Captain America: Brave New World ชื่อหนังบอกว่า นี่คือโลกใหม่ แต่ในหนังยังหา “ความสดใหม่” ไม่เจอ Marvel ก็ยังวนเวียนอยู่กับโลกใบเก่า… ทั้งบท สไตล์ และซีจี ยังไม่พัฒนาจากสิบกว่าปีก่อน แต่ยังดีที่หนังยังมี “ความกล้า” สมชื่อ ซึ่งนั่นก็คือ ความกล้าที่เอาชื่อ “Captain America” มาหลอกขายคนดู
คำว่า “หลอก” ณ ที่นี้ ไม่ได้หมายความว่า Anthony Mackie เป็นกัปตันอเมริกาสู้ Chris Evans ไม่ได้แต่อย่างใด เพราะ Anthony Mackie เป็นกัปตันอเมริกาที่ดีและมีความเป็นมนุษย์สูงมาก
ปัญหาคือ Brave New World ไม่ใช่หนังของ Sam Wilson หรือ Captain America หากแต่เป็นเหมือนภาคต่อของ The Incredible Hulk (2008) มากกว่า พูดง่าย ๆ เหมือนเอา Hulk เวอร์ชั่นที่โลกลืม มาปัดฝุ่นใหม่ใต้โล่ของ Captain America
![](https://i0.wp.com/variety.com/wp-content/uploads/2024/04/ROC-03204_R2.jpg?w=1160&ssl=1)
อีกอย่าง หนังมีความพยายามจะ political หรือเล่นประเด็นการเมือง แต่ไปไม่ถึง ประเด็นครอบครัวก็อ่อนมาก ดีที่ Harrison Ford ช่วยแบกมาได้ โดย Ford รับบทเป็น Ross ประธานาธิบดีที่เคยเป็นทหารหัวร้อนหรือนายพลชั้นสูงมาก่อน ประเทศและโลกก็เลย…. เหมือนแขวนอยู่บนเส้นด้าย
นอกจากนี้ Marvel ยังยึดติดกับสูตรสำเร็จที่เคยเวิร์กในอดีต เช่น ความพยายามเชื่อมโยงหนังเรื่องนี้กับหนังหรือตัวละครอื่น ๆ ในจักรวาล รวมถึงการ promise หรือประกาศล่วงหน้าว่า ในอนาคตเราจะทำอะไรบ้าง เช่น เราจะฟอร์มทีม Avengers ใหม่นะ
ถ้าจะดูแค่ฉากแอ็คชั่นเอาสนุกเป็นซีน ๆ ไป ก็ต้องบอกว่า “พอดูได้” แต่ถ้าคาดหวังอะไรใหม่หรือความพิเศษใส่ไข่ — ไม่มีเลย เดิม ๆ ทั้งหมด จำเจ ไม่มีอะไรน่าจดจำ — แม้แต่งานภาพและเสียงก็ยังธรรมดา สรุป รอดูตอนหนังลงดิสนีย์พลัสทีเดียวก็ได้