ถึงแม้หน้าหนัง Challengers จะดูเหมือนเป็นหนังกีฬา แต่จริง ๆ แล้ว เทนนิสเป็นแค่เครื่องมือในการถ่ายทอดขับเคลื่อน และดำเนินเรื่องรักสามเส้าระหว่าง Tashi Duncan (Zendaya จาก Dune และ Spider-Man), Art Donaldson (Mike Faist จาก West Side Story), และ Patrick Zweig (Josh O’Connor จาก The Crown) เช่น ช่วงที่ Tashi แตกหักกับ Patrick ก็เป็นช่วงที่ Tashi ประสบอุบัติเหตุจากการแข่งขัน และมีช่องว่างให้ Art ได้เข้ามาดูแลเธอแทนที่อย่างเต็มตัว ซึ่งการแสดงของทุกคนโดดเด่น ไม่จม ไม่หาย ไปตายสักคน โดยเฉพาะ Zendaya ที่เรื่องนี้สวยมาก แสดงดีมาก ดึงดูดจัด ๆ เซ็กซี่ ฮอตที่สุด ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เธอได้รับบทนำบนจอภาพยนตร์อย่างแท้จริง
หนังเปรียบเปรย “เทนนิสก็เหมือนความสัมพันธ์” ที่มีการตีโต้สลับกันไปมา และหนังเล่าตัดสลับไทม์ไลน์ไปมาอย่างมีชั้นเชิง (คนดูห้ามหลุดโฟกัส! อย่าหลงไทม์ไลน์!) ด้วยการเขียนบทของ Justin Kuritzkes (สามีของ Celine Song ผู้กำกับและนักเขียนบทที่ประสบความสำเร็จในการทำหนังรักสามเส้าจนเข้าชิงออสการ์อย่าง Past Lives), การถ่ายภาพผ่านเลนส์ของ คนไทยในฮอลลีวู้ดอย่าง พี่สอง–สยมภู มุกดีพร้อม ซึ่งปัจจุบัน เรียกว่าเป็น DP คู่บุญคู่ใจของผู้กำกับคนดัง อย่าง Luca Guadagnino มาตั้งแต่ Call Me by Your Name (เรื่องนี้ถือเป็นหนังที่ดูง่ายและบันเทิงที่สุดเรื่องหนึ่งแล้วของผู้กำกับคนนี้)
สิ่งที่น่าสนใจคือ ในขณะที่หนังกีฬาส่วนใหญ่จะใช้องก์สุดท้ายเป็นฉากการต่อสู้ ฉากดวล หรือแมตช์ไคลแมกซ์ระหว่างตัวเอก ที่มักจะโฟกัสที่แต้มหรือโอกาสอันสูสี แล้วลุ้นว่าสุดท้ายแล้วใครจะแพ้ใครจะชนะ แต่เกมเทนนิสใน Challengers ไม่ได้สำคัญที่ใครแพ้ใครชนะ หากแต่สำคัญที่ความสัมพันธ์ที่จะเกิดขึ้นหลังจบเกมนั้น ๆ มากกว่า ซึ่งองก์สุดท้ายของ Challengers นี้ เขาทำถึงมาก จากที่ตลอดเรื่อง เราคิดว่าจะให้คะแนนหนังเรื่องนี้ที่ราว ๆ 7.5-8 แต่พอดูองก์สุดท้ายเท่านั้นแหละ ทุกองค์ประกอบมันเดือดจนต้องอ้าปากค้าง ยอม เอาคะแนนเพิ่มไปเลย จบที่ 8.5 สวย ๆ เป็นซีนที่ต้องรับชมในโรงภาพยนตร์เท่านั้นจริง ๆ
Tennis is a relationship.