ชื่อเรื่อง Master มีความหมายต่อตัวละครทุกตัว กล่าวคือตัวละครหลักทุกตัวในหนังเป็นผู้ชำนาญของขอบเขตความรู้ใดใดจนถึงขั้นสมควรที่จะเรียกว่า “ผู้ช่ำชองที่สุด” นั่นเอง เช่น คนนึงก็จะเป็นที่สุดของตำรวจ คนนึงก็เป็นที่สุดแห่งวงการนักต้มตุ๋น (หรือวงการขายตรง???) เป็นต้น
เรื่องของเรื่องใน Master มีอยู่ว่า หน่วยปราบปรามอาชญากรรมทางการเงิน นำโดย ผู้กองคิมแจเมียง (Dong-won Gang) ต้องทำภารกิจการตามล่าท่านประธานจินฮยอนพิล (Byung-hun Lee จาก G.I. Joe, Terminator Genisys, The Magnificent Seven) ผู้บริหารเครือข่ายบริษัท One Network (อารมณ์คล้าย ๆ ธุรกิจเครือข่ายหรือขายตรง) โดยเข้าทางนายปาร์คจางกุน (Woo-bin Kim จาก Heirs) โปรแกรมเมอร์และแฮ็คเกอร์ผู้เป็นมันสมองของบริษัท
ถ้าใครเป็นแฟนหนังหรือซีรีส์เกาหลีอยู่แล้ว ก็คงพูดทันทีเลยว่า แค่ชื่อนักแสดงนำทั้งสามก็การันตีความน่าดูแล้ว เพราะแต่ละคนนี่มีฝีมือและฮอตระดับห้าดาวของแดนกิมจิทั้งนั้น เรียกว่ารวมดาวเอเชียเลยยังว่าได้ โดยเฉพาะ Woo-bin Kim ครบเครื่องและกำลังมาแรงสุด ๆ
โดยส่วนตัวเราไม่รู้จักพวกเขาเลย (ยกเว้น Byung-hun Lee ที่เคยเห็นหน้าค่าตาในหนังฮอลลีวูด) ยังชอบการแสดงและหน้าตาโอปป้าทั้งหลายเหล่านี้จนละสายตาไม่ได้ โดยเฉพาะ Woo-bin Kim (อีกละ) ที่ขโมยซีนไปหลายครั้ง
ปกติเราไม่ใช่คอหนังเกาหลี เพราะมักประสบปัญหาในการจำชื่อและหน้าตัวละครเกาหลี แต่ต้องยอมรับว่าหนังเกาหลีเรื่อง Master ของผู้กำกับ Ui-seok Jo (จาก Cold Eyes) โคตรสนุกเลย
ขนาดเราฟังไม่ออก อ่านซับฯ ก็ไม่ค่อยทัน สตอรี่การเงินการตุ๋นอะไรก็เก๊ตไม่ค่อยจะทันตัวละคร แต่ก็ยังดูโคตรเพลิน โคตรสนุก แล้วขนาดหนังยาวมาก (ประมาณ 143 นาที) เรายังไม่รู้สึกง่วงหรือเบื่อเลย เพราะมันมีทั้งบู๊ทั้งบุ๋น โดยเฉพาะการชิงไหวชิงพริบ แถมด้วยมุกตลกที่โคตรปัง (แต่มุกในหนังก็ยังไม่ปังเท่าตอน end credit ทั้งสองตัวนะ อันนั้นคือปังสุด ๆ ต้องดู!!!)
จริง ๆ ถ้าไม่ติดว่ามีอุปสรรคทางภาษา เราว่าหนังเกาหลีนี่มาตรฐานสูง สนุกและดีหลายเรื่อง โปรดักชั่นเทียบฮอลลีวูดได้สบายแล้ว
ถ้าใครอยากเริ่มต้นลองดูหนังเกาหลี Master ก็เป็นการเริ่มต้นที่ไม่เลว แนะนำอย่างยิ่ง (หรือจะ Train to Busan ก็ได้หากยังไม่ได้ดู) เพราะเป็นหนังที่ดูง่าย บันเทิง และครบรส ทั้งแอ็คชั่น สืบสวนสอบสวน ตลก และดราม่าตีแผ่สังคม โดยเฉพาะประเด็นหลังสุดนี่ งานถนัดเกาหลีแกเลย
หรือถ้าใครชอบหนังแนว Catch Me If You Can: จับให้ได้ให้นายแน่จริง เราว่าต้องชอบ Master ด้วยไม่มากก็น้อยแหละ เพราะเรื่องราวมันมีความคล้ายกันอยู่ คือมันเป็นเรื่องของตำรวจมือดีตามไล่ล่านักต้มตุ๋นข้ามโลก ประมาณนั้น ถึงแม้มันจะไม่ได้ดีถึงระดับมาสเตอร์พีซเท่า Catch Me If You Can แต่มันก็เปรียบเทียบกันไม่ได้ซะทีเดียว เพราะเอาจริงมันก็คนละสไตล์กัน
แต่เราก็เสียดายนิดหน่อยที่รู้สึกว่าไอ้สามตัวละครนี้มันน่าจะฉลาดได้อีก หนังจะได้มีอะไรแปลกใหม่หรือเซอร์ไพรส์น่าจดจำมากกว่านี้ อย่างไรก็ตามโดยสรุปโดยรวม เราชอบนะ เน้นบันเทิงครบรส มีบางช่วงขาด ๆ เกิน ๆ ไปบ้าง หรือเว่อร์วังเหลือเชื่อไปบ้าง แต่ไม่ติดใจอะไร เพราะหนังมันสนุกมากจนกลบข้อบกพร่องทุกอย่างมิดชิด เอาเป็นว่าแนะนำให้ไปดูทั้งคอเกาหลีและไม่คอเกาหลี
คะแนนตามความชอบส่วนตัว 8/10
Master: ล่าโกง อย่ายิงมันแค่โป้งเดียว เข้าฉาย 7 เมษายน 2017 ในโรงภาพยนตร์
ป.ล.เกลียดชื่อไทย และเกลียดซับฯไทยในหนังด้วย อยากจะจับหักคะแนนยิ่งนัก -.-
97 comments
Comments are closed.