รีวิว Midway: สงครามอเมริกาถล่มญี่ปุ่น

ถ้าพูดถึงสงครามโลกครั้งที่ 2 หลายคนจะนึกถึง “ฮิตเลอร์” หรือ “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ยิว” กับ “ยุทธการเพิร์ลฮาร์เบอร์” ซึ่งญี่ปุ่นโจมตีอเมริกาอย่างไม่ทันตั้งตัวในช่วงเช้าของวันที่ 7 ธ.ค. 1941 และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้อเมริกาเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่สองอย่างเป็นทางการหลังจากยืนกรานเป็นกลางมาเป็นปี ๆ

แต่สงครามระหว่างอเมริกากับญี่ปุ่นหลังความปราชัยของอเมริกาที่ Pearl Harbor คือ ยุทธนาวีมิดเวย์ (Midway) ก็ถือเป็นจุดเปลี่ยนประวัติศาสตร์และเป็นศึกตัดสินครั้งสำคัญของสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยหมู่เกาะ Midway นี้เองเป็นฐานกำลังรบสำคัญของกองเรืออเมริกาในมหาสมุทรแปซิฟิก จึงเป็นจุดหมายสำคัญที่ญี่ปุ่นหวังจะเผด็จศึกเพื่อกำชัยขั้นเด็ดขาด หากอเมริกาพ่ายแพ้ที่ Midway นี้อีก เมืองใหญ่ ๆ ทางตะวันตกอย่าง Seattle, San Francisco, และ Los Angeles ต้องราบเป็นหน้ากอง

“Men like DICK BEST are the reason we’re going to win this war.”

Wade McClusky (Luke Evans) – Midway (2019)

หนัง Midway สร้างจากเรื่องจริงจากหน้าประวัติศาสตร์ข้างต้น กำกับโดย Roland Emmerich ผู้กำกับหนังบล็อกบัสเตอร์ชื่อดังมากมายอย่าง Independence Day (ID4), Godzilla, The Patriot, The Day After Tomorrow, 2012, White House Down ฯลฯ ซึ่งผลงานที่ผ่านมา การันตีความวินาศสันตะโรกันได้เลย

Midway มีตัวละครเยอะแยะมากมายจนจำไม่หวาดไม่ไหว และมีนักแสดงรุ่นใหญ่รุ่นเล็กมารวมตัวกันอย่างคับคั่ง ซึ่งถือว่ายังดีที่หนังมีเมตตา ถ้าตัวละครเยอะแล้วเราไม่คุ้นหน้านักแสดงคนไหนมาก่อนเลย ก็อาจจะงงกว่านี้ สับสนกว่านี้ หรือจำยากกว่านี้ว่าใครเป็นใคร โดยเฉพาะคนที่ไม่ได้ทำการบ้านมาก่อนหรือไม่ค่อยมีความรู้รอบตัวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ดังกล่าวมาก่อนอย่างเราเนี่ย ต้องใช้สติในการตามเรื่องตามราวพอสมควรกว่าเครื่องจะติด

ในความยาวเกือบสองชั่วโมงครึ่งของหนังและในบรรดาตัวละครมากมาย คนที่เด่นที่สุด แอร์ไทม์เยอะสุด มีฉากกดดัน และฉากลุ้นระทึกให้กับผู้ชมเยอะสุด เห็นจะเป็นนักบิน Dick Best (Ed Skrein จาก Game of Thrones) เพราะหนังพาเราตามติดเค้าคนนี้มากที่สุดจนแทบจะเหมือนไปอยู่เบาะเดียวกับเขาบนเครื่องบินรบ อีกทั้งยังพาเราไปรู้จักกับเมีย (Mandy Moore จาก A Walk to Remember) และลูกสาวของเขาอีกด้วย

Dick Best เป็นนักบินหน่วยทิ้งบอมบ์ที่บ้าระห่ำสุดโต่ง ลุยไปกลางดงศัตรูแบบไม่รักตัวกลัวตาย จนพาร์ทเนอร์คู่บินของเขา James Murray (Keean Johnson จาก Alita: Battle Angel) ต้องกลัวและเครียดแทนครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ Dick Best ก็เป็นนักบินที่ได้รับการยอมรับเรื่องความสามารถ คู่คี่กับ Wade McClusky (Luke Evans จาก Dracula Untold) ทั้งสองอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของพลเรือโท William ‘Bull’ Halsey (Dennis Quaid จาก The Day After Tomorrow)

ผู้ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้บังคับบัญชาการสูงสุดของฝั่งอเมริกาให้ไปต่อกรกับ Admiral Isoroku Yamamoto (Etsushi Toyokawa) ของญี่ปุ่นในสมรภูมินี้คือ Admiral Chester Nimitz (Woody Harrelson จาก Zombieland) โดยเขาวางแผนรบกับหน่วยข่าวกรอง Edwin T. Layton (Patrick Wilson จาก The Conjuring) ผู้ดักฟังวิทยุสื่อสารของญี่ปุ่นจนนำพามาซึ่งการพลิกเกมและชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ แต่สำหรับหนังเรื่องนี้ พาร์ทของคนเหล่านี้ก็ได้รับความสำคัญรองลงมาจากพาร์ทนักบิน

นอกจากนี้ ฝั่งอเมริกาก็ยังมีนายช่าง Bruno Gaido (Nick Jonas จาก Jumanji: Welcome to the Jungle) ที่โดดเด่นในเรื่องของความกล้าหาญอีกคน กับ Jimmy Doolittle (Aaron Eckhart จาก The Dark Knight) ที่กระโดดจากเครื่องไปตกอยู่ละแวกหมู่บ้านคนจีน ฯลฯ แต่ละคนมีเส้นเรื่องของตัวเอง แต่ไม่ค่อยมีบทบาทเท่าพาร์ทของ Dick Best

เราไม่ใช่คอหนังสงครามและไม่ได้ดูหนังสงครามมามากมายอะไร แต่ถ้าเทียบกับเท่าที่เคยดูมา Midway ถือว่าค่อนไปทางสายแอ็คชั่นมากกว่าจะมาทางสายดราม่าหรือหดหู่อะไร หนังค่อนข้างเทน้ำหนักไปทางฉากสงครามตู้มต้ามมากกว่าการพาไปสำรวจตัวละครต่าง ๆ ดังนั้น ถ้าใครมองหาความบันเทิงหรือฉากแอ็คชั่นมัน(ส์) ๆ เรื่องนี้ก็ตอบโจทย์ดีเลยทีเดียว แต่ถ้าสายหนังสงครามหรือหนังประวัติศาสตร์ที่ชอบความดราม่าเข้มข้น อาจจะต้องลดความคาดหวังลงมาหน่อย

แนะนำว่า ทำการบ้านเรื่องตัวละครและประวัติศาสตร์ตรงนี้ก่อนเข้าไปดูสักหน่อย จะทำให้ตามเรื่องได้ไวขึ้นและอาจจะดูได้อรรถรสมากขึ้นประมาณหนึ่ง ส่วนใครที่เป็นคอหนังสงครามหรือประวัติศาสตร์อยู่แล้ว ยังไงก็ต้องดู และไม่ว่าจะยังไง ฉากแอ็คชั่นสนุกแน่นอน

คะแนนตามความชอบส่วนตัว 7.5/10