Elemental เล่าเรื่องใน Element City ซึ่งเป็นเมืองคล้าย ๆ นิวยอร์ก แต่ประชากรเป็นชาวธาตุทั้งสี่ ได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟ โดยชาวไฟเป็นพวกที่อพยพมาหลังสุด พ่อแม่ของ Ember Lumen (Leah Lewis จาก The Half of It) เป็นครอบครัวแรก ๆ ของชาวไฟที่มาตั้งรกรากใหม่ที่นี่ พวกเขาจึงมักโดน discriminate จากพวกธาตุอื่น ๆ ถึงแม้หลัง ๆ จะเริ่มมีชาวไฟมาอยู่เพิ่มขึ้นจนเป็น community ที่เรียกว่า Fire Town แต่เมืองนี้ก็ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อคนอย่างพวกเขาตั้งแต่แรก เพราะเต็มไปด้วยน้ำ
Ember จึงได้โตมาพร้อมกับความลำบากและความเสียสละของพ่อแม่ ทำให้รู้สึกว่าตัวเองมีภาระหน้าที่และความรับผิดชอบที่ต้องช่วยเหลือหรือตอบแทนพ่อแม่โดยไม่รู้ตัว จนละเลยความต้องการส่วนตัวหรือตัวตนของตัวเองไปบ้าง ครอบครัวของเธอเปิดร้านขายของ พ่อก็หมายมั่นปั้นมือให้เธอได้สืบทอดกิจการเมื่อเขาเกษียณ แต่ Ember เป็นคนอารมณ์ร้อน มัก lose temper กับลูกค้าบ่อย ๆ พ่อจึงมองว่าลูกสาวยังไม่พร้อม
จนกระทั่งวันหนึ่ง Ember ได้พบกับ Wade Ripple (Mamoudou Athie) หนุ่มชาวน้ำที่นิสัยต่างกันสุดขั้ว พวกเขามีภารกิจที่ต้องทำร่วมกันเพื่อปกป้องร้านที่พ่อรัก แล้วทั้งสองเป็นคู่หูที่เคมีแตกต่างกันอย่างลงตัว พวกเขากลายเป็นคนที่ดีขึ้น ได้รู้จักและค้นพบตัวเอง และสุดท้ายก็ตกหลุมรักกัน แต่ ณ ตอนนั้น พวกเขาถูกกำหนดว่าต้องแต่งงานหรือผสมกับพวกธาตุเดียวกันเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ชาวไฟไม่ได้เป็นตัวแทนของชนกลุ่มน้อยชนชาติใดชนชาติหนึ่งหรือวัฒนธรรมใดวัฒนธรรมหนึ่ง หากแต่เป็นตัวแทนของคนชายขอบทั้งหมดโดยทั่วไป ซึ่งพวกเราล้วนเห็นตัวเองในตัวละครชายขอบในเรื่องได้ทั้งนั้น เช่น Ember ที่ถูกพ่อแม่ปลูกฝังว่าต้องสืบทอดกิจการครอบครัวเหมือนครอบครัวคนจีน หรือการแต่งกายที่ต้องคลุมผมเหมือนชาวมุสลิม ฯลฯ
นอกจากนี้ ในขณะที่สาวไฟแรงอย่าง Ember โตมาอย่างสู้ชีวิตในฐานะคนกลุ่มน้อย หนุ่มชาวน้ำอย่าง Wade มาจากคนกลุ่มใหญ่ในสังคม และยังเป็นลูกคุณหนูชนชั้นเลือดสีน้ำเงิน มันจึงเหมือนรักต้องห้ามที่ตีความได้ทั้งความรักต่างชนชั้น ความรักต่างชนชาติ-สีผิว หรือกระทั่งความรักแบบเพศเดียวกัน ซึ่งปัจจุบันยังถูกจัดเป็นคนชายขอบในสังคมเช่นกัน แต่ Elemental ไม่ได้ขายความ tragedy สไตล์เชคสเปียรส์ แต่มาเน้นขายการหาทางช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และการอยู่ร่วมกันท่ามกลางความแตกต่าง ซึ่งบางครั้งความแตกต่างก็สร้างสิ่งใหม่ ๆ หรือสิ่งที่สวยงามขึ้นได้อย่างไม่คาดฝันเช่นกัน
Peter Sohn (จาก The Good Dinosaur) ผู้กำกับ Elemental เองก็มีประสบการณ์ตรงกับประเด็น immigration, marginalized, หรือ social exclusion มาก่อนเช่นเดียวกับ Ember เพราะพ่อแม่ของเขาเป็นผู้อพยพจากเกาหลีมาอเมริกาในยุคแรก ๆ (คล้ายในเรื่อง Minari) และเปิดร้านขายของชำเช่นกัน เขาจึงถ่ายทอดเรื่องราวต่าง ๆ ออกมาได้อย่างจริงใจ
ถึงแม้ Elemental จะเป็นแอนิเมชั่นแนวโรแมนติกคอเมดี้ ที่ยังไม่ได้ถึงเล่นประเด็นใหญ่ลึกซึ้งและเล่าเรื่องถึงขั้นมาสเตอร์พีซเท่าผลงานเรื่องก่อน ๆ ของ Pixar อย่าง Inside Out, Coco, Soul ฯลฯ แต่ก็จัดเป็นหนังที่น่ารักและโรแมนติกที่สุดเรื่องหนึ่งแห่งปี เราดูรอบ sneak preview ที่มีเพื่อนร่วมชมด้วยเกือบเต็มโรง บรรยากาศในโรงนี้มันช่วยตอกย้ำความสำคัญของการมีอยู่ของโรงภาพยนตร์ที่ Streaming Platforms หรือการดูหนังที่บ้านยังทดแทนไม่ได้ เพราะบรรยากาศในโรงมันดีมาก มันเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะคิกคักและมีอารมณ์ร่วมกับตัวละครตั้งแต่ Carl’s Date การ์ตูนสั้นปะหน้าแล้ว เราสัมผัสได้ว่าคนในโรงชอบและเอ็นดูเหล่าตัวละครทั้งหลายบนจอนี้จริง ๆ
Elemental ฉายจริง 22 มิถุนายน 2023 ในโรงภาพยนตร์