The Order ดัดแปลงจากเรื่องจริงในยุค ‘80 เกี่ยวกับกลุ่มผู้ก่อการร้าย White Supremacy (พวกคลั่งและบูชาชนผิวขาว เช่น KKK, Neo-Nazi) เหมาะกับคอหนังแนวสืบสวนและตำรวจไล่ล่าผู้ร้าย ที่เน้นความตึงเครียด กดดัน สมจริง (เช่น No Country for Old Men) มากกว่าขายความตื่นเต้นหรือแอ็คชั่นเร้าใจ
พล็อตเรื่องอาจไม่ได้แปลกใหม่อะไรมาก เหมือนหนัง cat & mouse ทั่วไป แต่การเขียนบทของ Zach Baylin (ผู้เข้าชิงออสการ์จาก King Richard) ทำให้หนังดำเนินเรื่องอย่างน่าติดตาม ตัวละครหลักมีมิติ โดยบาลานซ์มุมมองให้เห็นทั้งด้านขาวและด้านดำของแต่ละคน ซึ่ง Jude Law ในบท FBI กับ Nicholas Hoult ในบทหัวหน้าแก๊งผู้ก่อการร้าย ได้มอบผลงานการแสดงที่โดดเด่นที่สุดเรื่องหนึ่งในชีวิตนักแสดงของพวกเขาเลยทีเดียว
สิ่งที่เราชอบคือ หนังบิลด์บรรยากาศความตึงเครียดได้เก่ง ทำให้เรารู้สึกว่า ในโลกของความเกลียดชังนี้ ความรุนแรง เช่น ระเบิดหรือการยิงกัน เกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา แม้แต่ที่บ้านที่เต็มไปด้วยลูกเล็กเด็กแดงหรือกระทั่งในโบสถ์
และที่ชอบที่สุดก็คือ เมสเซจในหนังที่เน้นย้ำถึงความสำคัญของความเชื่อ อุดมการณ์ ความคิด และการถ่ายทอดรุ่นสู่รุ่น โดยเฉพาะผ่านวาทกรรมและการกระทำที่รุนแรง (Both pens and swords) ซึ่งอยู่ยั้งยืนยงหรือส่งผลในระยะยาวกว่าตัวบุคคล (นึกภาพว่า ถึงแม้ฮิตเลอร์จะตายไปแล้ว แต่ก็ยังมีผู้ติดตามแนวคิดของเขาอยู่)
The Order โดยสรุป อาจไม่ได้หวือหวาหรือมาสเตอร์พีซ แต่กลับมุ่งเน้นการเล่าเรื่องที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับสิ่งที่ฝังรากลึกในสังคม นี่คือหนังที่สะท้อนความจริงอันโหดร้ายในอดีตและเตือนเราถึงผลกระทบที่ยังคงส่งผลหรือความเกลียดชังที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน