แฟนหนังเก่าหลายคนคงจะรู้จักหนังมวย Rocky หนึ่งในผลงานเด่นระดับตำนานของ Sylvester Stallone ซึ่งมีมาหลายต่อหลายภาคมาตั้งแต่ก่อนเราเกิด และเมื่อปี 2015-2018 ที่ผ่านมา ก็มีการขยายจักรวาล เปิดแฟรนไชส์ใหม่ Creed ภาค 1-2 เล่าเรื่องราวของ Adonis “Donnie” Creed (Michael B. Jordan จาก Black Panther) ทายาทของ Apollo Creed หนึ่งในคู่ต่อสู้ที่โด่งดังที่สุดตลอดกาลของ Rocky Balboa
ในสองภาคแรก Donnie ยังคงค้นหาตัวเอง และพยายามตะเกียกตะกายที่จะประสบความสำเร็จในฐานะนักชกอาชีพ แต่ถึงแม้ ในสองภาคแรกนั้น เขาจะสามารถสลัดตัวเองออกจากเงาของพ่อและก้าวขึ้นไปสู่การเป็นแชมป์เฮฟวี่เวทได้ แต่เขาก็ยังเหมือนอยู่ใต้ปีกของ Rocky Balboa ผู้เป็นเมนเทอร์อยู่ดี ซึ่งในที่สุด Donnie ก็จะได้สร้างชื่อของตัวเองและเป็น “Creed” อย่างแท้จริงใน Creed 3 สักที
![](https://i0.wp.com/www.indiewire.com/wp-content/uploads/2023/02/creed-iii.jpg?w=1160&ssl=1)
Creed 3 เสมือนเป็นหนังเรื่องแรกของ Adonis Creed อย่างเต็มตัวจริง ๆ เพราะภาคนี้ไร้เงาของ Rocky Balboa โดยสมบูรณ์ ชนิดที่ไม่โผล่มาแม้แต่รูปถ่ายหรือการเมนชั่นถึง (แต่มีชื่อของ Sylvester Stallone ขึ้นบนเครดิตหนังในฐานะโปรดิวเซอร์) และยังเป็นครั้งแรกที่ Michael B. Jordan ขึ้นแท่นมาทั้งแสดงนำเองและกำกับเองอย่างเต็มตัว
ในขณะที่สองภาคแรกแทบจะเดินตามสูตรสำเร็จของ Rocky ทุก ๆ อย่าง แต่ Michael B. Jordan แทบจะพลิกโฉมแฟรนไชส์ไปเลย โดยเฉพาะฉากขึ้นชกนัดไคลแมกซ์ที่มีความแตกต่างจากภาคก่อน ๆ อย่างเห็นได้ชัด ทำให้มีความรู้สึกสดใหม่และน่าตื่นตาตื่นใจ ยังไม่รวมการถ่ายทำด้วยกล้อง IMAX (เคลมว่าเป็นหนังเกี่ยวกับกีฬาเรื่องแรกที่ใช้กล้อง IMAX) ทำให้ฉากต่อยมวยมันทรงพลัง โคตรเรียลและเสียวไส้ (นี่ก็ดูโรง IMAX และแอบปิดตาไปหลายฉาก เพราะกลัวมันไส้แตก เลือกทะลุจอ)
ถึงแม้การดูหนังมวยที่ถ่ายจากกล้อง IMAX ในโรง IMAX จะทำให้เรารู้สึกว่ากีฬาต่อยมวยมันรุนแรง ป่าเถื่อน และน่ากลัวยิ่งกว่าภาคไหน ๆ ก็ตาม แต่ Michael B. Jordan ทั้งในฐานะผู้กำกับและนักแสดง ก็ใส่หัวใจและความเป็นมนุษย์ลงไปในหนังเยอะมาก จนทำให้เรารู้สึกว่า boxing มันก็คือกีฬาอย่างหนึ่ง ที่ต้องมีวินัย น้ำใจ กฎกติกา การฝึกซ้อม รวมถึง timing, การคอนโทรล, และการโฟกัส ซึ่งเขาพยายามสื่อสารสิ่งเหล่านั้นกับคนดู ผ่านไดอะล็อกต่าง ๆ ที่ Donnie สอนตัวละครอื่น ๆ ในหนัง
![](https://i0.wp.com/www.gannett-cdn.com/presto/2023/02/28/USAT/29fb760c-9593-4d9b-930a-50b2d8e2148f-creed-iii-C3_10599_R2_rgb.jpg?w=1160&ssl=1)
Creed 3 จึงไม่ใช่แค่หนังต่อยมวยหรือหนังกีฬาทั่วไป หากแต่ยังมีมิติ “พ่อแม่” ให้กับนักกีฬา เน้นเรื่อง parenthood และ family มาก ๆ ทั้งครอบครัวโดยสายเลือด และไม่โดยสายเลือด ซึ่งทุก ๆ คนจะได้มีซีนมากขึ้นกว่าภาคก่อน ๆ เช่น Bianca (Tessa Thompson จาก Thor) คนรักของ Donnie ก็มีบทบาทมากขึ้น ไม่ใช่แค่ในฐานะภรรยาและแม่ แต่ยังรวมถึงในทางความก้าวหน้าทางอาชีพการงานและปมความฝันของเธอ
โดยตั้งแต่เปิดฉากภาคแรก เราต่างก็รู้ว่า Donnie ไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของ Mary-Anne (Phylicia Rashad) แต่แม่คนนี้ก็รับลูกเมียน้อยของสามีตัวเองมาเลี้ยงด้วยความรัก แล้ว Donnie ก็เพิ่งสร้างครอบครัวของเขาเองอย่างจริงจังในภาคสองเมื่อเขาแต่งงานกับและมีลูกสาว 1 คน ชื่อ Amara (Mila Davis-Kent) ซึ่งก็มีซีนประทับใจไม่น้อย และพวกเขาก็ไม่ได้ทำให้คนดูรู้สึกว่า ตัวละครที่บกพร่องทางการได้ยินเป็นคนที่ไม่ปกติ และก็ทำให้คนดูเชื่ออีกว่า ผู้สืบทอดสายเลือดนักมวยไม่จำเป็นต้องเป็นแค่ผู้ชาย… ใคร ๆ ก็เป็นนักสู้ได้โดยไม่มีเรื่องเพศมาเป็นข้อจำกัด
นอกจากนี้ คู่ต่อสู้คนสำคัญประจำภาคของ Creed 3 ก็มีมิติมากขึ้น นั่นก็คือ Damian Anderson (Jonathan Majors จาก Ant-Man) มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ Donnie เสมือนเป็นพี่น้องแท้ ๆ เพราะเติบโตมาในสถานเด็กกำพร้าด้วยกัน และมีปูมหลังร่วมกันมากมาย ซึ่งจู่ ๆ ก็กลับมาในวันที่ Donnie ประสบความสำเร็จอยู่แทบบนจุดสูงสุดของสายอาชีพ และมีสิ่งที่กลัวจะต้องสูญเสียมากมาย ในขณะที่ Damian แทบไม่มีอะไรจะเสีย ดังนั้น ในภาคนี้ Donnie จึงต้องก้าวข้ามผ่านและต่อสู้กับ “อดีต” ของเขาด้วยตัวเขาเองให้ได้
โดยสรุป Creed 3 เป็น Creed ฉบับอัพเกรด เป็นภาคที่เราชอบมากที่สุดในทุก ๆ มิติ และอาจติดอันดับหนังที่เราชอบมาก ๆ ในปี 2023 นี้