ดองบล็อกทริปพะงันมาหลายเดือน (ไปปลาย Mar แต่เขียนต้น June) เราจะขอรีวิวแบบหยาบๆ และเน้นเนื้อไม่เน้นน้ำ ให้กับเหล่าแฟนบล็อก (และผู้พลัดหลงเข้ามา) ก็แล้วกันค่ะ
เราไปมา 4 วัน 3 คืน เรียกได้ว่าไปมาเกือบทั่วเกาะ เนื้อหาในบล็อกจึงอาจเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านไม่มากก็น้อยนะคะ
………..
หมายเหตุ ถ้ารูปบางรูปไม่โหลดในโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต ให้เปิดดูในคอมแทนนะคะ
………..
.
แนะนำสมาชิกร่วมทริปของเราก่อนค่ะ เราคืออีบ้าที่ใส่หมวก floppy hat สีดำ ส่วนน้องตุ๊ดที่นอนอยู่บนเก้าอี้ผ้าใบนั้น เป็นรุ่นน้อง จบคณะวิทยาฯ อีกคนเป็นสาวอักษรฯ เอกอิ๊ง เพิ่งจบหมาดๆ ตอนนี้นางแรดอยู่ดิสนีย์แลนด์ ออแลนโด้ USA ค่ะ
…………
Day 1 | 25 Mar 2015
ค่าเครื่องบินรวมไป-กลับ ไทยไลออนแอร์ 1,550 บาท
ลาเต้เย็น แอร์พอร์ต 65 บาท
- ไฟลท์จากสนามบินดอนเมืองออก 8:50 น. ถึงสนามบินสุราษฎร์ฯ ประมาณ 10:10 น.
- พอถึงแล้วก็หาบูธขายตั๋ว “รถต่อเรือ” ไปเกาะพะงัน ที่ชั้นล่างของสนามบิน
- เราเลือกของบริษัทราชาเฟอร์รี่ เพราะรุ่นน้องที่เป็นคนท้องถิ่นเขาแนะนำมา
- เราซื้อตั๋วรถบัสรอบ 11:00 น. แต่เขาออกรถประมาณ 11:30 น.
- คาดว่ารอนักท่องเที่ยวให้ขึ้นมาเยอะๆ ก่อน เขาจะได้วิ่งได้เงินเยอะๆ ในแต่ละเที่ยว
- ออกรถแล้วใช้เวลาเดินทางเกือบ 1 ชั่วโมงครึ่งจึงจะถึงท่าเรือดอนสัก
…………
- เนื่องจากเดินทางมานาน หิวมาก และเป็นเวลาพักเที่ยงพอดี จึงหาซื้ออะไรทานก่อนขึ้นเรือ
- โชคดีที่ที่ท่าเรือดอนสักมีร้านขายข้าวกล่องและมินิมาร์ทเล็กๆ จึงพอประทังชีพได้
ค่าข้าวกล่องและน้ำดื่มที่ท่าเรือดอนสัก 50 บาท
ค่ารถบัสจากสนามบิน + เรือไปเกาะพะงัน กับบริษัทราชาเฟอร์รี่ 500 บาท
- เรือออก 13:00 ถึงท่าเรือท้องศาลา เกาะพะงัน เวลาประมาณ 16:00
- (ซึ่งเลท 30 นาทีจากกำหนดการ อาจจะเพราะเรือออกจากท่าเรือดอนสักช้า)
- บนเรือใหญ่โตโอ่อ่า ที่นั่งสบาย เป็นห้องปรับอากาศ มีมินิมาร์ทเล็กๆ และห้องน้ำพร้อมสรรพ
- ว่างๆ เบื่อๆ จะเดินออกไปดาดฟ้าเรือชมวิวเมื่อไหร่ก็ได้
…………
ค่ามอเตอร์ไซค์จากท่าเรือท้องศาลาเข้าที่พัก (อ่าววกตุ่ม) 80 บาท
กินข้าวนอนเล่นหาดหน้าบ้าน สั่งกับรีสอร์ต ประมาณ 150 บาท
มื้อเย็นของเราได้แก่ ข้าวผัดทะเล + โนเนม (ฟรี) + ชาเย็น รวม 150 บาท
- ที่ท่าเรือหาดท้องศาลา รับรองว่าไม่ลำบากในการเดินทางไปที่พัก
- มีทั้งรถสองแถวหรือรถแท็กซี่ และเหล่าวินมอเตอร์ไซค์รอเรียกแขกอยู่มากมาย
- เราเลือกขึ้นพี่วินมอเตอร์ไซค์ เพราะน่าจะเร็วกว่า สบายกว่า และราคาก็ต่างจากสองแถวไม่มาก
- เราถึงที่พักก็ประมาณ 16:30 เก็บของเข้าห้องแล้วก็วิ่งไปถ่ายรูปเล่นที่หาดส่วนตัวหน้าบ้าน (หรือเรียกว่าหลังบ้านวะ?)
- สักพักนึงก็รู้สึกว่าหิวมาก จึงทานอาหารที่รีสอร์ตเลย ดูพระอาทิตย์ตกไปด้วย เก๋ๆ
…………
- พออิ่มท้องมีแรง พวกเราก็เดินจากที่พัก (ซึ่งอยู่บริเวณอ่าววกตุ่ม) ไปท้องศาลา เพื่อต่อรถไปหาดริ้น
- สาเหตุที่เดินมีเหตุผลเดียวเลยคือ “งก” เพราะค่ารถสองแถวที่นี่แพงมาก ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่อยากขึ้น
- (จริงๆ คนที่นี่เขาจะเรียกรถสองแถวว่า “แท็กซี่” นะ แต่เราชินกับคำว่า “สองแถว” มากกว่า
- เพราะมันหน้าตาแบบรถสองแถวในกรุงเทพฯ เด๊ะๆ รูปสองแถวดูด้านล่างเลยค่ะ)
- ส่วนท้องศาลานี่ถือเป็น center ของเกาะ เจริญสุดบนเกาะ
- มี 7-11 มีตลาด มี ATM และมีรถสองแถว (เออ แท็กซี่นั่นแหละ แต่ขอเราเรียกสองแถวเถอะ) รอท่าอยู่มากมาย
- ถ้าใครไปหลงตรงไหน หรือไม่รู้จะไปไหน มาเริ่มต้นที่นี่ก่อนได้
………..
- คืนนี้เราจะไปหาดริ้นกัน เพราะไม่รู้จะไปไหน
- และเขาว่า ถึงแม้จะไม่ใช่คืนฟูลมูน แต่โดยปกติหาดริ้นก็จะมีร้านชิลๆ ให้นั่งเล่นริมหาดใต้แสงจันทร์
- พวกเราจึงจับรถสองแถวจากหาดท้องศาลาไปหาดริ้น ราคา 100 บาท/คน
- ทางไปหาดริ้นค่อนข้างลำบาก คดเคี้ยว และมีทางขึ้นลงชันๆ ตลอดทาง
- ถ้าใครริจะเช่าขี่มอเตอร์ไซค์กันมาเอง นี่ไม่แนะนำ โดยเฉพาะตอนกลางคืน
- เพราะขนาดคนขี่แข็งๆ ยังคว่ำมาแล้วเลย
………..
- พวกเราไปถึงหาดริ้นแต่หัวค่ำ จึงยังไม่ค่อยมีคน คนเขาเริ่มทยอยมากันตอนดึกๆ
- แต่ก็ไม่ได้ถือว่าคึกคักมาก เพราะไม่ใช่ช่วงฟูลมูนปาร์ตี้
- พวกเราเลือกนั่งร้านที่ดูดีที่สุดในคืนนั้น สั่งพิซซ่ามากินด้วยกัน และเราสั่งน้ำส้มปั่น มื้อนั้นเราเสีย 150 บาท
- พิซซ่าอร่อยมาก น้ำผลไม้ก็คือน้ำผลไม้จริงๆ เข้มข้นมาก ไม่เหมือนร้านในกรุงเทพฯ
- บ๋อยที่นี่เป็นคนพม่าที่พูดอังกฤษคล่องและพูดภาษาไทยไม่ได้ (แต่ดูขี้แอ๊ว)
- พนักงานหลายๆ ร้านบนเกาะนี้ก็เป็นแบบนี้เช่นกัน มาเที่ยวเกาะพะงันนี่เหมือนไปเที่ยวต่างประเทศ ไม่ใช่แค่ค่าครองชีพ แต่ด้วยเรื่องภาษาด้วย พูดเลย
………..
- ขากลับขึ้นรถสองแถวกลับเช่นเดิม เขามีคนขับรถคอยรับอยู่แถวๆ หาดริ้นอยู่ตลอดคืน
- จริงๆ ขากลับจากหาดริ้นไปที่พัก เราต้องเสีย 150 บาท
- แต่นี่ไปเนียนกับคนขับอย่างโกงๆ จึงได้นั่งกลับที่พักในราคา 100 บาท เท่ากับตอนที่นั่งจากหาดท้องศาลามาที่หาดริ้น
- ถึงที่พักประมาณเที่ยงคืน
ค่าอาหารและเครื่องดื่มร้านริมหาดริ้น 150 บาท
ค่ารถสองแถวไป-กลับหาดริ้น 200 บาท
- แหม จะว่าไป วันนี้ได้ขึ้นยานหาหนะแทบครบทุกสิ่งอันเลย
- (เรือทรมานสุด นานก็นาน คลื่นก็เมา เด็กบนเรือก็น่ารำคาญมาก จบ.)
………..
Day 2 | 26 mar 2015
- มื้อเช้า เราทานที่พักง่ายๆ เราสั่งไข่เจียวชีส กับโอวัลตินร้อน
ค่าอาหารเช้า 120 บาท
………..
- วันนี้พวกเราตกลงกันว่า จะเช่ามอเตอร์ไซค์ เพราะประหยัดและสะดวกกว่านั่งสองแถวหลายเท่า
- มอเตอร์ไซค์ก็เช่าของที่พักเขาเลย ราคา 200บาท/คัน/วัน เติมน้ำมันต่างหาก
- พวกเราเติมกันคันละ 100 บาท (ซึ่งใช้วิ่งได้เยอะกว่าที่คิด)
ค่ามอเตอร์ไซค์+เติมน้ำมัน (สำหรับเที่ยว 2 วัน) เฉลี่ยคนละ 333 บาท
………..
- เริ่มทริปด้วยการไปไหว้เจ้าแม่กวนอิม
- ปัญหาคือพวกเราไปถูกที่ แต่ดันหาเจ้าแม่องค์ใหญ่ไม่เจอ
- และไม่รู้ว่ามีจุดให้ขึ้นไปชมวิวสูงๆ สวยๆ ด้วย
- มารู้ทีหลัง อดเห็นวิวอ่าวโฉลกหลำสวยๆ เลย
- ใครจะไปก็อย่าโง่แบบเรานะคะนะ
………..
- ตอนแรกจะไปอ่าวโฉลกหลำ แต่หาอะไรไม่เจออีกนั่นแหละ พวกเราเลยไปหาดแม่หาดเลย
- (เออ เลยอดไปดูโลเกชั่นที่เขาถ่ายหนังเรื่อง “เพื่อนสนิท” เลย)
- ระหว่างทาง ร้อนมาก เราแวะซื้อน้ำในเซเว่นฯ
- และพบว่าของในเซเว่นฯ จะแพงกว่าปกติที่กรุงเทพฯ ประมาณ 1-2 บาท
โค้กเซเว่น 15 บาท
น้ำกล้วยปั่นริมหาด 70 บาท
………..
- เช้านี้พวกเราไปหาดแม่หาด ที่มีทะเลแหวกเล็กๆ ที่แหวกเป็นทางเนินทรายให้คนเดินข้ามไปเกาะม้าได้
- แต่เนื่องจากเราไปค่อนข้างสาย ทะเลก็เลยไม่ค่อยแหวกแล้ว
- ดังนั้นถ้าใครอยากเห็นทะเลแหวกแบบสวยๆ ควรแหกขี้ตาตื่นแต่เช้า
- ฝรั่งบนเกาะนี้งานดีมาก แทบไม่เจอใครไม่หล่อเลยสักคน (ส่วนฝรั่งผู้หญิงก็สวยนะคะ แต่นี่แค่ไม่มอง อิอิ)
- แต่เช้าๆ “ฝรั่งงานดี” จะยังไม่ค่อยพลุกพล่าน คาดว่าส่วนใหญ่เขาน่าจะอยู่ปาร์ตี้ยันเช้า และตื่นกันบ่ายๆ เย็นๆ
- (ที่นี่เขามีปาร์ตี้กันทุกคืน สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนร้านกันไป)
- ดังนั้นช่วงหัววัน เราจะเจอแต่ฝรั่งรุ่นใหญ่ที่มากันเป็นแฟมิลี่เป็นส่วนใหญ่
- หาดแม่หาดสวยมาก ทรายโคตรขาวละเอียด น้ำใส ปะการังตรึม (โดนแม่งบาดเท้าเลือดไหลเลย)
- ที่ริมหาดแม่หาดก็มีร้านอาหาร เราสั่งน้ำกล้วยปั่น 70 บาท แล้วลงไปเล่นน้ำ
- ไม่ได้ดำน้ำ เพราะเราว่ายน้ำไม่เป็น แต่จริงๆ แล้ว แถวนี้เหมาะแก่การดำน้ำมาก
- อย่างที่บอก คือน้ำเขาใส และปะการังเยอะแยะ ใครดำน้ำได้ แนะนำมาดำหาดนี้
………..
- ออกจากหาด ขี่รถขึ้นเขาไปไกลมาก เพื่อพบว่าทางตัน
- ฝรั่งหลายคนเขาขึ้นมาแล้วจอดรถแล้วเดินไปหาดอะไรก็ไม่รู้กัน
- แต่เราไม่ไฟต์ เพราะแดดร้อนระห่ำมาก ถนนก็เป็นดินลูกรัง
- ชาวบ้านบอกว่าใช้เวลาเดิน 1 ช.ม. กว่าจะถึงหาด
- พวกเรายอมแพ้แค่นั้นแล้วขี่รถลงทางเดิม คิดซะว่ามาชมวิวรอบเกาะ
………..
- ระหว่างทางลงเขาก็แวะร้านอาหารร้านหนึ่ง วิวดีมาก ลมก็เย็น บรรยากาศดีเลย
- แต่เราไม่ได้ทานอะไรมาก เพราะยังไม่หิว
- เราแชร์แพนเค้กกับน้อง และสั่งน้ำโค้กธรรมดา ร่างกายต้องการน้ำตาล
ค่าของว่างร้านริมทาง 80 บาท
………..
- ขากลับ จะกลับไปตั้งหลักที่ที่พัก แต่บังเอิญหลงไปน้ำตก ก็เลยเข้า
- แต่เผอิญหลงไปช่วงไม่มีน้ำ (ฝนไม่ตกมา 5-6 เดือนแล้ว)
- จึงไม่มีน้ำตกสวยๆ ให้ถ่ายรูป และไม่มีน้ำเย็นๆ ให้เล่น
………..
- เมื่อไม่มีน้ำเล่น จึงได้แต่ไต่เขาขึ้นไปชมวิว
- ซึ่งทางก็สูงชันและลำบากลำบนมาก หอบแล้วหอบอีก
- โชคดีที่มันยังใจดีมีเชือกให้เราเกาะ
- แต่พอถึงยอดบนสูงสุดคือหายเหนื่อย
- วิวข้างบนสวยมากกกก เรียกว่าเห็นรอบเกาะเลย
ชาลิปตันไอซ์ที (ร้านหน้าทางเข้าน้ำตก) 20 บาท
………..
- กลับที่พักไปตั้งหลัก ระหว่างรออาบน้ำ เราหิวมาก (เพราะทานของว่างน้อย คนอื่นเขาทานกันเยอะ)
- เราออกมาทานข้าวต้มซีฟู้ดของรีสอร์ตระหว่างรอ ข้าวต้มของที่พักอร่อยมากกกก
- อยากขโมยแม่ครัวหิ้วใส่กระเป๋ากลับบ้าน
………..
- พอทุกคนอาบน้ำกันเสร็จ ก็ออกไปหาข้าวเย็นกินจริงจังกันที่ตลาดพันธ์ทิปตรงท้องศาลา (อยู่ห่างจากที่พัก 5 นาที ถ้าขี่มอเตอร์ไซค์)
- น้องๆ กินก๋วยเตี๋ยว เรายังอิ่มข้าวต้มอยู่ ก็ไม่รู้จะกินอะไร เลยกินโรตีสตรอเบอรี่นิวเทลลาเอาเป็นของหวาน
ข้าวต้มซีฟู้ด 80 บาท
โรตีสตรอเบอรี่นิวเทลลา 50 บาท
ค่าเบียร์ในงานปาร์ตี้ 150 บาท
………..
- เติมพลังกันแล้วก็ขี่มอเตอร์ไซค์ไปไปปาร์ตี้ที่ร้าน Maya
- คนไทยเข้าฟรี เครื่องดื่มไม่แพงมาก เบียร์ตก 100 บาท/ขวด
- (เรากิน 150 บาท ขวดแรกราคาเต็ม และขวดที่สองแชร์กับน้องคนละครึ่ง)
- แล้วผู้จัดการที่นี่ก็ใจดีขี้แอ๊วมาก แถมเบียร์ให้เราอีกขวดนึงด้วย เออดี
- ฝรั่งที่นี่ดูดีมีระดับ หล่อทั้งร้าน เรียกได้ว่าฝรั่งงานดีมารวมตัวกันอยู่ที่นี่
- ไม่อยากจะพูด นี่ก็เกือบได้ฝาแฝดเยอรมันงานดีมาคนนึง
- อืม แต่ก็แค่เกือบนะ ไม่ได้หรอก
- นี่ก็ไม่เข้าใจเขา ตอนที่กูไม่สนใจ เขาก็พยายามทำให้กูสนใจ เขาก็ดูนิ่งๆ อะแก
- ฮือ ไม่เอาไม่ดราม่า
………..
- สรุปก็ไม่ได้ฝรั่งกลับบ้าน ได้แค่เต้นๆ และก็นั่งคุย
- กลับถึงที่พักเกือบตีห้าด้วยความไม่เข้าใจ อ่อยนานมาก และนั่งคุยก็นานมาก
- แต่ก็ไม่ได้อะไรเลย ฮือ ไม่เอาไม่ดราม่า เลิกบ่น…
- เออ แต่เตือนไว้นิดนึง ใครจะไปที่แบบนี้ให้ระวังด้วย
- มันจะมีฝรั่งกลุ่มหนึ่งที่ดูแอคทีฟมาก เต้นใหญ่และทักทายไปทั่ว
- ตอนแรกก็ดูเหมือนจะขี้แอ๊วขี้แต๊ะอั๋ง แต่พอดีมีคนมาเตือนว่า อีนี่ไม่ใช่โรคจิต
- แต่ให้ระวังว่ามันจะแอบขโมยของเรา (โอ้โห เหนือชั้น)
………..
DAY 3 | 27 mar 2015
………..
- วันนี้ตื่นมาก็บึ่งไปอ่าวท้องนายปานใหญ่
- เส้นทางดูลำบากลำบนมาก ทางชันและทางคดเคี้ยวเป็น curve ตัว s เยอะมาก (แต่ขากลับสบายกว่าขาไปนะ)
- แต่หาดคือสวยงามมาก คุ้มค่าแก่การเดินทางโคตรๆ
- สวยคนละแบบกับหาดเมื่อวาน แล้วแต่คนชอบ แต่หาดนี้ลมแรงเย็นสบายดี เราชอบ
………..
- ไปถึงก็นั่งกินข้าวร้านนึงก่อน ไม่อร่อยเลยและแพงด้วย รู้สึกเสียดายเงิน
- สั่งข้าวผัดทะเลกับโค้ก ที่แม้แต่โค้กก็ไม่อร่อย
- แล้วสักพักแดดออก เลยหนีไปนอนอีกร้านนึง
- ร้านใหม่ลมดีกว่าเดิมเพราะใกล้เขาที่ลมกระทบมา เรานี่ผล็อยหลับเลย
- นอนถึงประมาณเกือบสี่โมงเย็นก็ออก
อาหารและเครื่องดื่ม ร้านไม่อร่อย 180 บาท
โอวัลตินเย็นไป ราคาประมาณ 50-70 บาท
………..
- ขากลับ ตอนแรกว่าจะแวะน้ำตกธารประพาส แต่ว่าเหมือนว่ายังซ่อมแซมอยู่
- และไหนๆ ก็คิดว่ามันน่าจะแห้งแล้งเหมือนน้ำตกเมื่อวาน ก็เลยไม่เข้าไป
- ทางมันดูลูกรังยังไม่เสร็จดีด้วย
………..
- สรุปก็เลยกลับไปดูพระอาทิตย์ตกดินในซอกแถวที่พัก
- ไม่คิดว่าจะมีซอกนี้อยู่ด้วย หาดและวิวตรงนี้ก็สวยและเป็นส่วนตัวดีเหมือนกัน
- (เสียดายเพิ่งมารู้ขากลับว่าร้านอาหาร “อัมเตอร์ดัม” แถวนั้น มีระเบียงดูวิวพระอาทิตย์ตกดินสวยมาก ใกล้ที่พักด้วย)
………..
- มื้อค่ำวันนี้ ตอนแรกจะหาร้านอาหารทะเลริมหาด มาทะเลก็อยากกินซีฟู้ดอะเนอะ
- แต่เกาะบ้าอะไม่รู้ หาซีฟู้ดไม่ได้เลย ร้านพวกริมหาดส่วนใหญ่ก็เป็นร้านของพวกรีสอร์ทต่างๆ
- เลยลงเอยไปทานบุฟเฟต์หมูกระทะ รวมเครื่องดื่มแล้ว หัวละ 200 บาท
- ก็อร่อยดีนะ คุ้มดี มีซีฟู้ดนิดหน่อยด้วย
………..
- ตอนแรกถนนคนร้างมากเพราะคนแห่ไปดูมวย มวยจบเที่ยงคืนถึงจะมีคนพลุกพล่าน (ฝรั่งนี่มันฝรั่งจริงๆ)
- พอคนเยอะ เริ่มน่าสนุก พวกเราจึงมุ่งหน้าไปปาร์ตี้ที่หาดริ้น
- โดยนั่งรถสองแถวไปกลับราคาเดิม จากท้องศาลาไปหาดริ้น เที่ยวละ 100 บาท
- (คือเอารถมอไซค์มาจอดไว้หน้าเซเว่นฯ แล้วโบกรถไป)
หมูกระทะ 200 บาท
เบียร์ 80 บาท
ค่ารถไปกลับหาดริ้น 200 บาท
ค่ารถไปกลับหาดริ้น 200 บาท
………..
- ที่ปาร์ตี้หาดริ้น เหล้าเบียร์ถูกกว่าเมื่อวานประมาณ 20 บาท
- อย่างวันนี้เราก็สั่งเบียร์สิงห์เหมือนเดิม ขวดละ 80 บาทเอง
- แต่เนื่องจากเป็นปาร์ตี้ริมหาดที่ใครจะมาใครจะไปก็ได้
- ฝรั่งจึงอาจดูตลาดล่างกว่าที่ Maya นิดหน่อย เพลงก็คนละแนว (เมื่อคืนเป็นแบบดีเจมิกซ์)
- แต่ที่สนุกคือ เขามีเล่นลอดไฟด้วย สนุกดี
- ฝรั่งก็ดูสนอกสนใจ เราเองก็ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ นี่ไม่เคยเห็น
- เจอฝรั่งฝรั่งเศสมาแอ๊วด้วย แต่นางแอ๊วชะนีไปทั่วเลย พี่ไม่โอเค
- นี่นางเปิดเรื่องมาก็บอกว่ามากับ twin brother อีกละ
- คืออีคู่เยอรมันเมื่อวานมันก็แนะนำตัวเองแบบนี้ ไม่บอกชื่อก่อน แต่บอกก่อนว่ามากับ twin brother
- จนนี่เริ่มไม่เข้าใจวัฒนธรรมยุโรป ปกติเค้าแนะนำตัวกันเยี่ยงนี้หรือกระไร
………..
Day 4 | 28 mar 2015
- เริ่มมื้อ brunch ที่บ้านนั่นแหละ สะดวกดี
- และเนื่องด้วยติดใจรสมือข้าวต้ม เลยสั่งข้าวต้มอีก
- (อยากอุ้มแม่ครัวกลับบ้านด้วยจริงๆ นะ)
- กินกับน้ำส้มสวยๆ แล้วก็ขนมปังชุบไข่แบ่งกับน้อง
………..
- เออ แต่จะว่าไป เขียนมาจนถึงวันสุดท้ายแล้ว ลืมบอกว่า เรามาทริปนี้ เราไม่เสียค่าที่พักนะ
- เราพักที่ Sea Scene Resort ซึ่งเป็นของรุ่นน้องเรา แฮ่~ (แถมรูปบรรยากาศที่พักให้ด้วย)
อาหารเช้า 130 บาท
ค่าเรือ+รถไปสนามบิน 470 บาท
………..
- คุณแม่ของน้องเราซึ่งเป็นเจ้าของรีสอร์ต ขับรถมาส่งเราที่ท่าเรือ เลยประหยัดค่ารถสองแถวไปอีก 50 บาท
- ส่วนค่าเรือ+รถขากลับ ซื้อที่ท้องศาลา ก็ถูกกว่าขามา คือราคาแค่ 470 บาทเท่านั้น
- คราวนี้เรือออกตรงเวลาเป๊ะ 13.00 น
- (ใครมาเลทแค่ 1 นาทีก็ช้าไป ต้องรอเรืออีกทีก็รอบ 5 โมงเย็นนู่นแน่ะ)
- จึงใช้เวลาตรงนี้ไม่ถึง 2.30 ช.ม. เท่านั้น (ขามาเหมือนออกช้าเกือบครึ่งชม รวมแล้วมันเลย 3 ชม)
- แล้วขากลับนี่หลับสบายเลย เรือคนละแบบกับขามา และไม่มีเด็กวิ่งเสียงดังวุ่นวาย
- เรือโล่งสบาย คนน้อยมาก และถึงแม้จะไม่ได้นั่งแบบห้องแอร์ แต่ก็ลมโกรกสบาย
- ขากลับมักสบายกว่าขาไป…. เสมอเลย…
………..
- รถบัสจากท่าเรือไม่ได้ไปส่งเราถึงสนามบินเลย แต่มาส่งเราที่จุดต่อรถ
- คือเราต้องรอต่อรถตู้ (แต่ก็อยู่ในค่าใช้จ่าย 470 บาทข้างต้นหมดนะ)
- ถึงสนามบินจริงๆ ประมาณ 6 โมงเย็น ซึ่งก็ยังมีเวลาเหลืออยู่โข เพราะไฟลท์ 21:00 น.
- พวกเราเลยนั่งเล่นพักผ่อนกายาในคาเฟ่ในสนามบิน ที่ไม่อร่อยเลยสักนิด แพงอีกต่างหาก
- ร้านชื่อ BB อะไรสักอย่าง อยู่ชั้นสอง ใครเจอ อย่าไปกิน
แซนด์วิช 120 บาท ชาเย็น 70 บาท รวม 190 บาท ของร้าน BB ที่ไม่อร่อย
- เกาะพะงันนี่หาของฝากยากมาก เราเลยต้องซื้อมาหาซื้อในสนามบิน
- ก็ซื้อของฝากง่ายๆ ไปประมาณ 370 บาท เอากลับไปฝากคนที่บ้านพอเป็นพิธี
- ถึงสนามบินดอนเมืองประมาณ 22:10 น. แล้วนั่งแท็กซี่จากสนามบินมาลงโชคดีติ่มซำ อารีย์
- ค่ารถแท็กซี่ 3 คน คนละ 60 บาท (รวมค่าเรียก 50 บาทแล้ว)
- แวะกินติ่มซำ 120 บาทก่อนกลับบ้านทางใครทางมัน
………..
สรุป ค่าใช้จ่าย ทริปพะงัน 4 วัน 3 คืน
นับตั้งแต่สนามบินดอนเมืองขาไป จนถึงสนามบินสุราษฎร์ธานีขากลับ
ทั้งสิ้น 5,333 บาท
(โหนี่ขนาดไม่เสียค่าที่พักเลยนะเนี่ย)
แต่ถ้าใครกินน้อย กินถูก ก็คงประหยัดกว่านี้ได้นิดนึง
………..
- ทริปนี้สนุกมาก เหนื่อยมาก ถึงบ้านนี่สลบเลย
- คิดถึงแฝดฝรั่งชาวเยอรมัน
***พะงันเป็นทริปที่เหมาะกับคนที่มีทั้งเงินและเวลา***
- แต่ถ้าเที่ยวควรเที่ยวตอนยังมีแรงนี่แหละจ้ะ แค่นี้ก็เหนื่อยจะแย่ละ
………..
- บล็อกหน้าจะมารีวิวปีนัง-กัวลาลัมเปอร์ & สิงคโปร์
- คือทั้งสองประเทศดังกล่าวนั้น ไปมานานแล้ว แต่ยังดองรีวิวอยู่ รูปมันเยอะด้วยไรด้วย
- บล็อกพะงันอันนี้ก็เกิดจากการดองร่วมเดือนเช่นกัน ไม่งั้นคงเขียนได้ดีกว่านี้
………..
หมายเหตุ ถ่ายรูปด้วยกล้องโง่ๆ และแต่งรูปโง่ๆ ด้วย VSCO HB2 เกือบทุกรูปค่ะ (ตอนที่ไปพะงัน เรายังไม่ซื้อกล้อง Fuji X-A2)
ป.ล. นังเว็บ wordpress มันไม่ค่อยจัดเว้นบรรทัดให้บล็อกเราตามที่เราเว้นอะ สงสัยใส่รูปเยอะไปและใหญ่ไปแล้วนางงง อย่างไรเราก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะถ้าบรรทัดมันจัดงงๆ
ป.ล. (2) ขออภัยด้วยที่ถ่ายรูปฝรั่งมาน้อย กลัวเขาจับได้น่ะค่ะว่าเราแอบซุ่ม อิ
ป.ล. (2) ขออภัยด้วยที่ถ่ายรูปฝรั่งมาน้อย กลัวเขาจับได้น่ะค่ะว่าเราแอบซุ่ม อิ
………..
จองโรงแรมผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่นได้ที่ www.hotelscombined.co.th
42 comments
เราชอบวิธีรีวิว สนุกอ่านง่าย เนื้อล้วนๆ
ขอบคุณมากค่ะ
ขอรายละเอียดที่พักหน่อยค้า