอย่าลังเลที่จะทำเพื่ออนาคตที่เราเลือกเอง
6.) ลูกคือเงาสะท้อนของพ่อแม่
ในตอนแรก Shi Woo ลูกชายคนเล็ก ดูเป็นเด็กขี้อายและขาดความมั่นใจ ซึ่ง Hong Dae Young ได้มาเข้าใจทีหลังว่า ที่ลูกเป็นแบบนี้ เพราะที่ผ่านมาเขาทำตัวเป็นคนขี้แพ้ให้ลูกเห็น อีกทั้งยังกดดันลูกสารพัด ดังนั้น ถ้าอยากให้ลูกมีความสุข เป็นตัวของตัวเอง และประสบความสำเร็จในทางที่เขาชอบ กำลังใจและซัพพอร์ตจากพ่อแม่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด นอกจากนี้พ่อแม่ควรทำตัวเป็นเพื่อนกับลูก แสดงความเชื่อมั่นว่าลูกทำได้ เพื่อให้ลูกเปิดใจ ไม่ห่างเหิน และสบายใจที่จะคุยกับเราทุกเรื่อง ลูกจะเติบโตมาอย่างไรก็อยู่ที่พ่อแม่ด้วย
7.) ไม่มีใครตัดสินชีวิตหรือชี้วัดความสำเร็จของใครได้
งานเลี้ยงรุ่นเป็นเสมือนวันเผาสำหรับคนบางคน เราอาจจะมีความรู้สึกด้อยหรือสูญเสียความมั่นใจเมื่อได้เจอเพื่อนที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานกว่าเรามาก ๆ มีเงินทองเยอะกว่าเรามาก ๆ มีครอบครัวที่อบอุ่น หรือกระทั่งรูปร่างหน้าตาที่เหมือนกาลเวลาจะทำอะไรเขาไม่ได้เลย ฯลฯ แต่จริง ๆ แล้ว ทุกคนเกิดมาก็ไม่เท่ากันแล้ว ระหว่างทางก็มีปัจจัยหรือคอนดิชั่นที่ไม่เหมือนกัน เป้าหมายหรือความฝันก็แตกต่างกันได้ เราไม่จำเป็นต้องเอาความสำเร็จของเขามาเปรียบเทียบกับความสำเร็จของเรา และอย่ายอมให้ใครมา judge หรือเวทนาชีวิตของเราได้
8.) อย่าละเลยเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ
บางที เรื่องเล็กน้อยที่เราเคยคิดว่าไม่สำคัญ มันอาจจะเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับอีกคน หรือเป็นเรื่องที่ทำให้คนอื่นยิ้มได้ก็ได้ โดยเฉพาะเรื่องที่ดูเหมือนจะเล็กน้อยในวันนี้ เมื่อวันเวลาผ่านไป เมื่อมันเป็นได้เพียงแค่อดีตหรือความทรงจำ ถึงวันนั้น มันก็อาจจะเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ของเราได้เหมือนกัน หรือบางอย่าง เราก็ไม่ควรต้องรอให้สูญเสียมันไปก่อนแล้วจึงจะค่อยมาเห็นค่าของมัน อย่ามองข้ามสิ่งเหล่านั้น เพราะเราไม่สามารถย้อนเวลากลับไปเพื่อไปเห็นมันจากอีกมุมหนึ่งได้เหมือนที่พระเอกทำ
9. สื่อและบุคคลสาธารณะ
โซเชียลมีเดียและสื่อต่าง ๆ ที่มักนำเสนอและวิพากย์วิจารณ์เรื่องส่วนตัวของคนอื่น โดยเฉพาะบุคคลสาธารณะและครอบครัวของเขา ทำร้ายคนเหล่านั้นมานักต่อนัก บางคนอาจจะบอกว่า เพราะเขาเป็นบุคคลสาธารณะ แต่สุดท้ายเราก็ควรมีขอบเขต เพราะคนในครอบครัว เช่น ลูกของเขา ไม่ได้เป็นบุคคลสาธารณะ และอาจจะเด็กเกินกว่าจะรับมือเรื่องพวกนี้ได้
10.) เงินใต้โต๊ะ การโกงที่หยั่งรากลึกอยู่ในสังคม
ผู้ปกครองของเด็กในชมรมบาสฯ ต้องยัดเงินใต้โต๊ะให้โค้ช เพื่อแลกกับการที่ลูกของเขาจะได้ลงเป็นตัวจริงหรือแลกกับโอกาสในการเข้ามหาวิทยาลัยดังด้วยโควต้านักกีฬา สิ่งนี้เป็นการคอร์รัปชั่นที่ฝังรากลึกอยู่ในสังคมพอ ๆ กับระบบอุปถัมภ์ เพราะคนที่เคยถูกโกงก็อาจจะไปโกงคนอื่นต่อ บอกว่าถอนทุนคืนบ้างล่ะ หรือคิดว่าเขาทำได้เราก็ต้องทำได้บ้างล่ะ นอกจากนี้มันยังเป็นการกระทำของพ่อแม่ที่ดูแลความสามารถของลูกตนเองอย่างไม่น่าให้อภัยอีกด้วย
11.) ปัญหาในครอบครัวมักเกิดจากการสื่อสาร
ความห่างเหิน ระยะห่าง และความเข้าใจผิดกันในครอบครัวมักเกิดจากการที่เราไม่คุยกัน บ้างอาจจะเพราะเป็นห่วงอีกฝ่ายจึงต้องเก็บงำปัญหานั้นไว้คนเดียว แต่สุดท้ายการที่เราเลี่ยงการเผชิญหน้าหรือการไม่ยอมพูดกันตรง ๆ นี่แหละ ที่ทำให้ปัญหามันลามไปใหญ่จนยากจะเยียวยา เช่น Jung Da Jung ที่ไม่เคยรู้เลยว่าสามีมีปัญหาที่ทำงานและต้องเสียสละมากมายขนาดไหน เพราะเขาแทบไม่เคยพูดถึงเลย
12.) คนโสดไม่ได้แย่เสมอไป
ตัวละครเพื่อนของนางเอก เป็นตัวละครของผู้หญิงโสดที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน และมีความสุขดีกับชีวิตอิสระของเธอ แต่อีกมุมหนึ่ง อาจพูดได้เช่นกันว่า ที่เธอประสบความสำเร็จเรื่องงานได้ขนาดนี้ก็เป็นเพราะเธอโสดด้วยนี่แหละ เพราะในสังคมเกาหลี ตามที่กล่าวไปข้างต้น มันแทบไม่ค่อยมีที่ให้ผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว มีลูกแล้ว ได้ยืนเลย
13.) ความรับผิดชอบและภาระหน้าที่ของคนเป็นพ่อแม่
ใันวันนั้น พระเอกและนางเอกเลือกที่จะทำแท้งเลยก็ได้ แต่พวกเขาไม่ทำ พวกเขายอมทิ้งโอกาสและเสียสละอนาคตที่เคยวาดฝันไว้ทุกอย่าง เพื่อลูก ๆ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มาก ไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำได้ เช่น พี่สะใภ้ของพระรอง (นักเบสบอล) ที่เอาลูกมาทิ้งไว้ให้แฟนเก่าเลี้ยงและตัวเองก็ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ มีชีวิตสวย ๆ ไปวัน ๆ กับแฟนใหม่ที่รวยมาก
14.) ชีวิตหรืออนาคตไม่ได้มีแต่ความสำเร็จ
ความสำเร็จในด้านใดด้านหนึ่งมันอาจเป็นเป้าหมายหนึ่งที่เราอาจจะพิชิตในช่วงเวลาหนึ่ง ใช่… มันอาจจะนำพาซึ่งเงินทองหรือชื่อเสียงมาให้และต่อยอดชีวิตให้ดีได้ยิ่งขึ้นไปอีก แต่ชีวิตที่ดีหรือประสบความสำเร็จมากมายนั้นจะมีค่าหรือยั่งยืนไปกว่าครอบครัวหรือการมีคนที่รักเราอยู่ข้าง ๆ เลยหรือ? ความสำเร็จอาจเป็นสิ่งสำคัญก็จริง แต่ความสุขของเราเองกับของคนรอบข้างเราก็สำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน
15.) คนคนนึงอาจเป็นความทรงจำ ปัจจุบัน และความฝันของใครสักคน
Hong Dae Young อาจเคยคิดว่าเขาล้มเหลวและไม่มีค่า แต่จริง ๆ แล้ว เขาเป็นความทรงจำที่สวยงาม เป็นปัจจุบันที่ล้ำค่า และเป็นความฝันที่ยิ่งใหญ่สำหรับใครบางคนโดยที่เขาอาจไม่รู้ตัว เราแค่อยากจะบอกว่า สิ่งที่เราทำ สิ่งที่เราคิด และสิ่งที่เราเป็น ต่างมีเอฟเฟ็กต์หรือความสำคัญกับใครสักคนบนโลกนี้เสมอ ไม่มากก็น้อย เราจึงเป็นคนสำคัญคนหนึ่งเสมอบนโลกใบนี้
16.) ความสุขอยู่ในชีวิตเราเสมอ
ในวันที่มีปัญหาหรือพลังลบเข้าถาโถม อย่าลืมว่าชีวิตเรายังมีความสุขอยู่เสมอ หามันให้เจอและรักษาไว้ให้ได้ หรือถ้าวันนึงที่เราทำความสุขนั้นหายไปหรือหลงลืมมันไป เราก็จะหาทางกลับไปเจอความสุขนั้นได้อีกหากเรามีคนข้าง ๆ คอยอยู่ช่วยเราสร้างและเก็บเกี่ยวความสุขนั้น ถ้าเราเจอคนคนนั้นแล้ว ก็จงรักษาเขาไว้ให้ดีด้วยเช่นกัน
17.) ความผิดพลาดเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
ความผิดพลาดในเรื่องใดเรื่องหนึ่งไม่ใช่ความล้มเหลวในชีวิต หากแต่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต มันแค่พาเราไปในอีกทิศทางนึงเท่านั้น แต่มันไม่ได้ทำให้ชีวิตของเราพังทลาย คนที่จะพังชีวิตเราได้ก็มีแต่ตัวของเราเอง หากเราเจอข้อผิดพลาด เราแค่ต้องยอมรับมัน เรียนรู้หรือปรับตัวไปกับมัน และก้าวข้ามผ่านมันไปให้ได้
18.) เราจะรู้ขนาดของความรักได้ในวันที่ฝนตก ตามความลาดเอียงของร่ม
เรื่องนี้คงไม่ขอมีคำบรรยาย ภาพจะพูดแทนทุกอย่างเอง (ชอบซีนนี้มากจริง ๆ)