หลังจากตัวอย่างแรกของ Sonic The Hedgehog ฉบับ Live Action ถูกปล่อยออกมาแล้วโดนประชาชนทั่วโลกวิจารณ์ยับถึง CGI รูปร่างหน้าตาของเจ้าเม่นสายฟ้าที่แตกต่างจากในวิดีโอเกมอย่างรับไม่ได้ ผู้กำกับและทีมสร้างก็ได้เลื่อนกำหนดการฉายออกไป เพื่อขอเวลาทำ CGI ใหม่ตามคอมเมนต์ของชาวเน็ต จนออกมาเป็น Sonic The Hedgehog ฉบับ final ในแบบที่เรากำลังจะได้ชมกันนี้
รูปลักษณ์ของ Sonic ออกมาโอเคขึ้นมาก แต่ CGI ก็ยังมีลอย ๆ อยู่มาก ไม่ได้เนียน แต่รวม ๆ ก็โอเค ไม่ได้แย่ และด้วยเนื้อเรื่องมีสาระ เนื้อหาเป็นมิตรต่อทุเพศทุกวัย และการดำเนินเรื่องที่เรื่อย ๆ เพลิน ๆ สอดแทรกมุกตลกและ easter eggs ตลอด ภาพรวมของหนังจึงไม่น่าเบื่อ และดูเพื่อความบันเทิงได้
ในหนัง Sonic (Ben Schwartz จาก Park and Recreation) จำต้องหลบหนีจากบ้านมาเพราะมีคนร้ายต้องการเอาพลังของเขาไปใช้ และเขาก็มาโผล่ที่ กรีนฮิลล์ มอนทาน่า ซึ่งเป็นเมืองเล็ก ๆ และได้พบกับนายอำเภอ Tom Wachowski (James Marsden จาก X-Men) กับ Maddie ภรรยาผู้แสนดีของเขา (Tika Sumpter จาก Ride Along) ที่ต่อมาจับพลัดจับผลูต้องมาช่วยเขาจากการไล่ล่าของ Dr Robotnik (Jim Carrey จาก The Mask) ซึ่งต้องการพลังของ Sonic ไปใช้ในการพัฒนาเทคโนโลยีของเขา (ด้วยภาษีประชาชน)
เสน่ห์ของหนังคือไดอะล็อกที่สอดแทรก pop culture ทั้งหนังและเพลงดังในยุค 90 ถึงปัจจุบัน ที่ใครเกิดทันหรืออยู่ในแวดวงจะต้องกรี๊ดกร๊าดชอบใจ ไม่ว่าจะเป็น หนังเรื่อง Speed, เพลง Don’t Stop Me Now ของวง Queen (ที่มีคำว่า Supersonic), การ์ตูน The Flash, จนถึงความละม้ายคล้ายหนังฮีโร่ดัง เช่น The Flash, Dr. Strange, X-Men ฯลฯ
ประกอบกับเจ้า Sonic ก็มีคาแรกเตอร์ที่น่ารัก และยังมีความเป็นเด็กน้อยจอมซนที่คนดูจะหลงรักได้ไม่ยาก (เหมือนซูเปอร์ฮีโร่ Marvel หลายตัวรวมกันกับ Deadpool)
Carrey ก็เล่นใหญ่รัชดาลัยเรียกพี่อย่างมาก บทของเค้าโคตรจะเป็นด็อกเตอร์สติเฟื่อง มีความ supremacist และเหยียดเก่ง มีความร้ายและล้นเหมือนคาแรกเตอร์ตัวร้ายในเกมหรือการ์ตูนผสม Hitler อย่างไรอย่างนั้น แต่เขาก็เล่นได้ดี ตลกจริง ไม่น่ารำคาญ และไม่เลวร้ายอย่างที่ Hugh Jackman เคยทำไว้ในบทตัวร้ายของหนังเรื่อง Pan
ในส่วนของเนื้อเรื่อง Sonic The Hedgehog ก็เล่าง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน ไม่ได้ลงประเด็นใหม่อะไร หลัก ๆ ก็เรื่องครอบครัวและมิตรภาพ เอาจริงก็มีช่องโหว่เยอะ เช่น พระเอกถูกหมายหัวโดยรัฐบาลและออกสื่อโครมครามว่าเป็น terrorist แต่ก็ดูยังไปไหนมาไหนได้ชิลล์ ๆ อยู่ แต่ก็นั่นแหละ ดูเอาเบาสมอง ไม่คิดเยอะ ฉากไล่ล่าระหว่าง road trip ก็สนุกอยู่ ลูกเล่นเยอะ
โดยสรุป Sonic The Hedgehog ก็ตอบโจทย์ความบันเทิงได้อยู่ ไม่ต้องใช้สมองมาก เพลิน ๆ เบาสมอง ดูได้ทุกวัย ไม่ใช่แฟนเกมก็ดูได้ หรือเป็นแฟนเกมก็ดูดี
คะแนนตามความชอบส่วนตัว 7.5/10
28 comments
Comments are closed.