SUMMARY - เรื่องราวในภาคนี้เกี่ยวกับ Lucius (Paul Mescal) ทายาทของ Maximus (Russell Crowe) ในฐานะเชลยศึกและนักสู้แกลดดิเอเตอร์ - ประเด็นไม่สดใหม่ แต่ก็มีฉากต่อสู้ที่น่าตื่นตาตื่นใจในแบบใหม่ ๆ ด้วยเทคโนโลยีที่เอื้ออำนวยกว่า 24 ปีก่อน - Gladiator 2 เปรียบเสมือนลูกของภาคแรก แม้จะมีส่วนที่คล้ายพ่อ แต่ก็แตกต่าง ไม่อยากให้เปรียบเทียบ ถ้าไม่เคยดูภาคแรกก็สนุกกับภาค 2 ได้ - Paul Mescal เอาอยู่ แต่ Denzel Washington ขโมยซีนกินรอบวง
ลองมาดู Gladiator 2 โดยไม่ทวนหนังภาคแรก ก็ยังดูรู้เรื่อง ดีไม่ดี จะรู้สึกว่าหนังสนุกมากเสียด้วยซ้ำ เพราะไม่มีการเปรียบเทียบกับภาคแรกที่ epic และ masterpiece ระดับออสการ์ — ย้ำ! ถึงแม้ว่านี่อาจไม่ดีเท่าภาคแรกและคุณปู่ Ridley Scott ก็ไม่ได้ให้อะไรที่สดใหม่นัก นอกจาก CG ที่ใช้ได้เยอะกว่า 24 ปีก่อน แต่ Gladiator 2 ก็ไม่ใช่หนังภาคต่อที่แย่ ตรงกันข้าม นี่เป็นหนังที่ดีเรื่องหนึ่งเลยด้วยซ้ำ
Gladiator 2 เล่าเรื่องราวของ Lucius (Paul Mescal จาก Aftersun) ทายาทของ Maximus (Russell Crowe) ที่ต้องหลบหนีไปอยู่แอฟริกาแต่เด็ก แต่โชคชะตาก็นำพาให้เขากลับมายังบ้านเกิด เมื่อแอฟริกาพ่ายแพ้ต่อกองทัพโรม นำโดยนายพล Acacius (Pedro Pascal จาก The Last of Us) ทำให้ Lucius ถูกจับมาเป็นเชลย ซึ่งต่อมา Macrinus (Denzel Washington จาก Equalizer) ได้ซื้อตัวเขามาเป็นแกลดดิเอเตอร์ในสังกัด ในขณะเดียวกัน Lady Lucilla (Connie Nielsen คนเดิม บทเดิม จากภาคแรก) ก็อยากสานต่อความฝันของกรุงโรมของพ่อ ซึ่งเป็นอดีตจักรพรรดิ เพราะตอนนี้กรุงโรมกำลังอยู่ในกลียุค ภายไต้การปกครองของสองจักรพรรดิแฝด Geta (Joseph Quinn จาก A Quiet Place: Day One) และ Caracalla (Fred Hechinger) ที่ไม่เคยเห็นหัวประชาชน
ประเด็นการเมืองและสงครามอาจไม่ได้สดใหม่ แต่ถ้ามองจากสถานการณ์โลก ณ ปัจจุบันแล้ว การเน้นย้ำประเด็นนี้ในหนังระดับตำนาน โดยผู้กำกับและนักแสดงระดับ A-List ก็เป็นเรื่องที่น่าสนับสนุน ซึ่งคุณปู่ Ridley Scott ในวัยย่าง 90 ปี ก็เต็มที่จริง ๆ กับการทำฉากสงคราม การต่อสู้ เและฉากประลองที่แตกต่างจากที่เราเคยดู ทั้งการมีลิง มีแรด มีเรือ และมีฉลามในโคลอสเซียม (ซึ่งได้ข่าวแว่ว ๆ ว่า ปู่แกมีไอเดียอยากจะทำภาค 3 ต่ออีก!) เราดูในโรง IMAX มันตื่นตาตื่นใจมากจริง ๆ แต่ก็แอบเสียดายว่า มันน่าจะจัดหนักกว่านี้ได้อีก ต่อให้มันจะทำให้หนังยาวขึ้นสัก 15 นาที (จากที่ตอนนี้ก็ยาว 2 ชั่วโมงครึ่งอยู่แล้ว) เราก็ยอม
ณ ที่นี้ อยากให้มองว่า Gladiator (2000) เป็นพ่อ แล้ว Gladiator 2 (2024) เป็นลูก เหมือนกับที่ Russell Crowe กับ Paul Mescal เป็นพ่อ-ลูกกัน ถึงแม้ว่าลูกอาจจะยังมีความเหมือนพ่อหรือเจริญรอยตามพ่อบางอย่าง แต่สุดท้าย พวกเขาก็เป็นคนละคนกัน และคงไม่มีลูกคนไหนอยากอยู่ใต้เงาพ่อหรือถูกเปรียบเทียบกับพ่อ ซึ่งสำหรับเรา เราคิดว่า Paul Mescal เอาอยู่นะ ดูมีทั้งความแกร่งกร้าวและความเป็นมนุษย์ที่อ่อนโยนอยู่ในคนเดียวกัน ประกบกับดาราเบอร์ใหญ่ก็ไม่จม ถึงแม้ Denzel Washington จะขโมยซีนชนิดกินเรียบรอบวงก็ตาม