6 เกร็ดภาพยนตร์ Midnight Sun

A 17-year-old girl suffers from a condition that prevents her from being out in the sunlight.

 

จากหนังญี่ปุ่นเรื่อง Song to the Sun (หรือในชื่อญี่ปุ่นคือ Taiyō no Uta) กำกับโดย Norihiro Koizumi นำแสดงโดยนักร้องสาว Yui ถูกดัดแปลงมาเป็น MIDNIGHT SUN ภาพยนตร์แนวโรแมนติก-ดราม่า นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับความรักอันสะเทือนอารมณ์ ความฝันที่สูญสลาย และการยอมรับความจริง

ตัวละครเอกคือ Katie Price (Bella Thorne จาก The DUFF) สาวน้อยวัย 17 ปี ผู้ป่วยเป็นโรค Xeroderma Pigmentosum (XP) หรือโรคผิวหนังไวต่อแสงแดดปกติ ทำให้ในช่วงกลางวัน เธอต้องเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน จะออกมาสู่โลกภายนอกได้ก็เฉพาะในเวลากลางคืน โดยเธอมักจะไปนั่งร้องเพลง-เล่นกีตาร์แถวสถานีรถไฟ จนกระทั่งเธอได้รู้จักกับ Charlie (Patrick Schwarzenegger จาก Scouts Guide to the Zombie Apocalypse) หนุ่มที่เธอแอบปลื้มมานานปี และเริ่มต้นผูกสายสัมพันธ์ต่อกัน โดยที่ Charlie ไม่รู้เรื่องอาการป่วยของ Katie เลย

ถึงแม้เราอาจจะไม่ได้เป็นผู้ป่วยโรคหายากอย่างเธอ แต่เราเชื่อว่าเรื่องราวของ Katie Price เป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ เพราะทุกคนน่าจะต้องเคยหรือกำลังประสบกับปัญหาใหญ่บางอย่างในชีวิตที่ล้วนต้องพยายามก้าวข้ามผ่านมันไปให้ได้ หรือบางครั้งเราอาจจะเคยรู้สึกแบบเดียวกันกับเธอ… เวลาที่เรามองออกไปนอกหน้าต่างแล้วรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ จนกระทั่งมีใครคนหนึ่งก้าวเข้ามาและพาเราออกไปสู่โลกใบนั้น

โดยหนังเรื่องนี้จะสอนให้เราตระหนักด้วยว่า เรื่องร้าย ๆ ที่เกิดขึ้น บางทีก็เพื่อสิ่งดี ๆ ที่จะตามมา และบางครั้งเรื่องร้าย ๆ ก็อยู่กับเราได้ไม่นาน และหากปราศจากความมืด เราย่อมไม่รู้จักแสงสว่าง (นี่เตรีมกระดาษทิชชู่ไปซับน้ำตาและจดข้อคิดในโรงฯละ)

โรคเซลล์ผิวหนังไวต่อแสงแดดผิดปกติ (โรค Xeroderma Pigmentosum (XP)) เป็นโรคความผิดปกติทางพันธุกรรมที่หาได้ยาก ในอเมริกามีผู้ป่วยด้วยโรคนี้น้อยกว่า 400 ราย โดยผู้ป่วยด้วยโรคนี้ ไม่มีทางรักษาหายขาด ร่างกายผู้ป่วยจะปราศจากเอ็นไซม์ที่ใช้ในการซ่อมแซม DNA ที่ได้รับความเสียหายจากแสงแดด ส่งผลให้เซลล์ผิวหนังถูกทำลายจนไม่สามารถคืนกลับสู่สภาพเดิม และมีโอกาสเป็นมะเร็งผิวหนังได้มากกว่าคนปกติถึง 20,000 เท่า

ผู้ป่วยจึงสามารถออกนอกบ้านได้อย่างปลอดภัยเฉพาะในเวลากลางคืน ซึ่งทำให้พวกเขาถูกเรียกขานกันว่า ‘ทารกเที่ยงคืน’ (Midnight Children), ‘เด็กน้อยแห่งความมืด’ (The Children of the Dark), ‘เด็กน้อยรัตติกาล’ (The Childen of the Night) หรือหากเรียกอย่างหยาบคายก็คือ ‘ทารกแวมไพร์’ (Vampire Children) น่าเศร้ายิ่งไปกว่านั้นคือผู้ป่วยด้วยโรคนี้มีชีวิตเฉลี่ยอยู่ได้ไม่เกิน 21 ปี

เชื่อว่าหนังเรื่องนี้จะช่วยให้เรารู้จักโรคนี้และเข้าใจผู้ป่วยได้มากขึ้น รวมถึงอาจทำให้เรารู้สึกโชคดีที่เกิดมาไม่ต้องมาต่อสู้กับโรคร้าย (อย่างน้อยก็ ณ ตอนนี้) และอยากผลักดันให้ตัวเองลุกขึ้นมาสู้ชีวิตเพื่อความฝันและความรักของตนเองกันมากขึ้น

Bella Thorne เป็นทั้งนางแบบและเป็นนักแสดงที่เข้าสู่วงการตั้งแต่เด็ก ปกติคือต้องอยู่หน้ากล้องและอยู่ในสายตาของประชาชนมาโดยตลอด แต่เธอต้องมารับบทเป็นเด็กสาวที่ไม่ประสีประสากับโลกภายนอกเลย ซึ่งนั่นเป็นโจทย์การแสดงที่ท้าทายอย่างน่าสนใจ

เธอเคยเล่นซีรีส์ของช่องดิสนีย์ชื่อเรื่อง Shake It Up (2010) และเล่นหนังของ Walt Disney Studio Motion Pictures หลายเรื่อง เช่น Alexander and the Terrible, Horrible, No Good, Very Bad Day (2014) จนเริ่มเป็นที่จดจำในหมู่ผู้ชมภาพยนตร์จากหนัง Alvin and the Chipmunks: The Road Chip (2015), Ratchet & Clank (2016), Blended (2014) ฯลฯ และได้รับรางวัล Teen Choice Awards ประจำปี 2015 ในสาขา Choice Villain มาครอง จากการสวมบทบาทหนังตลกเรื่อง The DUFF (2015) อีกทั้ง เธอยังเคยขึ้นปกนิตยสารชั้นนำมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Teen Vogue, Seventeen, Nylon Mexico และ Elle Canada

นอกจากงานในวงการ เธอมักเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อประโยชน์ต่อสังคมอยู่เป็นประจำ เธอเป็นตัวแทนของสมาคม Boys and Girls Club SMART Girls, The Thirst Project และ The Dyslexia Foundation นอกจากนี้ เธอยังมีผลงานนิยายเรื่อง Autumn Falls (2014) และ Autumn’s Kiss (2016) ซึ่งเราสามารถเยี่ยมชมหนังสือของเธอได้ที่ AutumnFallsBooks.com

ความสามารถรอบด้าน ประกอบกับความสวยโดดเด่น ไม่แปลกที่เธอกำลังเป็นดาวรุ่งที่น่าจับตามองคนหนึ่งในตอนนี้ ใครที่ยังไม่เคยชมผลงานใดใดของเธอมาก่อน เรื่องนี้อาจเป็น love at first sight ระหว่างคุณกับเธอ

Patrick Schwarzenegger เรียนจบด้านภาพยนตร์จาก University of Southern California (USC) โดยเขาเคยเป็นนักแสดงสมทบในหนังมาแล้วตั้งแต่สมัยเรียน เช่น Scouts Guide to the Zombie Apocalypse, Grown Ups 2 ฯลฯ อีกทั้งเป็นนายแบบในสังกัด L.A. Models เคยถ่ายแบบให้กับแบรนด์ Hudson Jeans, Tom Ford, และเล่น MV เพลง Right There ของ Ariana Grande ที่มียอด views กว่าร้อยล้านวิว!

ที่สำคัญ เขาเป็นลูกชายคนโตของ Arnold Schwarzenegger (อดีต Mr. Olympia, คนเหล็ก Terminator, และผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย) กับ Maria Shriver (นักเขียนและนักหนังสือพิมพ์เจ้าของรางวัลพีบอดี้) อีกทั้งยังมีเชื้อสายของ John F. Kennedy  ประธานาธิบดีลำดับที่ 35 ของสหรัฐอเมริกา

นอกจากนี้ เขายังทำธุรกิจตั้งแต่อายุ 15 ปี ทั้งทำร้าน Blaze Pizza และ Project360 แบรนด์เครื่องแต่งกายเพื่อการกุศล ที่ใช้แฟชั่นทำให้เกิดการตระหนักถึงปัญหาสำคัญของโลก อีกด้วย

หล่อ นิสัยดี มีการศึกษา และชาติตระกูลไม่ธรรมดาขนาดนี้ ต้องไปพิสูจน์ฝีมือการแสดงหนังบทนำครั้งแรกของเขาให้ได้ละว่าจะรุ่งเหมือนพ่อสมัยหนุ่ม ๆ หรือเปล่า…

Rob Riggle ผู้รับบทเป็นพ่อของนางเอกในเรื่อง อยู่ในวงการตลกมานานกว่า 15 ปี โดยในปี 2014 เขามีส่วนทำให้หนังตลกสามเรื่องจากสามสตูดิโอยักษ์ใหญ่ ทำเงินได้เกินกว่า 100 ล้านเหรียญฯ ได้แก่ Dumb and Dumber To ของ Universal Picture, Let’s Be Cops ของ Twentieth Century Fox, และ 22 Jump Street ของ Sony Picture ซึ่งทำเงินได้มากกว่า 331 ล้านเหรียญฯ แต่จริง ๆ เขาเป็นที่จดจำที่สุดมาตั้งแต่จากเรื่อง The Hangover (2009) อีกทั้งยังเคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Primetime Emmy ในปี 2012 ในสาขา Outstanding Voice-Over Performance จากเรื่อง Prep & Landing: Naughty vs. Nice

สำหรับ MIDNIGHT SUN ถือเป็นการรับบทดราม่าเข้มข้นครั้งแรกของเขา! ซึ่งเขาเชื่อมั่นว่ามันจะต้องเรียกน้ำตาจากคนดูได้อย่างแน่นอน เพราะขนาดเขาเองยังแอบร้องไห้ตั้งแต่ตอนอ่านบทครั้งแรก!

MIDNIGHT SUN เปิดรอบพิเศษ 5 เมษายน 2 ทุ่มเป็นต้นไป เข้าฉายจริง 12 เมษายน ในโรงภาพยนตร์