Rachel Zegler ได้พิสูจน์แล้วว่า เธอได้เป็น Snow White เพราะความสามารถ 100% และไม่ได้เข้าชิงออสการ์จาก West Side Story (ผลงานหนังเรื่องแรกของเธอ) เพราะโชคช่วยแน่ ๆ
หลังจากทนถูกทัวร์ลงมาหลายปี วันนี้นักแสดงสาวเชื้อสายละตินวัย 23 ปี ได้รับการยอมรับว่า เธอคือสิ่งที่ดีที่สุดของหนังและเป็นนางเอกที่ ทั้งร้องทั้งแสดงดีที่สุด ในบรรดาหนัง live-action ของ Disney (เพราะหนังมิวสิคัล มันต้องไม่ใช่แค่ร้องเพลงเพราะ อินเนอร์การแสดงมันต้องได้ด้วย) เพลงใหม่ของเรื่องอย่าง Waiting on a Wish ก็ไม่ใช่แค่เพราะจนขนลุก แต่ยังมีเนื้อหาที่ empowering เหมาะกับยุคสมัยมากขึ้น
นอกจากการแสดงที่ละเอียดลออและเสียงร้องที่ทรงพลังของ Rachel Zegler เราชื่นชอบการตีความและปรับบทใหม่ โดยเฉพาะ สโนไวท์เวอร์ชั่นนี้โฟกัสกับการเป็นเสียงเล็ก ๆ หรือคนตัวเล็ก ๆ ในสังคม สโนไวท์เวอร์ชั่นนี้จะไม่มีเจ้าชายขี่ม้าขาว พระเอกคือชาวบ้านธรรมดา และเป็นหัวหน้ากลุ่มกบฏและสโนไวท์เวอร์ชั่นนี้ จะไม่เอาแต่ฝันหรือเฝ้ารอแต่รักแท้อีกแล้ว แต่เธอค้นหาตัวตนที่หายไปและฝันที่จะเป็นผู้นำที่ดีเหมือนพ่อและแม่ของเธอ หมดปัญหา princess problems
หลายคนอาจต้องการความเหมือนต้นฉบับเป๊ะ ๆ แต่สำหรับเรา ทุกสิ่งอย่าง ไม่ว่ามันจะเกิดก่อนหรือเกิดหลัง ไม่ว่าจะอยู่มานานแค่ไหน หรือต่อให้เป็นวรรณกรรมคลาสสิก มันก็ไม่ได้แปลว่าถูกต้องหรือดี 100% ทุกอย่างบนโลกล้วนมีข้อดีข้อเสีย สามารถวิจารณ์เชิงสร้างสรรค์ได้หรือดัดแปลงได้ตามใดที่ยังคงรักษาแก่นหลักของเรื่องไว้ ซึ่ง สำหรับ Snow White ก็คือความดีงามอันบริสุทธิ์
สำหรับเรา ต้นฉบับสโนไวท์ หรือเทพนิยายกริมม์ ถูกเขียนโดยชายแท้ผิวขาวตั้งแต่ปี 1812 และแอนิเมชั่น Snow White and the Seven Dwarfs ของ Disney เอง ก็ออกฉายตั้งแต่ปี 1937 ซึ่งเป็นยุคที่ชายแท้ผิวขาวยังครองโลกและครองฮอลลีวู้ด เราจึงเห็นชอบกับการปรับเปลี่ยนบทให้เข้ากับยุคสมัย และเห็นด้วยกับ Rachel Zegler ว่า ต้นฉบับมันล้าหลังเกินไปแล้วในเรื่องของบทบาทและอำนาจของผู้หญิง (The original animated film is “extremely dated” regarding women’s roles and power.) เพราะเราเข้าใจว่า มีเดียมันล้วนส่งผลกระทบและมีพลังในการสร้างภาพจำของคนดู เราก็ไม่อยากให้เด็กรุ่นใหม่โตไปกับ perception เช่นนั้นอีกแล้ว
Snow White เวอร์ชั่นคนแสดงนี้ อาจยังมีบาดแผล อาจไม่ใช่หนังรีเมค ดัดแปลง หรือหนังมิวสิคัลที่ดีเลิศ เช่น เราก็ไม่ชอบซีจีคนแคระทั้งเจ็ด และเราก็รู้สึกว่าเสียงร้องและการแสดงของนักแสดงนำอีกท่านก็ทำให้ไดนามิคของหนังดร็อปไปมาก แต่เราเชื่อว่า Marc Webb (ผู้กำกับ 500 Days of Summer และ The Amazing Spider-Man) มีสปิริตมากและทำเต็มที่แล้วท่ามกลางแรงกดดันและข้อจำกัดที่มี
สรุป ถึงแม้หนังมันจะไม่ถึงระดับมาสเตอร์พีซแบบ Wicked แต่มันห่างไกลจากคำว่าหนังห่วยมาก ๆ และเรื่องราวก็ควรค่าแก่การหยิบยกมาเล่า ที่สำคัญ แค่ได้เห็น performance ที่เป็น rare talent และฟังเสียงสวรรค์ของ Rachel Zegler ในโรง IMAX ก็นับเป็นบุญตาบุญหูแล้วในชาตินี้