David F. Sandberg (ผู้กำกับ Lights Out และ Annabelle: Creation) ตามรอยศิษย์พี่ James Wan (ผู้กำกับ The Conjuring และ Aquaman) เข้ามากู้หน้าจักรวาล DC อีกคน โดยตอนนี้ ทั้งสองผู้กำกับหนังสยองขวัญ ได้พิสูจน์แล้วว่า เขาก็สามารถทำหนังซูเปอร์ฮีโร่ได้ดีไม่แพ้กัน
Shazam! ของ David F. Sandberg เปิดเรื่องมาไม่ทิ้งลายเซ็น ทำเอาคนดูอย่างเราเกือบนึกว่าเข้าโรงผิดมาดูหนังผี แต่ก็นั่นแหละ นี่คือหนังฮีโร่ ไม่ใช่หนังผี แต่อย่างไรก็ตาม มันก็ค่อนข้างแตกต่างจากหนังซูเปอร์ฮีโร่เรื่องอื่น ๆ ของค่าย DC ตรงที่ไปเอาดีทางสายเกรียน-สายฮา แถมประสบความสำเร็จซะด้วย
ตอนแรกเราก็กลัวว่ามันจะสนุกหรอวะ เพราะเทรลเลอร์ดูต๊อง ๆ เกรียน ๆ ปัญญาอ่อน แต่ปรากฏว่า ในหนังตัวเต็ม มุกตลกส่วนใหญ่มันชวนขำจริง ๆ และจังหวะเป๊ะดีโคตร น้อยมากที่จะเจอมุกแป้ก (เอาจริง ตอนนี้ยังนึกไม่ออกว่ามีมุกที่แป้กด้วยมั้ย) อย่างน้อย ๆ ความน่ารักและเสน่ห์ของเด็ก ๆ ในเรื่องก็ทำให้อมยิ้มและหัวเราะกันตั้งแต่ต้นจนจบแน่นอน นอกจากนี้ยังมี Easter eggs เยอะมาก ที่น่าจะโดนใจแฟน ๆ ฮีโร่ DC อยู่หลายซีน
เรื่องของเรื่องคือ Billy Batson (Asher Angel จาก Andi Mack) เป็นเด็กกำพร้าที่พยายามตามหาแม่แท้ ๆ ของเขามาทั้งชีวิต เขาเปลี่ยนบ้านอุปถัมภ์มานับครั้งไม่ถ้วนก่อนจะมาลงเอยที่ครอบครัวของ Rosa (Marta Milans) และ Victor (Cooper Andrews) ซึ่งบ้านนี้ ได้อุปถัมภ์เด็ก ๆ อีกหลายคน ซึ่งมีความแตกต่างหลากหลาย ทั้งนิสัยใจคอและเชื้อชาติสีผิว รวมถึงยังมีคนทุพพลภาพอยู่ด้วย นั่นก็คือ Freddy (Jack Dylan Grazer จาก It)
Billy ได้รับพลังจากพ่อมดเฒ่า Shazam (Djimon Hounsou จาก Guardians of the Galaxy) ทำให้เขาสามารถแปลงร่างเป็นฮีโร่หนุ่มล่ำ (Zachary Levi จาก Thor) และมีพลังหลายอย่างที่เขาเองก็ยังไม่รู้ว่าทำอะไรได้บ้าง เขาค่อย ๆ ค้นพบและฝึกใช้พลังของเขา โดยมีเนิร์ดฮีโร่อย่าง Freddy เป็นผู้ช่วย
ส่วนตัวร้ายของเรื่องคือ Dr. Thaddeus Sivana (Mark Strong จาก Kingsman) ซึ่งมีปมมาแต่เด็ก และพยายามทำทุกทางเพื่อให้ได้มาซึ่งพลังอำนาจของ Shazam แต่เขาก็เป็นตัวร้ายที่มีมิติ คนดูจะได้เห็นและได้เข้าใจที่มาที่ไป จากพื้นฐานการเลี้ยงดูและสภาพแวดล้อมของครอบครัว ว่าทำไมเขาจึงโตมาเป็นแบบนี้
หนังฮีโร่เรื่องนี้มีธีมครอบครัวที่แข็งแกร่งและไม่ซ้ำจำเจ โดยเล่าถึงความหมายของครอบครัวที่สมบูรณ์แบบแบบใหม่ ที่ไม่จำเป็นต้องหมายถึงพ่อแม่ลูกที่ให้กำเนิดกันเสมอไป และนำเสนอระบบครอบครัวอุปถัมภ์และการดูแลเด็กกำพร้าในบ้านเขา ซึ่งเห็นได้ชัดว่า นำไปไกลกว่าประเทศที่ตามหลังเขาหลายสเต็ป
ด้วยความที่คอนเซ็ปต์มันเป็นฮีโร่ในร่างเด็ก และเด็กที่เป็นตัวเอกในเรื่องเริ่มต้นมามีปมมีปัญหาครอบครัว โดย Billy นี้ พลัดพรากจากแม่ตั้งแต่ยังเด็ก สำหรับเขา ครอบครัวอุปถัมภ์บ้านไหน ๆ ก็ไม่ใช่ครอบครัวที่แท้จริงของเขา และเหมือนเขาจะไม่สามารถรู้จักตัวเองได้เลยหากไม่ได้รู้พื้นเพโดยกำเนิดของตน ดังนั้นหนัง Shazam! จึงไม่พ้นเป็นหนัง coming-of-age
ตอนที่ Billy ได้พลังใหม่ ๆ เขาไม่รู้ว่าเขาจะใช้และควบคุมมันได้อย่างไร เพราะทันทีที่ได้พลังนั้นมา พ่อมดผู้ถ่ายทอดพลังนั้นให้ก็อันตรธานสลายหายวับไปทันที เท่ากับว่าเขาไม่มี mentor เหมือนฮีโร่หลาย ๆ เรื่อง มีแต่ Freddy เพื่อนรักตามที่บอกไปแล้วข้างต้น (แล้วน้อง Jack Dylan Grazer เล่นดี เข้าฉากกับผู้ใหญ่ก็ไม่ดร็อป ชอบน้องมาตั้งแต่เรื่อง It ละ)
สิ่งแรกที่พวกเขาทำคือ ใช้ร่างผู้ใหญ่นั้นไปซื้อเบียร์ ตามที่เห็นกันในเทรลเลอร์ ซึ่งจริง ๆ แล้ว ตรงนี้ก็สะท้อนถึงวัยรุ่นทั่วไปหลาย ๆ คน ที่ตั้งหน้าตั้งตารอวันเกิดปีที่จะบรรลุนิติภาวะ อยากจะเป็นผู้ใหญ่เต็มวัยเต็มแก่ เพื่อที่ตนเองจะได้มีสิทธิซื้อแอลกอฮอล์ในร้านสะดวกซื้อหรือไปผับไปบาร์ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายสักที
ถึงแม้จะอยู่ในร่างผู้ใหญ่แล้ว แต่ถ้าอายุทางความคิดและสติปัญญายังเป็นเด็กน้อยหรือเด็กเกรียน ต่อให้มีพลังหรือความสามารถมากมายเพียงไหน เขาก็ไม่รู้จักนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม ดีแต่หาประโยชน์หรือความสุขชั่วครั้งชั่วคราวใส่ตัวไปวัน ๆ อย่างไร้สาระ หรือถ้าเลวร้ายไปกว่านั้น หากผู้ใหญ่คนนั้นหลงผิดมัวเมาหรือถูกกิเลสครอบงำ อย่าง Dr.Sivana เขาก็อาจจะนำพลังนั้นไปใช้ในทางที่ผิิดหรือทำร้ายผู้อื่นอีกด้วย
ทั้งนี้ หนังสอนด้วยว่า ทุกคนล้วนเป็นฮีโร่ได้ เพียงมีจิตใจที่บริสุทธิ์และพร้อมใช้พลังของตนเพื่อช่วยเหลือคนอื่น เช่น พ่อแม่อุปถัมภ์ของ Billy ก็ถือว่ามีซูเปอร์พาวเวอร์ เพราะเสียสละและใช้พลังเท่าที่มีในการเลี้ยงดูเด็กกำพร้าหลายคนให้มีชีวิตที่ดีกว่าเดิม เป็นต้น
เนื่องจากหนัง Shazam! ให้ความสำคัญกับบท จนพาร์ทครอบครัวดีมากผ่านฉลุย และนำพาฮีโร่เข้าสู่สายฮา (และอบอุ่น) อย่างเต็มตัว นอกจากนี้ Shazam ยังเป็นฮีโร่เด็กในร่างผู้ใหญ่ด้วย และเพิ่งได้รับพลังด้วย ถึงแม้พลังจะมหาศาลยิ่งกว่าซูเปอร์แมน แต่ก็ยังใช้ไม่เป็นสักอย่าง คือเขาไม่ได้เปิดเรื่องมาก็เก่งแล้วอย่าง Aquaman หรือ Wonder Woman ดังนั้น ฉากแอ็คชั่นหรือฉากต่อสู้รุนแรงในเรื่องนี้จึงไม่ได้เยอะหรือวินาศสันตะโรเท่าหนังฮีโร่เรื่องอื่น ๆ แต่ก็เป็นหนังฮีโร่ที่ดูได้ทั้งครอบครัว และสนุกครบรสจริง ๆ
สิ่งเดียวที่เราไม่ชอบในหนังเรื่องนี้คือ Billy Batson ตอนวัยสิบห้า กับตอนที่เป็น Shazam บุคลิกดูขัดกันราวกับคนละคนมากเกินไปหน่อย กล่าวคือ ตอนเป็นเด็ก ดูพูดน้อย อมทุกข์ แบกโลก เครียดหาแม่ แต่พอเป็นฮีโร่ตัวใหญ่ เกรียนชิบหาย ล้น ๆ เห่อพลัง ไร้สาระ ไม่ตามหาม่งหาแม่แล้ว ติดเล่นอย่างเดียว แต่โดยรวมก็ไม่ได้ติดใจอะไรมาก เพราะยอมที่หนังมันทำมาสนุกจริง
คะแนนตามความชอบส่วนตัว 8/10
ป.ล. มี end-credit สองตัว รอดูทั้งสองตัวได้อยู่ ไม่เสียเวลาอะไร
60 comments
Comments are closed.