จากที่เราเคยพูดไว้ในบล็อก “รีวิว The Hunger Games – Mockingjay Part 1” ว่า หนัง Part 1 ตัดจากในหนังสือภาคสุดท้ายของไตรภาคนี้ของ Suzanne Collins มาเพียงประมาณ 13-14 บทแรกเท่านั้น (จากจำนวนทั้งสิ้น 27 บท) โดยในหนัง Part 1 นี้ หนังตัดจบตรงฉากหลังจากที่ช่วย Peeta และ Victors คนอื่นออกมาจาก Capitol ได้สำเร็จแล้ว
และถึงแม้ว่าหนัง Mockingjay Part 1 จะพยายามเก็บรายละเอียดและคงเนื้อหาสำคัญของหนังสือเอาไว้ได้มากกว่าที่หนังภาคก่อน ๆ ทำไว้ แต่ทว่าหนังภาคนี้ก็ยังมีอีกหลายจุดใหญ่ ๆ และย่อย ๆ ที่แตกต่าง หรือถูกตัดทิ้งจากที่มีในหนังสืออยู่ดีเพราะข้อจำกัดต่าง ๆ
และเช่นเดิม ก่อนที่จะเริ่มอ่านบล็อกนี้ เราแนะนำให้อ่านบล็อกเปรียบเทียบ หนัง vs. หนังสือ ของภาคก่อนหน้านี้ทั้งหมดของเราเสียก่อน ตามลิงก์ต่อไปนี้
1. THE Tour of TWELVE
-
ในหนังสือ เปิดบทแรกมา Katniss ก็ไปอยู่ที่ District 12 แล้ว โดยในหนังสือบรรยายด้วยว่า ตอนแรกก็ไม่มีใครอยากให้เธอมาเพราะสิ้นเปลือง แต่เธอจะแลกกับการยอมตกลงเป็น Mockingjay สัญลักษณ์ของการปฏิวัติ ประกอบกับ Plutarch ช่วยพูดให้ เจ๊ President Coin จึงยอมให้ Katniss กลับมาดู District 12 ซึ่งถูกบอมบ์ไปหมดสิ้นซากแล้ว ยกเว้นหมู่บ้านผู้พิชิต (The Victors’ Village) ที่ยังอยู่ดี
-
ในหนัง Gale และทีมงานลงไปยัง District 12 กับ Katniss ด้วย และ Gale ก็เป็นคนยืนเล่าถึงเหตุการณ์ระเบิดและการอพยพ แต่ในหนังสือ Katniss ลงไปเพียงคนเดียว (โดยมีทีมรักษาความปลอดภัยลงไปเช็คความปลอดภัยให้ก่อนแล้ว)
-
สิ่งที่ Katniss ขนใส่กระเป๋ากลับ District 13 ไปด้วย นอกจาก Buttercup (แมวของ Primrose) แล้ว ยังมีของสำคัญอื่น ๆ ของแม่และน้องสาว เช่น รูปวันแต่งงานของพ่อแม่ โบว์ผูกผมของ Prim, ตำรายาของตระกูล ซึ่งในนั้นมีรูปวาดดอกไม้ของ Peeta แอบอยู่ข้างใน, และแจ็คเกตหนังของพ่อ
-
ดอกกุหลาบสีขาวที่เธอเจอในบ้านเก่า ทำให้เธอรู้สึกว่า President Snow กำลังพยายามบอกเธอเป็นนัย ๆ ว่า เขาจะต้องหาเธอเจอ และตอนนี้เขาก็กำลังจับตาดูเธออยู่
2. REFUGEES
-
ในหนัง Gale เป็นคนบรรยายเรื่องการอพยพ แต่ในหนังสือ Katniss บรรยายเองว่า ประชากรกว่า 90% ของ District 12 ตายจากระเบิดของ Capitol และมีเพียงประมาณ 800 ชีวิตที่เหลือรอดและอพยพไป District 13 โดยการนำของ Gale
-
เหตุการณ์นี้ในหนังสือค่อนข้างฉุกละหุกกว่าในหนัง โดยในหนังสือบรรยายว่า District 12 ไฟดับแทบจะทันทีที่ Katniss ถูก Haymitch กับ Plutarch ลักพาขึ้นยาน แล้ว 15 นาทีต่อมา ยานจาก Capitol ก็มากันเต็มน่านฟ้า Gale พาชาวบ้าน รวมทั้งครอบครัวของ Katniss เข้าป่าและไปยังทะเลสาบ หลังจากนั้น 3 วัน ก็มียานจาก District 13 มารับ (การเดินทางจาก District 12 ไป District 13 นั้น ทางอากาศใช้เวลาประมาณ 45 นาที และใช้เวลาเป็นสัปดาห์หากเดินเท้า)
-
Katniss เล่าในหนังสืออีกว่า เธอไม่เจอผู้ลี้ภัยจาก District 8 ที่เธอบังเอิญเจอในป่า (ในหนังสือเล่ม Catching Fire) ที่ District 13 เลย สันนิษฐานว่าพวกเธอคงตายหรือถูกจับได้ระหว่างทางเสียก่อน
-
ครอบครัวของ Peeta ไม่ได้รับการกล่าวถึงมากในหนัง แต่ในหนังสือมีพูดถึงว่า พ่อแม่และพี่ชายทั้งสองคนของ Peeta ไม่ได้ไป District 13 โดยคาดว่าน่าจะเสียชีวิตจากระเบิด
-
ครอบครัวของ Madge ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของ Katniss และหนังไม่เคยกล่าวถึงเลย ก็ไม่ได้ไปที่ District 13 และ Katniss ก็ไม่ได้ข่าวคราวของเธอเลยเช่นกัน Katniss ก็ได้แต่หวังว่าครอบครัวเธออาจจะถูกส่งไปอยู่ Capitol ในฐานะที่พ่อของ Madge เป็น Mayor ของ District 12
-
ผู้ลี้ภัยจาก District 12 ส่วนใหญ่ชอบ District 13 เพราะมีที่พัก เสื้อผ้า และอาหารสามมื้อให้ ได้เรียนหนังสือและได้เทรนงาน หากอายุ 14 ปีขึ้นไปก็ได้รับเกียรติเป็นทหาร ถึงแม้ว่าทุกคนจะต้องใช้ชีวิตอยู่แต่ใต้ดิน ใส่เสื้อผ้าเหมือนกัน และกินอาหารไร้รสชาติก็ตาม
-
Dalton หนึ่งในผู้ลี้ภัยจาก District 10 เป็นผู้เล่าในหนังสือว่า หลายปีก่อนมีโรคซิฟิลิสระบาดที่ District 13 ทำให้ผู้คนล้มตายจำนวนมาก อัตราการเกิดลดลง และแทบไม่มีเด็กเลย พวกเขาจึงต้องการผู้อพยพจากเขตอื่นไปอยู่ด้วย
3. District 13
-
75 ปีที่แล้ว เป็นปีแรกที่ Capitol จัด The Hunger Games และเป็นปีที่ District 13 โดนล้างบาง (ในหนังสือเรียกวันดังกล่าวว่า The Dark Days)
-
ที่ลี้ภัยใต้ดินของ District 13 เหมือนจะมีการสร้าง facility มาเป็นร้อย ๆ ปีแล้ว ด้วยวัตถุประสงค์บางประการ เช่น เป็นที่หลบภัยของพวกผู้นำ จนไปถึงเป็นศูนย์พัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของ Captiol ซึ่งต่อมา District 13 ต่อรองให้ Capitol เลิกยุ่งกับพวกเขา และ Capitol ก็ไปทำนิวเคลียร์ต่อที่อีกศูนย์หนึ่งแทนตอนนั้น Capitol ยอมปล่อยเพราะอาจคิดว่า พวก District 13 คงจะอยู่รอดด้วยตัวเองได้ไม่นาน แต่สุดท้าย ด้วยระบบการแบ่งใช้ทรัพยากรและกฎระเบียบที่เข้มวงดเคร่งครัด ประกอบกับการเฝ้าระวังการโจมตีจาก Capitol ทำให้พวกเขาผ่านมันมาได้จนถึงวันนี้ และอาจจะมีพาวเวอร์มากกว่านี้ด้วยซ้ำหากไม่มีโรคซิฟิลิสระบาดเกิดขึ้นก่อนหน้านี้เสียก่อน
- นอกเหนือจากการอาศัยอยู่ใต้ดิน กับเสื้อผ้าที่เหมือนกัน และอาหารที่ไร้รสชาติแล้ว ในหนังสือยังบรรยายให้เห็นถึงความเคร่งครัดเรื่องกฎระเบียบต่าง ๆ ใน District 13 มากกว่าในหนัง ซึ่ง Katniss รู้สึกว่า ดีไม่ดีที่นี่ยังเผด็จการเบ็ดเสร็จยิ่งกว่าที่ Capitol ทำเสียอีก
-
โดยในหนังสือนั้นเล่าว่า ใน District 13 มีเวลาการใช้น้ำใช้ไฟที่จำกัด จำกัดเวลากิน เวลานอน และเวลาในการออกไปสูดอากาศและแสงแดดบนพื้นดิน โดยทุกคนจะได้รับตารางเวลา (Schedule) ที่ส่วนกลางจัดการมาให้ เป็นลักษณะของการปั๊ม Tattoo บนแขนของใครของมันในทุก ๆ เช้าวันใหม่ นอกจากนี้ยังมีการจัดอาหารแต่ละมื้อแตกต่างกันตามความต้องการแคลอรี่ของแต่ละคน ขึ้นอยู่กับอายุ สภาวะร่างกาย และกิจกรรมในแต่ละวันของคนนั้น ๆ อย่างละเอียดยิบ ซึ่ง Katniss ไม่ค่อยจะทำตามตารางเวลาของตัวเอง จน District 13 ต้องปล่อยวางและเลือกใส่ปลอกข้อมือผู้ป่วย (ที่เขียนว่า Mentally Disoriented) ให้เธอไปแทน
-
จริง ๆ Katniss อยากจะหนีเข้าป่าไปเลยด้วยซ้ำ เพราะจะได้ไม่มีใครต้องเจ็บหรือตายเพราะเธออีก และครอบครัวของเธอกับ Gale ก็ปลอดภัยดีแล้ว แต่ยังติดอยู่ที่ Peeta ทำให้เธอยังต้องอยู่กับ District 13
4. Mockingjay’s Conditions
-
ในหนังสือ เงื่อนไขของ Katniss เริ่มจากเรื่องที่เล็กไปใหญ่ นั่นก็คือเรื่องเลี้ยงแมว จากนั้นก็ค่อยเป็นเรื่องขอออกไปล่าสัตว์กับ Gale, ขอให้ Gale เป็นส่วนหนึ่งของ Propaganda หรือภารกิจ Mockingjay กับเธอ, ขอให้ช่วยเหลือและยกเว้นโทษผู้พิชิตคนอื่นที่ถูก Capitol จับตัวไป, และสุดท้ายขอเป็นคนฆ่า Snow เอง ตามลำดับ โดยต้องประกาศเงื่อนไขใหญ่ ๆ นั้นต่อหน้าประชาชนใน District 13 และผู้ลี้ภัยทั้งหมด ซึ่งแตกต่างจากในหนังที่ Katniss เอาเรื่องขอเลี้ยงแมวเป็นเงื่อนไขสุดท้าย (เหมือนเป็นการตบมุกเล็ก ๆ ของหนัง)
-
President Coin ไม่มีปัญหากับเรื่องการเลี้ยงแมว แต่ครอบครัวของ Katniss จำเป็นต้องย้ายห้องไปอยู่ห้องชั้นบนสุดที่มีหน้าต่างสู่โลกภายนอก เผื่อ Buttercup จะได้ออกไปทำธุระส่วนตัวได้ (ถ้า Buttercup ไม่กลับมาก่อนเคอร์ฟิว มันก็จะถูกขังอยู่ข้างนอก หรือถ้ามันก่อปัญหา มันจะถูกยิงทิ้งทันที)
-
President Coin อนุญาตให้ Katniss และ Gale ออกไปล่าสัตว์ในป่าได้วันละ 2 ช.ม. โดยดึงเวลาจากชั่วโมงเทรนนิ่ง และออกไปได้ในรัศมีประมาณ 400 เมตร พร้อมอุปกรณ์สื่อสารและเครื่องติดตาม ส่วนเรื่องขอให้ Gale ออกกล้องกับเธอนั้น ให้เป็นได้แค่ในฐานะลูกพี่ลูกน้องเท่านั้น เพราะทั้งโลกรับรู้ว่าทั้งสองเป็นลูกพี่ลูกน้องกันไปแล้ว (ตั้งแต่ภาค Catching Fire) และคนอื่นคิดว่า Katniss ท้องกับ Peeta อยู่ด้วย
-
ส่วนประเด็น ขออภัยโทษให้ผู้พิชิตนั้น ในหนังสือ มีลิสต์ผู้พิชิตที่ Katniss ขอให้ President Coin ช่วยอยู่ 3 คนนั่นก็คือ Peeta, Johanna และ Enobaria (จริง ๆ เธอก็ไม่ได้อยากขอให้ Enobaria ซึ่งไม่ใช่พันธมิตรของเธอนักหรอก แต่เธอก็ทำตามหลักมนุษยธรรม) โดยในตอนแรก Katniss ลืมใส่ชื่อ Annie แฟนสาวของ Finnick ลงไปในลิสต์ด้วย แล้วเธอต้องไปขอให้ Coin เพิ่มชื่อ Annie ในนาทีสุดท้ายอีกที
-
ในการเป็น Mockingjay ออกสื่อ Katniss ต้องถูกจับแต่งตัวและแต่งหน้าทำผมจัดเต็ม อีกทั้งต้องพูดตามสปีชที่คนอื่นร่างให้ ซึ่งนี่เป็นอีกข้อที่เธอคิดว่า การเป็น Mockingjay ของฝ่ายกบฏก็ไม่ต่างอะไรกับตอนที่เธอเป็น Tribute ใน Capitol
5. Finnick Odair
-
จริง ๆ พวก President Coin ก็อยากให้ Finnick เป็นผู้นำกบฏ แต่ส่วนใหญ่เขานอนไม่มีสติหรือไม่ก็ดูไม่มีสติตั้งแต่ถูกช็อตไฟฟ้าจาก Arena (อาการของ Finnick ในหนังสือหนักกว่าที่เราได้เห็นจากในหนัง) เช่น ตอนที่ Finnick มาขอตาม Katniss ไป District 8 ด้วย เขาก็ออกมาอย่างบ๊อง ๆ บวม ๆ เดินเปลือยท่อนล่าง (ใส่กางเกงในตัวเดียว) ออกมาหา Katniss เพราะไม่มีใครยอมให้เขาไปด้วย ซึ่ง Katniss ก็เห็นด้วยว่าเขายังไม่พร้อม เธอจึงต้องหลอกล่อให้เขาไปดูฉมวกใหม่ที่ Beetee ทำให้แทน
-
นอกจากนี้ ในการออกอากาศครั้งที่สองของ Peeta นั้น Katniss กับ Finnick ได้ดูด้วยกันในห้องแค่สองคน โดยการออกอากาศครั้งนี้ก็ไม่มีอะไรมาก แค่ Peeta ถาม Katniss ว่าแน่ใจแล้วหรอว่าไว้ใจพวก District 13 ได้ (ซึ่งในหนังสือ บรรยายด้วยว่า Katniss ไม่เชื่อใจ President Coin กับ Plutarch. อยู่แล้ว) หลังดูจบ Katniss กับ Finnick ไม่บอกใครว่าได้ดูเทปนั้น และไม่มีใครคนอื่นพูดถึงการออกอากาศครั้งนั้นของ Peeta กับทั้งสองเช่นกัน หมายความว่า คนอื่น ๆ รวมถึง Gale พยายามปกปิดเธอเรื่องที่ Capitol บรอดแคสต์ Peeta ครั้งนี้ ซึ่งทำให้เธอโกรธ Gale มากที่เขาช่วย President Coin โกหก/ปิดบัง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร เธอเบื่อเต็มทนแล้วที่ทุกคนเอาแต่ปิดบัง หลอกลวง และโกหกเธอ
-
และนอกจาก Gale จะชื่นชมปนเข้าข้าง President Coin จนต้องเถียงกับ Katniss อยู่บ่อย ๆ แล้ว ยังจะมีช่วงนึงที่ Gale จะยุ่งกับการเทรนและการช่วย Beetee ทำอาวุธและกับดักตลอดเวลา ดังนั้น Katniss จึงต้องออกไปล่าสัตว์กับ Finnick แทน ทำให้ทั้งสองรักและสนิทกันมาก (ส่วนหนึ่งก็เพราะคนรักของทั้งสองต่างก็ถูกจับอยู่ที่ Capitol เหมือนกันนั่นก็ด้วย)
6. HayMitch & Effie
-
ในหนัง Katniss ดูไม่ตึงใส่ Mentor ของเธอเท่าไหร่นัก ตรงกันข้ามกับในหนังสือ เธอค่อนข้างขุ่นเคือง Haymitch ตลอดเวลา โทษฐานที่โกหกปิดบังแผนการณ์อันร้ายกาจในภาคที่แล้ว แต่ก็แค่โกรธนั่นแหละ เพราะสุดท้าย พอเธอเสียใจเรื่อง Peeta เธอก็ร้องหา Haymitch คนเดียว เพราะใน District 13 มีแค่ Haymitch คนเดียวเท่านั้นที่รัก Peeta เหมือนเธอ
- อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกของหนังสือ Katniss ก็ไม่ค่อยได้เจอกับ Haymitch อยู่ดี เพราะที่ District 13 นั้น แอลกออฮอล์จัดเป็นของต้องห้าม (ยกเว้นใช้ในห้องพยาบาล) เขาจึงเก็บตัวและหักดิบตัวเอง
-
ส่วน Effie ซึ่งเป็นพี่เลี้ยงจาก Capitol ของ Katniss และ Peeta ตลอดการแข่งขันทั้งสองปีนั้น ในหนัง เธอถูกจับมาเป็นพี่เลี้ยงและคอยดูแลเสื้อผ้าหน้าผมให้ Katniss ดังนั้นเธอจะมีบทบาทแทบตลอด เพียงแค่มาแบบหน้าสดและไม่แต่งตัวฉูดฉาดแบบที่เคย ในขณะที่ในหนังสือ Effie ไม่ได้มาอยู่ใน District 13 ด้วย และไม่มีใครรู้ชะตากรรมของเธอ (หนังสือมาบอกตอนครึ่งหลังว่า Effie ถูกจองจำอยู่ใน Captiol)
-
การปรากฏตัวของ Effie ในหนัง ถือเป็นหนึ่งในการดัดแปลงของหนังจากหนังสือที่ดีที่สุด เพราะเธอสร้างสีสันให้หนังในภาคนี้อย่างยิ่ง (เช่นเดียวกับที่เธอทำมาตลอดตั้งแต่ภาคแรก) ถ้าไม่มีเธอกรีดกรายฉุยฉายอยู่ในแผ่นฟิล์ม หนังภาคนี้ก็คงจะจืดชืดน่าดู
-
ในหนังสือ ถึงแม้จะไม่มี Effie มาดูแล Katniss ใน District 13 แต่จะมี prep team ของ Cinna มาช่วยแต่งหน้าทำผมและแต่งองค์ทรงเครื่องให้ Katniss แทน อันได้แก่ Venia, Flavius, และ Octavia โดยทั้งสามถูกลักพาตัวมาจาก Captiol (ในหนังสือ สายใน Captiol ของ Plutarch บอกว่า Cinna น่าจะตายแล้วจริง ๆ) แถมยังถูกคุมขังและถูกซ้อมสาหัสเยี่ยงนักโทษเพราะพวกเขาแอบขโมยอาหาร/ขนมปังซ้ำแล้วซ้ำเล่า
7. Katniss’s Family & Gale
-
ในหนังสือบอกชัดเจนกว่าว่า แม่ของ Katniss ได้ไปช่วยในโรงพยาบาลของ District 13 ด้วย เพียงแต่พวกเขาไม่ได้ให้แม่เป็นหมอ ให้เป็นแค่นางพยาบาลธรรมดาเฉย ๆ ถึงแม้ว่าแม่ของ Katniss จะรักษาคนเจ็บไข้ได้ป่วยมาตลอดทั้งชีวิตตั้งแต่รุ่นตายายของ Katniss แล้วก็ตาม
-
ส่วน Prim ซึ่งยังเด็ก อายุแค่ 13 และมีความโตเกินวัย กำลังได้รับการเทรนให้เป็นหมอ ซึ่ง Katniss ยินดีกับเรื่องนี้มาก เพราะถ้ายังอยู่ใน District 12 ล่ะก็ Prim จะไม่มีทางได้คิดได้ฝันที่จะได้เป็นหมอจริง ๆ จัง ๆ อย่างนี้แน่นอน (ในภาคนี้ Prim จะค่อนข้างได้พูดเยอะ ซึ่งอาจเป็นความจงใจของผู้แต่งหนังสือและผู้กำกับฯ หนังเอง ที่อยากทำให้คนดูหลงรัก Prim มากขึ้นกว่าภาคก่อน ๆ โดยเฉพาะหลงรักในความฉลาดเฉลียวและความรักที่เธอมีต่อพี่สาว เพื่อที่จะเตรียมขยี้ใจคนดูในพาร์ทที่สองต่อไป)
-
หนังสือมีหลายฉากที่ทำให้เรารู้สึกรักและเห็นใจ Gale มากกว่าในหนัง และเขาก็อยู่เคียงข้าง Katniss ตลอด แต่เขาก็สวามิภักดิ์ President Coin จนบางทีก็โกหก/ปิดบังเรื่องสำคัญกับ Katniss ด้วย
8. The Bombs in District 8
-
ก่อนลงจากยาน ในหนังสือ Plutarch ให้ยาฆ่าตัวตาย (Nightlock) กับ Katniss ไว้ด้วย เอาไว้กินกรณีฉุกเฉิน อย่างเช่นกรณีที่เธอถูก Capitol จับได้ โดยใส่ไว้ในส่วนหนึ่งของชุดของเธอ ซึ่ง Cinna ออกแบบช่องเก็บยาในชุดไว้แล้วอย่างดี (ในหนังพาร์ทแรกนี้ เหมือนจะไม่มีการพูดถึงยาตัวนี้เลย แต่จะมีในหนังพาร์ทสองทีเดียว)
-
ในหนังอาจจะไม่ได้เน้นเรื่องที่ Katniss (ลวงชาวโลกว่า) ตั้งครรภ์ แต่ในหนังสือก็จะพูดถึงเรื่องท้องอยู่เรื่อย ๆ เช่น กรณีที่จะไปเยี่ยมเขต 8 นี้ พวกเขาได้ปล่อยข่าวใหม่ว่า สาเหตุที่ Katniss ท้องไม่โต เพราะแท้งไปแล้วตั้งแต่ตอนจบภาค 2 หรือตอนที่ arena ถล่มในภาค Catching Fire
-
แปลกที่ในหนัง Katniss กับ Gale ได้ยิงธนูตูมตามน้อยกว่าที่ในหนังสือบรรยาย ถ้าเราจำไม่ผิด ในหนัง พวกเขาได้ยิงกันคนละดอกเท่านั้น ซึ่งเป็นดอกระเบิด แถมยังยิงแม่นกัน 100% อย่างเทพ แต่ในหนังสือเราจะรู้สึกบู๊มากกว่าในหนัง อย่างเครื่องบินของ Capitol ก็มาให้ยิงเล่นกัน 3 รอบเป็นอย่างต่ำ
-
และก็มีฉาก Gale เอาตัวกำบัง Katniss จากระเบิด และช่วยถีบหน้า Boggs (ชายผิวสีที่เป็นหัวหน้ารปภ.ของ District 13) เพราะตอนนั้น Bogg จะขวางไม่ให้ Katniss ไปยิงเครื่องบินที่ดาดฟ้า จน Boggs ดั้งหัก
-
ฉากยิงธนูบนดาดฟ้า Taylor หัวหน้า District 8 ก็อยู่บนนั้นด้วย ทั้ง Katniss และ Gale เริ่มยิงเครื่องบิน ด้วยธนูดอกที่เป็นไฟก่อน โดยดอกแรกนั้น Gale ยิงพลาด ธนูตกลงไปไฟไหม้หลังคาโกดังด้านล่าง แต่รอบ 2-3 เขาก็ยิงไม่พลาดเป้าแล้ว
-
อย่างไรก็ดี หลังจากกลับจาก District 8 ครั้งนั้น ในหนัง Katniss เหมือนจะไม่บาดเจ็บแม้แต่นิดเดียว ในขณะที่ในหนังสือนั้นแทบสะบักสะบอม
-
นอกจากนี้ฉากการต่อสู้ใน District 8 ยังทำให้ Katniss รู้สึกดีต่อทีมทำหนังของ Cressida มากขึ้นด้วย เพราะในขณะที่ Plutarch สั่งให้ Katniss รีบหนีขึ้นยานกลับบ้าน Cressida พยศใส่ Plutarch แล้วตาม Katniss ไปยิงเครื่องบิน ซึ่งเธอทำให้ Katniss นึกถึง Cinna ที่ตั้งใจทำงานจริงจังมากกว่าทำแค่เพราะมันเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบ และ Katniss ยังบรรยายอีกว่า ถ้าสมมติว่าเธอกำลังอยู่ใน arena เธอก็จะเลือก Cressida และลูกทีมของเธอทุกคนมาร่วมเป็น allies กันเหมือนกัน
-
ทีมของ Cressida มีตากล้องคนนึงที่เป็น Avox (คนที่ถูก Capitol ตัดลิ้น แล้วจับไปเป็นคนรับใช้) นั่นคือ Pollux ในหนังสือมีรายละเอียดเพิ่มเติมจากในหนังตรงที่ Pollux เป็นพี่น้องกับ Castor ซึ่งเป็นตากล้องอีกคน โดยในหนังพาร์ทแรกจะไม่ลงดีเทลแฟมิลี่ทรีเยอะ ไปลงดีเทลเอาในพาร์ทสอง
9. Shooting propos at District 12
-
ในหนังสือ Cressida ให้เริ่มถ่ายที่บ้านเก่าของ Katniss (ที่ไม่ใช่ใน Victor’s Village) แต่ Katniss พูดอะไรไม่ออกในนาทีนั้น Cressida จึงหันไปสัมภาษณ์ Gale แทนเกี่ยวกับครอบครัว งาน และชีวิตของเขาใน Seam จนไปถึงคืนที่ Capitol มาล้างบาง โดยเริ่มถ่ายจากที่บ้านของเขา ไปยัง Meadow, ป่า และทะเลสาบ ตามลำดับ
-
Katniss ร้องเพลง The Hanging Tree ริมทะเลสาบเช่นเดียวกับในหนัง แต่อาจมีรายละเอียดยิบย่อยต่างกันเล็กน้อย ตรงนั้นก็ไม่ได้สลักสำคัญอะไรมาก ส่วนจุดแตกต่างเพิ่มเติมที่ค่อนข้างสำคัญ เราจะขอเขียนแยกไว้ในประเด็นหัวข้อใหญ่ถัดไป (ข้อ 10.)
-
หลังจากร้องเพลงจบ พวกเขาก็เดินกลับเข้าป่า แวะจุดที่ Katniss กับ Gale เคยมาล่าสัตว์กันเป็นประจำ ก่อนจะแวะที่ร้านเบเกอรี่ของ Peeta ในเมือง ในหนังสือ Katniss อัดเทปหน้าร้านของ Peeta ด้วย เพื่อจะบอกให้ Peeta ตาสว่างว่า หลังจาก Capitol บอมบ์ District 12 พ่อแม่และพี่ ๆ ของเขาก็สาบสูญไปด้วย
-
จากนั้นก็แวะจุดที่ Gale ถูก Head Peacekeeper คนก่อนเฆี่ยนในภาค Catching Fire พร้อมให้ Gale ถอดเสื้อโชว์รอยแผลเป็นที่หลังให้กล้องดู
-
ก่อนกลับทุกคนแวะไปที่บ้าน Katniss ที่ Victor’s Village เป็นแห่งสุดท้าย เพราะ Katniss จะไปเอาของให้แม่ และแน่นอน ในหนังสือกับในหนังมีฉากซึ้งฉากเดียวกัน นั่นคือฉากจูบในห้องครัว ที่ใคร ๆ ก็คงสงสารหนุ่ม Gale แล้วในหนังสือ Gale น่าสงสารยิ่งกว่า แถมยังเปรียบเปรยตัวเองเป็นชายหนุ่มในเพลง The Hanging Tree ที่เฝ้ารอคำตอบจากหญิงสาวที่เขารัก
10. The Hanging Tree
-
ในหนังไม่ได้บอกแบ็คกราวนด์ของเพลง The Hanging Tree ที่ Katniss ร้องริมทะเลสาบ แต่ในหนังสือบรรยายว่า เธอเคยร้องเพลงนี้มาก่อนตั้งแต่เด็ก ๆ โดยจำมาจากพ่อ แต่เธอไม่ได้ร้องมาสิบกว่าปีแล้ว เพราะถือเป็นเพลงต้องห้าม
-
ตอนนั้นเธอยังเด็กมาก เธอจึงไม่เข้าใจความหมายของเพลง เห็นเนื้อมีท่อนร้องว่า “Wear a necklace of rope,” เธอก็เลยทำห่วงเชือกเหมือนจะผูกคอตายตามเนื้อเพลง แม่มาเห็นเข้าพอดี จึงสั่งห้ามไม่ให้ทั้งพ่อและ Katniss ร้องเพลงนี้อีกเด็ดขาด
-
ในหนังสือ Katniss จะช่วยคนอ่านในการตีความเนื้อเพลงทีละลำดับ ๆ ด้วยว่ามีความหมายว่าอย่างไร และสัมพันธ์กับสถานการณ์ปัจจุบันของพวกเธอยังไง แต่เราจะไม่เห็นฉากที่กบฏชาวบ้าน District ต่าง ๆ เอาเพลงนี้ไปร้องระหว่างเดินพาเหรดไปก่อจราจล ฉากการปฏิวัติหรือก่อกบฏในเขตใด ๆ ก็แทบไม่ได้บรรยายถึง เพราะหนังสือเน้นเล่าแค่เท่าที่ Katniss เห็น จากมุมมอง Katniss เท่านั้น
-
นอกจากนี้ในหนัง Plutarch ยังเปลี่ยนเนื้อร้องคำว่า “necklace of rope” เป็น “necklace of hope” ก่อนจะปล่อยออกอากาศอีกด้วย ซึ่งก็ดี…
11. Into the Bunker
-
หลังจาก Peeta เตือนว่าภัยกำลังมุ่งไปที่ District 13 ทุกคนก็อพยพลงไปที่บังเกอร์ชั้นล่าง Katniss ลงมาถึงเป็นคนแรกของครอบครัว พอเห็นแม่ลงมาคนเดียว และแม่บอกว่า Prim ออกจากห้องพยาบาลมาก่อนแม่สิบนาที เธอก็รีบวิ่งออกไปตามหา Prim
-
ฉากนี้ในหนังจะลุ้นระทึกกว่า เพราะมีการ countdown ปิดประตูบังเกอร์ชนิดเป็นวินาที เราต้องลุ้นว่า Prim กับ Gale จะวิ่งลงมาทันเสี้ยววินาทีสุดท้ายหรือไม่ แต่ในหนังสือ ประตูแค่กำลังจะปิด แล้ว Katniss เอามือไปสอดไว้ พวกเขาเลยยังไม่ปิดประตูทับนิ้ว Katniss แต่ก็ไม่ได้ปล่อยให้เธอออกขึ้นไปตามหาน้องสาว เธอต้องตะโกนเรียกน้องจากข้างล่าง โดยมีแม่ร้องวิงวอนคนตรงนั้นให้เปิดประตูให้ พอ Prim กับ Gale วิ่งลงมา พวกนั้นก็แง้มประตูขึ้นให้ปกติ ไม่ได้มีอะไรเสียวสันหลังแต่อย่างใด
-
สาเหตุที่ Prim ลงมาช้าก็เหมือนกับในหนัง คือเธอกลับขึ้นไปเอาแมว แต่ในหนังสือบรรยายสาเหตุของ Gale ด้วย ซึ่งทำให้เรารักผู้ชายคนนี้มากเข้าไปอีก นั่นคือ Gale กลับขึ้นไปที่ห้องของ Katniss เพื่อเช็คว่ามีใครอยู่ไหม และเอากระเป๋ากับข้าวของสำคัญของครอบครัวเธอลงมาให้ (เช่น ยา เสื้อแจ็กเกตของพ่อ รูปแต่งงานของพ่อแม่ รวมถึงไข่มุกที่ Peeta ให้ Katniss ในภาค 2 ฯลฯ)
-
ตอนหลบอยู่ในบังเกอร์ Prim ปลอบ Katniss ว่า President Snow ไม่ฆ่า Peeta หรอก เพราะถ้าเขาฆ่า Peeta เขาจะไม่เหลืออะไรที่ Katniss ต้องการในชีวิตอีก เขาจะทำอะไร Katniss ไม่ได้ ซึ่งประโยคนี้ทำให้ Katniss นึกถึงคำพูดของ Johanna ที่พูดใน arena ช่วงที่เจอนก Jabberjay ว่า “They can’t hurt me. I’m not like the rest of you. There’s no one left I love.”
-
ในหนัง บางคนอาจไม่เข้าใจการตรัสรู้ของ Katniss หลังเอาไฟฉายเล่นกับแมว ในหนังสือบรรยายไว้อย่างละเอียดว่า มันเป็นเกม Crazy Cat ที่ Katniss เล่นมาหลายปีแล้ว วิธีการคือฉายไฟฉายไปมาบนพื้นห้อง ให้แมววิ่งไล่จับ ความสนุกคือเธอรู้สึกว่าแมวมันโง่ดี ส่วนการตรัสรู้ของเธอคือ เล่นไปเล่นมา เธอรู้สึกมันเป็นอุปมาอุปมัยว่าตามสถานการณ์ปัจจุบัน เธอก็คือเจ้า Buttercup ส่วน Peeta ก็เป็นเหมือนแสงไฟฉาย
12. The Rescue
-
ในหนัง เมื่อออกมาจากหลุมหลบภัย ทุกคนจะเห็นกุหลาบสีขาวโปรยปรายเป็นพรมยาวทุกตารางนิ้ว เพื่อความอลังการติดตาติดใจ แต่ในหนังสือ เป็นกุหลาบสีชมพูกับแดง ประมาณไม่กี่โหล
-
Katniss พูดอะไรไม่ออก ไม่สามารถพูดออกอากาศให้อัดได้ เพราะเธอรู้สึกแย่หลังจากรู้ว่า President Snow กำลังใช้ Peeta เป็นเครื่องมือทำร้ายเธอ
-
Haymitch พยายามปลอบเธอ และบอกว่า Plutarch กำลังส่งทีมออกไปช่วย Peeta ออกจาก Capitol นำโดย Boggs และ Gale ก็เป็นอาสาสมัครคนแรก
-
ดังนั้นเหตุผลที่ไปช่วย Peeta ระหว่างในหนังกับหนังสือแตกต่างกันเล็กน้อย โดยในหนังสือ President Coin ให้ไปช่วย Peeta เพราะเห็นว่า Katniss กำลังเครียดหลังจากรู้ว่า President Snow กำลังใช้ Peeta เป็นเครื่องมือ แล้ว Katniss คงไม่เต็มใจเป็น Mockingjay ต่อถ้า Peeta ยังไม่ถูกช่วยเหลือ แต่ในหนังไปช่วยเพราะไม่อยากให้ President Snow ใช้ Peeta เป็นเบี้ยหมากอีกต่อไป โดยสรุป ในหนังสือ ไปช่วย Peeta เพราะเหตุผลส่วนตัว ส่วนในหนัง ไปช่วย Peeta ด้วยเหตุผลทางการเมือง
-
ส่วน propos อันสุดท้ายที่ใช้ดึงดูดความสนใจ President Snow ระหว่างที่ทีมของ Boggs กับ Gale เข้าไปช่วย Peeta นั้น ในหนังมีแต่ Finnick คนเดียวที่ออกอากาศ Katniss ไม่ได้ออกอากาศด้วย แต่ Katniss มาโฟนอินกับ President Snow ในห้องแทน ในขณะที่ในหนังสือ ไม่มีฉากโฟนอิน และ Katniss ก็ไปออกอากาศร่วมกับ Finnick โดยเริ่มจาก Cressida สัมภาษณ์ Katniss ว่า เธอกับ Peeta เจอกันยังไง แล้วค่อยตามด้วย Finnick แฉความฉาวของ President Snow
-
อย่างที่บอก ในหนังสือ เล่าจากมุมมองของ Katniss เท่านั้น เราจึงไม่มีฉากที่พวก Boggs กับ Gale เข้าไปช่วยตัวประกันใน Capitol (แต่เอาจริงๆ ฉากนี้ในหนังก็ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรนัก ออกแนวงง ๆ เสียด้วยซ้ำ)
-
บทสรุปพวกเขาช่วย Peeta, Annie, และ Johanna ออกมาได้ แต่ช่วย Enobaria ไม่ได้ ซึ่ง Katniss ก็ไม่ได้แคร์นางคนนี้แต่แรกแล้ว และคิดว่านางก็คงไม่เป็นอะไรเพราะนางมาจากเขตซึ่งยังเป็นพันธมิตรกับ Snow อยู่ (ในหนัง ก็แทบไม่มีการเมนชั่นถึงนางคนนี้แต่แรกอยู่แล้วด้วยเช่นกัน)
-
แล้วเรื่องราวของหนัง Mockingjay Part 1 ก็จบลงที่ฉาก Katniss วกกลับไปเยี่ยม Peeta อีกครั้ง และ Peeta ก็กำลังดิ้นพล่าน ๆ ต่อสู้กับตัวเองและเชือกที่มัดตัวเองไว้กับเตียงอย่างทรมานทรกรรม ซึ่งฉากนี้ไม่มีในหนังสือนะ หนังเขาคงสร้างขึ้นเพิ่มให้หนังพาร์ทแรกมันจบสวยๆ และอยากให้คนดูอยากติดตามดูพาร์ทต่อไปก็เท่านั้น
READ MORE:
32 comments